“ซง จิง หนาน” ขยี้ผู้ท้าชิงรายที่ 5 ได้กอดเข็มขัดต่อ “แสตมป์” เฉือนคู่ปรับเคลียร์ปมคาใจ
จบบริบูรณ์สำหรับศึก ONE: EMPOWER เมื่อวันศุกร์ที่ 3 ก.ย.64 อันเป็นศึกแห่งศักดิ์ศรีวีรสตรีนักสู้จากทั่วโลกที่เดินทางมารวมตัวกันบนสังเวียนถึง 16 ชีวิต คู่เอกแชมป์โลก MMA คนแรกของจีน “The Panda” ซง จิง หนาน ป้องกันตำแหน่งของตัวเองไว้ได้เป็นครั้งที่ 5 ด้านนักสู้สาวไทยหนึ่งเดียวของอีเวนต์นี้ “แสตมป์ แฟร์เท็กซ์” ล้างตาคู่ปรับยูเครนสำเร็จ ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ ต่อไป
“ซง” กอดเข็มขัดต่อ
แชมป์โลก ONE รุ่นสตรอว์เวต (52.3 – 56.7 กก.) จากแดนมังกร “ซง จิง หนาน” วัย 33 ปี ป้องเข็มขัดจากผู้ท้าชิงรายที่ 5 ชาวบราซิล “มิเชลล์ นิโคลินี” วัย 39 ปี ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นตัวแม่ครองแชมป์ในกีฬาบราซิลเลียนยิวยิตสู (BJJ) มาแล้วถึง 13 สมัย
ภาพรวมตลอด 5 ยก แชมป์เป็นฝ่ายครองเกมยืนอย่างเหนือชั้น มีลูกเตะและหมัดทำลายจังหวะ พร้อมสร้างความเสียหายให้ฝ่ายตรงข้าม บวกกับการหลบหลีกที่ว่องไว ไม่ยอมเพลี่ยงพล้ำหลงกลลงไปเล่นเกมนอนที่เจ้าแม่ BJJ รอฉวยโอกาสอยู่ ทำให้ มิเชลล์ แทบไม่มีโอกาสได้โชว์ทักษะเกมภาคพื้นของตัวเอง
แม้ มิเชลล์ จะชิงจังหวะรวบ ซง ลงพื้นได้บ้าง แต่ก็ไม่อาจต้านความแกร่งของ ซง ที่พลิกเกมกลับขึ้นมายืนสู้ได้ครั้งแล้วครั้งเล่า และบรรเลงเพลงมวยจน มิเชลล์ ถึงกับถอดใจ ครบ 5 ยกจึงเป็นฝ่ายแชมป์ “ซง จิง หนาน” ได้รับการชูมือด้วยคะแนนเอกฉันท์ และครองเข็มขัดต่อไปอย่างสมศักดิ์ศรี
“ซอ” เฉือนชนะ “เดนิส”
ด้านการแข่งขัน เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รุ่นอะตอมเวตหญิง (47.7 – 52.2 กก.) กติกาการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) 3 ยก ตัวเต็งอันดับ 1 ของแรงกิง “เดนิส แซมโบอันกา” จากฟิลิปปินส์ เจอสายแข็งจากเกาหลีใต้ “ซอ ฮี ฮาม” ที่มาประเดิมศึกเป็นไฟต์แรก
รูปเกมสองยกแรก ซอ ชิงจังหวะฟาดอาวุธหมัดเข้าเบ้าหน้าของ เดนิส เก็บคะแนนได้เรื่อย ก่อนผละออกมาตั้งหลักในเกมยืนที่ถนัดทุกครั้ง ขณะที่ เดนิส ได้โอกาสรวบตัว ซอ จึงพยายามใช้กำลังสุดตัวดันคู่แข่งหลังติดกรงหมายจะเอาลงพื้นให้ได้ สาวแดนกิมจิป้องกันตัวแน่นเหนียว ไม่เปิดโอกาสให้ เดนิส จะได้เล่นเกมนอน ทั้งคู่จึงงัดพลังกันในท่ายืน
ยกสุดท้าย เดนิส พุ่งเข้าใช้กำลังชวน ซอ เล่นเกมภาคพื้นอีก แต่เกิดอุบัติเหตุศีรษะกระแทกกันจน เดนิส เลือดอาบ แต่ด้วยสปิริตสาวตากาล็อกขอกลับมาแข่งขันให้จบ ซึ่งสุดท้าย เดนิส ก็ได้เล่นเกมนอนตามความตั้งใจ แต่ยังไม่สามารถสร้างความเสียหายได้อย่างชัดเจน ครบ 3 ยก กรรมการรวมคะแนนแล้วเสียงแตก 2 ต่อ 1 เสียง โดยชูมือให้สาวกิมจิ “ซอ ฮี ฮาม” ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ด้วยคะแนนอย่างไม่เป็นเอกฉันท์
“แสตมป์” หายคาใจ
