อย่าให้ผมต้องรออีกเลย “นิโค” ล็อกเป้าขอชิงเข็มขัด ผู้ชนะคู่ “แฮ็กเกอร์ตี-ซุปเปอร์เล็ก”
“King of the North” นิโค คาร์ริลโล จอมบู๊เลือดเดือด วัย 25 ปีจากสกอตแลนด์ เจ้าของตำแหน่งผู้ท้าชิงอันดับ 1 ของแรงกิง ONE มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต สุดภูมิใจหลังประเดิมศึกใหญ่ ONE Fight Night ครั้งแรกด้วยการเอาชนะทีเคโอ “ซ้ายฟ้าผ่า” เสมาเพชร แฟร์เท็กซ์ ในศึก ONE Fight Night 23: เร ยุน vs อาลิเบก เมื่อวันเสาร์ที่ 6 ก.ค. ที่ผ่านมา พร้อมประกาศขอท้าชิงบัลลังก์เป็นเป้าหมายต่อไป
ไฟต์นี้นอกจากจะเป็นไฟต์แรกที่ “นิโค” มาชกรายการ ONE Fight Night แล้ว เจ้าตัวยังแบกศักดิ์ศรีผู้ท้าชิงอันดับ 1 ของแรงกิง ONE มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต (135-145 ป.) ขึ้นสังเวียนด้วย โดยเจ้าตัวยอมรับว่าต้องว่าแบกความกดดันมหาศาล แต่ผลลัพธ์ที่ออกมาถือว่าคุ้มค่ากับการทุ่มเทตลอดเวลาที่ผ่านมา
“ผมกดดันมากกับการขึ้นสังเวียนด้วยการเป็นอันดับ 1 ของแรงกิง ผมต้องป้องกันตำแหน่งของผมเอาไว้ ถ้าผมแพ้ผมจะเสียทุกอย่างไป ทำให้ผมกดดันมาก ๆ แต่เพชรเกิดขึ้นได้จากแรงกดดัน”
“ผมเก็บตัวไฟต์นี้มาราว 7 สัปดาห์ ผมซ้อมหนักเสมอ ทีมงานโค้ชทุกทุ่มเทขัดเกลาเทคนิค ปรับปรุงสิ่งที่ผมทำไม่ถูกให้เข้าที่เข้าทาง แม้ผมจะไม่ชอบเท่าไหร่ แต่เห็นได้ชัดว่ามันคุ้มค่ามาก”
“นิโค” ต้องโคจรมาเจอกับ “เสมาเพชร” ผู้ที่เคยครองตำแหน่งผู้ท้าชิงอันดับ 1 มานานหลายปี และมีผลงานในการชก ONE ชนะมากถึง 9 ไฟต์ ซึ่ง “นิโค” ก็รู้ถึงทีเด็ดของคู่ชกเป็นอย่างดี และเตรียมแผนมาแก้ทางโดยเฉพาะ
เกมการชกบนเวที “นิโค” นอกจากจะออกอาวุธได้ชัดเจนกว่า ยังปล่อยทีเด็ดหมัดซ้ายและหมัดชุดที่เตรียมมาจนได้ 3 นับ ในช่วงยกที่ 2 ผู้ชี้ชาดบนเวทีจึงยุติการชกและชูมือให้ “นิโค” ชนะทีเคโอในที่สุด
“ผมศึกษาเสมาเพชร เป็นอย่างดี เขาเก่งมาก มีหมัดซ้ายเป็นทีเด็ด แต่เขามักจะพาตัวเองไปอยู่ในตำแหน่งที่เายเปรียบ และมักจะเข้าไม่ถึงตัวคู่ต่อสู้ ผมจึงพยายามใช้ระยะห่างกับเขา”
“ยกแรก ผมระวังหมัดซ้ายของเขามาก เลยไม่ได้รีบร้อนเท่าไหร่ ทุกอย่างที่ผมทำคือไล่กดดัน จนหลังเขาพิงเชือก จากนั้นผมก็ปล่อยหมัดใส่เขา เล่นงานเขาจัง ๆ และนั่นคือสิ่งที่ผมทำ”
“จบยกแรก พี่เลี้ยงแก้เกมสั่งให้ออกหมัดให้แม่นขึ้นหน่อย เขายังบอกอีกว่า ถ้าเห็น เสมาเพชร ก้มตัว ให้ใช้เข่าเพราะคู่ต่อสู้จะพยายามเข้าหาด้วยการก้มตัวให้ต่ำเพราะผมจะทำอะไรเขาไม่ได้ เนื่องจากอยู่ใกล้เกินไป เขาเลยบอกว่าถ้าเห็นแบบนั้นให้แทงเข่าใส่หน้าเลย”
“ในยก 2 ผมฮุกซ้ายใส่เขา นับแรกผมไม่คิดว่าจะทำอะไรเขาได้มากนัก แต่ฮุกซ้ายครั้งที่สอง ผมคิดว่านั่นทำให้เขาเจ็บ หลังจากนั้น ผมคิดว่านับสุดท้ายน่าจะเป็นหมัดขวาที่ทะลวงผ่านการ์ด และทำให้เขาล้มลง ซึ่งตลอดอาชีพของผม ทุกคนที่โดนแบบนี้ไม่เคยมีใครรอด”
ชัยชนะไฟต์นี้นอกจากจะเป็นการปิดเกมแบบไม่ครบยก 4 ติดต่อกันแล้วนั้น ยังประเดิมสังเวียน ONE Fight Night ได้อย่างสวยงาม พร้อมทั้งคว้าโบนัส 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.8 ล้านบาท) จากบิ๊กบอส “ชาตรี ศิษย์ยอดธง” ได้อีกด้วย
โดยเป้าหมายต่อไปคือการเฝ้ารอโอกาสที่จะได้ขึ้นชิงแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต (135-145 ป.) ในอนาคต เจ้าตัวเฝ้ารอไฟต์หยุดโลกระหว่าง ““The General” โจนาธาน แฮ็กเกอร์ตี เจ้าของบัลลังก์ที่จะขึ้นป้องกันเข็มขัดกับ “เครื่องจักรนักเตะ” ซุปเปอร์เล็ก เกียรติหมู่ 9 ในศึก ONE 168: Denver ช่วงเดือน ก.ย. นี้ และพร้อมจะเผชิญหน้ากับผู้ชนะของไฟต์นี้
“ไฟต์ระหว่าง โจนาธาน vs ซุปเปอร์เล็ก น่าสนใจมากสำหรับผม ผมจะต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิด เพราะผมเชื่อว่าใครก็ตามที่ชนะไฟต์นั้น จะเป็นคู่ชกคนต่อไปของผม ไม่ว่าจะเป็นซุปเปอร์เล็ก หรือ โจนาธาน แฮ็กเกอร์ตี ผมพร้อมเจอ”
“ซุปเปอร์เล็ก โจนาธาน แฮ็กเกอร์ตี ขอให้คุณทั้งคู่ชกให้เต็มที่ ขอให้โชคดีทั้งคู่ ผมคือคนต่อไป ที่คุณไม่อาจปฏิเสธได้ ผมคือคนต่อไป คุณชาตรี ขอให้ผมได้ชิงแชมป์ในไฟต์หน้า อย่าปล่อยให้ผมเฝ้ารออีกเลย อย่าให้ผมชกกับนักชกตัวท็อปเหล่านี้โดยไม่มีโอกาสได้ท้าชิง ใครก็ตามที่ได้เข็มขัดที่เดนเวอร์ อย่ายึดติดกับเข็มขัดมากนัก เพราะมันกำลังจะหลุดจากมือคุณ ราชันแดนเหนือ กำลังจะไปกระชากเข็มขัด”
แฟนกีฬาสามารถติดตามข่าวสารอัปเดตได้ที่นี่และโซเชียลมีเดียของ ONE ทุกช่องทาง ได้แก่ เฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand และอินสตาแกรม ONEChampTh