เทรนเนอร์ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง เผยโฉมเทรนเนอร์คู่ใจ “น้องโอ๋” แชมป์โลกฆ่าไม่ตาย
แชมป์โลกฆ่าไม่ตาย “น้องโอ๋ ไก่ย่างห้าดาว” เผยโฉมหน้าเทรนเนอร์คู่ใจซึ่งมีส่วนสำคัญที่ทำให้เขายังคงยืนหนึ่งเรื่องความแข็งแกร่งและเฉียบคมในวัย 35 ปี
เทรนเนอร์ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง เป็นสิ่งที่นักกีฬาทุกคนรู้ดี และการเป็นเทรนเนอร์ที่ดีนั้นไม่ใช่เพียงทำหน้าที่ล่อเป้าหรือลงนวมด้วยเท่านั้น แต่ยังต้องสามารถวิเคราะห์ได้ว่านักกีฬาที่ตนดูแลอยู่มีจุดแข็งหรือจุดอ่อนตรงไหน เพื่อที่จะดึงศักยภาพของนักกีฬาออกมาได้สูงสุด
สำหรับ น้องโอ๋ แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นยอดมวยและเป็นเจ้าของตำแหน่งแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต รวมทั้งสวมบทบาทครูมวยที่ค่ายอีโวลฟ์ ในสิงค์โปร์ ก็ยังต้องพึ่งเทรนเนอร์ที่รู้ใจและเข้าใจสไตล์การชกของเขาเป็นอย่างดี
โดย น้องโอ๋ เผยว่าตนโชคดีที่ได้เทรนเนอร์ที่สนิทสนมคุ้นเคยและเข้าคู่กันดีเป็นปี่เป็นขลุ่ย จึงทำให้การฝึกซ้อมเป็นไปด้วยดีและได้พัฒนาทักษะอยู่ตลอดเวลา
เทรนเนอร์คู่ใจที่ น้องโอ๋ พูดถึงก็คือ “เคนเน็ธ เทย์” (Kenneth Tay) เทรนเนอร์หนุ่มวัย 27 ปี ที่ทำงานอยู่ในค่ายอีโวลฟ์ เช่นกัน โดยแฟนกีฬาที่ติดตาม น้องโอ๋ ทางโซเซียลมีเดีย ก็อาจเคยเห็นเทรนเนอร์รายนี้ทำหน้าที่จับเป้าและเป็นคู่ซ้อมให้ น้องโอ๋ อยู่บ่อย ๆ โดย น้องโอ๋ เล่าถึงที่มาที่ไปของเทรนเนอร์ประจำกายรายนี้ว่า
“ผมรู้จัก เคเน็ธ ตั้งเเต่ผมเข้ามาสอนมวยที่สิงคโปร์ใหม่ ๆ เมื่อ 7 ปีก่อนครับ ตอนนั้น น้องเขาเป็นผู้ช่วยครูมวยไทย เข้ามาทำงานพาร์ตไทม์ที่ยิม หน้าที่ของเขาคือช่วยครูมวยไทยล่อเป้าให้ลูกศิษย์ครับ ตอนนี้ น้องเขาเลื่อนตำเเหน่งมาเป็นโค้ชมวยไทยและทำการตลาดให้ยิมแล้ว แต่เราก็ยังซ้อมด้วยกันอยู่ประจำครับ”
“ตอนเเรก ๆ เราก็ซ้อมมวยด้วยกัน น้องชอบมาซ้อมกับผม ก็เปลี่ยนกันจับเป้าให้กันบ้าง ผมดูแล้วก็เลยรู้ว่าน้องเป็นคนที่มีความสามารถด้านมวยไทย และมารู้ว่าน้องเคยชกมวยไทยสมัครเล่นมาก่อน เเต่ยังไม่ได้ถึงขั้นนักมวยอาชีพ จากนั้น ผมก็ให้เขาจับเป้ามาตลอดครับ”
“เคนเน็ธ เป็นคนที่ขยันมาก ๆ มีความพยายาม และพัฒนาตัวอยู่ตลอดเวลา เป็นคนที่คอยดูแลและเอาใจใส่ผมมาก ๆ เหมือน น้องชายเเท้ ๆ ของผมเลยครับ เขาจะช่วยเราซ้อม และหาวิธีให้เราได้กำลังมากที่สุด”
“เวลาเราซ้อม คนจับเป้าต้องรู้ว่าเราอ่อนจุดไหน แข็งจุดไหน และจุดไหนควรแก้ไขเพิ่มเติม เขาก็จะคอยช่วยเราศึกษาคู่ชกและวางแผนแก้ทางคู่ชกไปด้วยกันว่าทำอย่างไรถึงจะออกมาดีที่สุดครับ”
หลังจากสามารถป้องกันตำแหน่งครั้งล่าสุดเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ตอนนี้ น้องโอ๋ ก็กลับไปทำหน้าที่ครูมวยที่สิงคโปร์เหมือนเดิม ควบคู่กับการฝึกซ้อมส่วนตัวสำหรับการลงศึกป้องกันแชมป์ครั้งตจ่อไปกับผู้ท้าชิงรายใหม่ “เลียม แฮร์ริสัน”
แม้ตารางงานในฐานะครูมวยจะแน่นเอี้ยด แต่ยอดมวยจอมเก๋ายังคงแบ่งเวลาและมีวินัยการฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสมอไม่มีขาดตกบกพร่อง เพื่อเตรียมสำหรับศึกใหญ่ครั้งต่อไป
“ผมทำงานตั้งแต่เช้ายันดึกเลยครับ แต่ถ้าผมมีเวลาว่างสักชั่วโมง ผมก็จะไปวิ่งทำร่างกาย และก็ซ้อมเป้ากับเทรนเนอร์ประจำครับ ผมไม่ปล่อยเวลาว่างให้เปล่าประโยชน์ และยิ่งเราอายุมากขึ้นก็ต้องซ้อมให้หนักกว่าเดิมเพื่อให้ร่างกายเราพร้อมเสมอครับ”
“ยิ่งครั้งหน้าต้องเจอกับ เลียม ซึ่งผมว่าเขาเป็นงานยากอยู่เหมือนกัน ตอนนี้ ผมก็ทำร่างกายอยู่ตลอดเพื่อให้พร้อมมากที่สุดสำหรับไฟต์หน้าครับ”
อ่านเพิ่มเติม: