“เจมส์ นากาชิมา” เปิดศึกท้าชิงแชมป์โลก สะกดคำว่า “กดดัน” ไม่เป็น
“เจมส์ นากาชิมา” นักกีฬาการต่อสู้แบบผสมผสานผู้ครองสถิติไร้พ่าย 12 ไฟต์ ชาวอเมริกัน ซึ่งเดินทางมาไกลถึงฝั่งฝัน และเหลืออีกเพียงก้าวเดียวเท่านั้นที่จะได้นั่งบัลลังก์แชมป์โลก หากสามารถโค่น “Brazen” เคียมเรียน อับบาซอฟ แชมป์โลก ONE รุ่นเวลเตอร์เวต ให้ตกจากบัลลังก์ได้
ความสำเร็จบนเส้นทางนักสู้ของ เจมส์ นากาชิมา เจ้าตัวยอมรับว่ามันไม่เกิดขึ้นจากตัวเขาเพียงคนเดียว แต่เพราะด้วยความช่วยเหลือจากคนรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็น พ่อแม่ ครอบครัว ยิม และโค้ช
“ไม่มีอะไรในโลกสำเร็จเกิดขึ้นจากคนๆ เดียว และแน่นอนว่าความตั้งใจ ทุ่มเท มันต้องมาควบคู่กันไปด้วย ซึ่งในกรณีของผมการเดินทางมาถึงตำแหน่งผู้ท้าชิงเกิดจากการสนับสนุน ไม่เช่นนั้นผมก็คงมาไม่ถึงวันนี้”
นอกจากครอบครัวแล้ว ผู้มีส่วนช่วยสนับสนุนและผลักดัน เจมส์ ก็คือสองยิมชั้นนำระดับโลกอย่าง MMA Lab และ ทีมเปโตรเซียน ซึ่งได้เปลี่ยนโฉมอดีตนักมวยปล้ำ NCAA ดิวิชัน I อย่างเขา ให้กลายเป็นนักกีฬาการต่อสู้แบบผสมผสานอย่างเต็มตัว
ก่อนที่ เจมส์ จะเซ็นสัญญากับ วัน แชมเปียนชิพ ในเดือนพฤศจิกายน 2561 เขาสั่งสมสถิติไร้พ่ายต่อเนื่อง 9 ไฟต์ หลังจากนั้นก็เก็บชัยชนะเหนือคู่แข่งอีก 3 รายในเวทีระดับโลก ทั้ง ไรมอนด์ มาโกเมดาลิเอฟ, หลุยส์ ซานโทส และ ยููชิน โอกามิ
การกำลังก้าวเท้าแข่งขันในศึกนัดสำคัญของชีวิตในวันศุกร์ที่จะถึงนี้ แน่นอนว่า เจมส์ มีความตื่นเต้นและรู้สึกประหม่าในช่วงก่อนวันแข่งขัน 1-2 วัน แต่ด้วยความที่ชีวิตของเขาผ่านเรื่องราวที่แสนลำบากมามากมาย และคร่ำหวอดอยู่ในวงการต่อสู้มานาน เขาจึงรับมือกับความกดดันที่เกิดขึ้นได้
“ผมไม่เคยเจองานง่าย ผมเดินทางไปทั่วอเมริกา เพื่อเผชิญหน้ากับคู่แข่งคนแล้วคนเล่า เอาจริงๆ สำหรับศึกนี้ ตั้งแต่ผมเดินทางมาถึงโรงแรมเก็บตัวที่สิงคโปร์ ผมรู้สึกมีความสุขดี และดีใจที่ได้รับโอกาสขึ้นชิงแชมป์โลก”
“ความกดดันจริงๆ ในชีวิตของผม คือความรู้สึกที่เติบโตขึ้นมาแบบอดมื้อกินมื้อ รวมถึงภาวะว่างงานในช่วงวิกฤติโคโรนาไวรัสระบาด และการไม่มีเงินพอที่จะเลี้ยงครอบครัวได้”
“การต้องตื่นเช้า ใช้เวลากับลูกสาวทุกวัน เพื่อปลูกปั้นให้เธอเติบโตขึ้นเป็นคนที่ดี และการต้องดูแลแฟนสาว ภาระต่างๆ ในชีวิตประจำวัน นั่นต่างหากคือความกดดัน นอกนั้นอย่างอื่นแล้วไม่ใช่ความกดดันสำหรับผมเลย”
แม้ศึกนี้จะเดิมพันด้วยเข็มขัดแชมป์โลก ONE รุ่นเวลเตอร์เวต แต่ เจมส์ ซึ่งไร้ความกดดันใดๆ ในฐานะผู้ท้าชิง จะสามารถกระชากเข็มขัดมาจากแชมป์โลกอย่าง เคียมเรียน ได้หรือไม่ ศุกร์ที่ 6 พ.ย.นี้มีคำตอบ!
รับชมได้ทาง
- ONE Super App เวลา 19.30 น.
- YouTube ของ ONE Championship เวลา 19.30 น.
- AIS Play เวลา 19.30 น.
- ไทยรัฐทีวี ช่อง 32 เวลา 22.40 น.
อ่านเพิ่มเติม: