4 ปีที่รอคอย “เหงียน ตรัน ดุย งัด” หวังน็อก “เดนิส” ทวงคืนสปอตไลต์
“เหงียน ตรัน ดุย งัด” พร้อมใช้ประสบการณ์และจิตวิญญาณมวยไทยที่มี เอาชนะน็อก “เดนิส พูริช” ฉลองการกลับคืนสังเวียน ONE ในรอบ 4 ปี เชื่อไฟต์นี้อะไรก็เกิดขึ้นได้
“เหงียน ตรัน ดุย งัด” ซูเปอร์สตาร์มวยไทย วัย 34 ปี จากเวียดนาม ที่ห่างหายจากสังเวียน ONE ไปนานถึง 4 ปี ได้ฤกษ์กลับมาโชว์ฝีมืออีกครั้ง พร้อมประชันความเดือด “เดนิส พูริช” จอมบู๊รุ่นใหญ่วัย 38 ปี จากแคนาดา-บอสเนีย ในกติกามวยไทย รุ่นฟลายเวต (125-135 ป.) ในศึก ONE Fight Night 17: โรมัน vs อเล็กซ์ ถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) ช่วงเวลาไพรม์ไทม์อเมริกา ซึ่งตรงกับช่วงเช้าเวลา 08:00 น. ของวันเสาร์ที่ 9 ธ.ค.66
สำหรับ “เหงียน” ถือเป็นหนึ่งในนักมวยไทยระดับหัวแถวของเวียดนามที่มีดีกรีไม่ธรรมดา โดยเขาเปิดตัวใน ONE เมื่อครั้งไปจัดการแข่งขันครั้งแรกในถิ่นดาวทองเวียดนาม ในศึก ONE: IMMORTAL TRIUMPH เมื่อเดือน ก.ย.62 โดยสามารถโชว์ฟอร์มสุดปังเอาชนะน็อกคู่ชกมาเลย์ “อัซวาน เจ วิล” ก่อนจะสานต่อผลงานชิ้นโบว์แดงด้วยการหวดแข้งปิดเกมคู่แข่งจากญี่ปุ่น “ยูตะ วาตานาเบะ” แบบไม่ครบยกในอีกสองเดือนต่อมา
แต่ทว่าในปี 2563 ทั่วโลกก็ต้องพบกับเรื่องไม่คาดฝัน เมื่อเกิดการระบาดใหญ่ของโควิด-19 จนทำให้เกิดข้อจำกัดในการเดินทางเข้าออกประเทศ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบให้กับ “เหงียน” มีอันต้องห่างหายจากสังเวียน ONE ยาวนานถึง 4 ปี ในขณะเดียวกันช่วงเวลาดังกล่าว “เหงียน” ได้พลิกบทบาททุ่มเทให้กับการทำหน้าที่โค้ชทีมชาติเวียดนาม ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมาก
“โควิด-19 ทำให้โลกหยุดหมุนลงกะทันหัน ผมควรจะได้ขึ้นชก แต่ก็โดนยกเลิก รัฐบาลเวียดนามมีนโยบายด้านสุขภาพที่เข้มงวดมาก จึงไม่มีการจัดรายการการต่อสู้ต่อเลย”
“เนื่องจากผมลงแข่งไม่ได้จริง ๆ ผมเลยโฟกัสที่การเป็นโค้ชแทน ผมทำงานเป็นโค้ชให้ทีมชาติเวียดนามที่เข้าร่วมการแข่งขันกุนขแมร์ในกีฬาซีเกมส์ครั้งล่าสุด คอยดูแลนักกีฬา วางแผน เป็นพี่เลี้ยงในมุม แบ่งปันประสบการณ์ของผมให้กับพวกเขา ซึ่งความทรงจำทั้งหมดนี้จะคงอยู่กับผมตลอดไปครับ”
หลังจากที่สถานการณ์โควิด-19 เริ่มดีขึ้น “เหงียน” ที่ลงแข่งขันศาสตร์การออกอาวุธในรูปแบบยืนมาทั้งชีวิตก็คิดที่จะหาความท้าทายใหม่ ด้วยการลงแข่งขันศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) ในระดับสมัครเล่น โดยเขาสามารถเอาชนะรวดทั้งหมด 4 ไฟต์ ตลอดทั้งทัวร์นาเมนต์ แถมยังเป็นชัยชนะแบบไม่ครบยกถึง 3 ครั้ง ส่งให้เขาคว้าแชมป์รายการดังกล่าวมาครองได้สำเร็จ ซึ่งความพยายามครั้งใหม่นี้ ถือเป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญที่ช่วยผลักดันให้กีฬาชนิดนี้เติบโตขึ้นในประเทศบ้านเกิดของเขา
“มีสองเหตุผลว่าทำไมผมถึงลองสู้ในแบบ MMA อย่างแรก ศิลปะการต่อสู้ชนิดนี้กำลังได้รับความนิยมในเวียดนาม แต่ยังเป็นอะไรที่ใหม่สำหรับคนที่นี่ ผมเชื่อว่าหากผมสามารถปรากฏตัวและให้ผู้คนเห็นว่า MMA น่าตื่นเต้นขนาดไหน กีฬาชนิดนี้ก็จะเติบโตเร็วขึ้นในประเทศของผมอย่างแน่นอนครับ”
“เหตุผลข้อที่สองคือ ผมเห็นว่ามีนักสู้ MMA และนักมวยไทยผู้ยิ่งใหญ่หลายคนใน ONE ก้าวออกจากคอมฟอร์ตโซนและทดสอบตัวเองกับกีฬาใหม่ ๆ ซึ่งสร้างแรงบันดาลใจให้ผมอย่างมาก ผมคิดว่าผมเองก็ทำแบบนั้นได้ จึงตัดสินใจลุยเลยครับ”
“เหงียน” รู้สึกสนุกกับการลงแข่งขัน MMA และหวังว่าสักวันเขาอาจจะได้รับโอกาสลงแข่งกติกานี้ใน ONE แต่ถึงกระนั้นเขาก็รู้สึกตื่นเต้น และใจจดใจจ่อเมื่อรู้ว่าจะได้กลับมาโลดแล่นบนสังเวียนระดับโลกอีกครั้ง เพื่อเผชิญหน้ากับ “เดนิส พูริช” อีกหนึ่งตัวตึงของวงการมวยไทยในรุ่นฟลายเวต ซึ่ง “เหงียน” โฟกัสคู่ชกรายนี้เป็นพิเศษ เพราะเขาหวังจะเก็บชัยชนะแบบไม่ครบยกเป็นครั้งที่สามติดต่อกันบนสังเวียน ONE ให้ได้
“ผมเคยดูเขาชก ผมสังเกตเห็นว่าการออกหมัด พละกำลัง และความสดของเขาอันตรายขนาดไหน เพราะอย่างนั้น ผมจะประมาทเขาไม่ได้ ผมต้องคำนวณเกมการชกให้รอบด้าน โดยเฉพาะวิธีการใช้ลูกเตะ และจังหวะเคลื่อนที่ของผม”
“ผมสนใจด้านเทคนิคมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นการคุมเกม การรักษาระยะด้วยลูกเตะและฟุตเวิร์ก รวมถึงการทำให้เขาหมดทางสู้ นั่นคือสิ่งที่ผมให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก และแน่นอนว่าถ้าผมมีโอกาส ผมก็จะเอาชนะน็อกเขาให้ได้ครับ”
ชัยชนะสองไฟต์แรกใน ONE ของ “เหงียน” แสดงให้แฟนกีฬาทั่วโลกได้รับรู้แล้วว่าเขาก็มีพลังโจมตีที่รุนแรงไม่แพ้เหล่านักชกระดับแนวหน้าในแรงกิงมวยไทยรุ่นฟลายเวต ซึ่งไฟต์นี้ถ้าหากเขาสามารถคว้าชัยแบบน็อกเอาต์ได้เป็นครั้งที่สามติดต่อกัน มันอาจจะทำให้นักสู้ทุกคนในรุ่นนี้มองข้ามฝีมือเขาไม่ได้
อย่างไรก็ตาม “เหงียน” ยังคงมุ่งมั่นที่จะสานต่อผลงานอันยอดเยี่ยมเมื่อ 4 ปีที่แล้ว เพื่อผลักดันตัวเองไปสู่การขึ้นเป็นผู้ท้าชิงเข็มขัดแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวต ที่ “รถถัง จิตรเมืองนนท์” ครอบครองอยู่ในปัจจุบัน ด้วยเหตุนี้เองยอดฝีมือจากโฮจิมินห์ จึงต้องวางแผนการชกที่กำลังจะมาถึงนี้อย่างละเอียดยิบด้วยหนึ่งสมอง สองเท้า และสองกำปั้นของเขา
“ไฟต์นี้อะไรก็เกิดขึ้นได้ ผมคิดว่าเราน่าจะใช้เวลาในยกแรกเพื่อศึกษาเชิงชกของกันและกัน หลังจากนั้นความร้อนแรงก็จะเริ่มทวีคูณขึ้นเรื่อย ๆ ในยกต่อ ๆ ไป ซึ่งผมเชื่อมั่นในประสบการณ์ ทักษะ และจิตวิญญาณความเป็นมวยไทยของผม ผมจะทำเต็มที่เพื่อคว้าชัยชนะในครั้งนี้ให้ได้ครับ”
ติดตาม “เหงียน vs เดนิส” ในศึก ONE Fight Night 17 ถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) วันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม 2566 เริ่มคู่แรกเวลา 08.00 น. รับชมทาง
- ช่อง 7HD กด 35 (ภาษาไทย) เริ่ม 10.00 น.
- เฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand เริ่ม 08.00 น.
- ยูทูบ ONE Championship (บางประเทศ) เริ่ม 08.00 น.
- Watch.ONEFC.com (บางประเทศ) เริ่ม 08.00 น.
- จองบัตรเข้าชมที่สนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) THAI TICKET MAJOR