การแข่งขัน เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รุ่นอะตอมเวตหญิง (47.7 – 52.2 กก.) กติกาการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) 3 ยก “แสตมป์ แฟร์เท็กซ์” ถูกประกบคู่ให้ล้างตาคู่แข่งยูเครน “อาลีโอนา ราสโซฮินา”
แสตมป์ ตั้งใจมาสู้ด้วยวิชามวยไทย แต่ถูก อาลีโอนา ชวนเล่นเกมนอน ลงไปอยู่ในตำแหน่งเสียเปรียบ จนถูกสาวยูเครนล็อกคอในท่ากิลโยติน โช้ก แต่ แสตมป์ ก็ดิ้นหลุดออกมาได้ ก่อนจะกลับมาเป็นฝ่ายได้เปรียบบ้างเมื่อลงสู่เกมภาคพื้นอีกครั้ง โดยจับ อาลีโอนา ล็อกคอจากด้านหลังในท่าเรียร์ เนกเกด โช้ก แต่อีกฝ่ายก็ป้องกันตัวได้ดีไม่แพ้กัน
ยกสุดท้าย เจ้าแม่อาร์มบาร์ได้โอกาสใช้ท่าไม้ตายหมายเผด็จศึก แสตมป์ จนแฟน ๆ ชาวไทยมีเสียว แต่ แสตมป์ ก็แก้เกมเอาตัวรอดได้อย่างน่าทึ่ง ครบ 3 ยก คะแนนออกมาอย่างเชือดเฉือน 2 ต่อ 1 เสียง ให้สาวไทย “แสตมป์ แฟร์เท็กซ์” เป็นฝ่ายชนะคะแนนไปอย่างไม่เอกฉันท์
“ริตู” งานปล้ำอย่างเจ๋ง
ศึกสาวต่างสายต่างขั้ว ระหว่างสายปล้ำจากแดนภารตะ “ริตู โฟกาต” ปะทะ สายหมัดจากแดนเส้าหลิน “เมง โบ” ซึ่งรั้งอยู่ในแรงกิง ONE อันดับ 2 เป็นอีกหนึ่งคู่ในการแข่งขัน เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รุ่นอะตอมเวตหญิง (47.7 – 52.2 กก.) กติกาการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) 3 ยก
ยกแรกเป็นฝ่าย เมง ที่โชว์พลังหมัดซัด ริตู ถึงกับเซไม่เป็นท่า และใช้โอกาสทองตามไปกระทุ้งทั้งหมัดทั้งศอกไม่ยั้งจน ริตู เกือบเสียสูญ เมง เปลี่ยนเกมหวังเผด็จศึก ริตู ซึ่งทุลักทุเลอยู่บนพื้นด้วยท่าอาร์มบาร์ แต่กลับเป็นการเปิดโอกาสให้แชมป์มวยปล้ำแดนภารตะพลิกกลับขึ้นมาตั้งหลัก และฝ่านาทีวิกฤติได้อย่างฉิวเฉียด
สองยกต่อมา ริตู ไม่รีรอเล่นเกมยืนตามทางของ เมง จึงปรี่เข้าเทกดาวน์อย่างรวดเร็ว แม้จะต้องฝ่ากำปั้นสาวแดนเส้าหลิน แต่ ริตู ก็มีโอกาสได้คุมเกมภาคพื้นของตัวเอง ได้กระทุ้งเข่าและอัดกำปั้นใส่ เมง ที่อยู่บนพื้น รวมถึงใช้ทักษะมวยปล้ำจับ เมง ทุ่มโดยควบคุมตำแหน่งได้เปรียบจากทางด้านข้างโกยคะแนนจนกระทั่งหมดยก กรรมการรวมคะแนน 3 ยกและชูมือให้สาวสายปล้ำ “ริตู โฟกาต” ชนะไปด้วยคะแนนอย่างเป็นเอกฉันท์
“อิตซูกิ” สายแบ๊วก็โหดเป็น
การขับเคี่ยวสุดดุเดือดของสองสาวคู่แรกใน เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รุ่นอะตอมเวตหญิง (47.7 – 52.2 กก.) กติกาการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) 3 ยก ระหว่างสายแบ๊วจากแดนปลาดิบ “อิตซูกิ ฮิราตะ” และสาวสวยดุตัวแทนชาติอเมริกา “อลิส แอนเดอร์สัน”
ภาพรวมสองยกแรก อลิส ซึ่งได้เปรียบในเรื่องช่วงตัว ส่งหมัดและเตะสกัด อิตซูกิ ที่ระวังตัวรัดกุมไม่บุ่มบ่าม แม้ อลิส ชิงจังหวะเข้ารัดได้ แต่อีกฝ่ายกลับใช้ทักษะยูโดที่เหนือชั้นกว่าทุ่ม อลิส ลงพื้นและควบคุมเกมนอนได้อย่างชัดเจน แถมกระทุ้งหมัด ฟันศอก และถองเข่าใส่ อลิส ที่อยู่ด้านล่างต่อเนื่อง
ยกสาม อลิส เดินบุกเร่งทำคะแนน โดยส่งหมัดซัด อิตซูกิ จนเสียจังหวะคว่ำลงพื้น ช่วงนาทีเข้าด้ายเข้าเข็ม อลิส รีบใช้โอกาสทองเข้ารวบ แต่ถูกอีกฝ่ายทุ่มลงพื้นเสียเอง และกระหน่ำอาวุธโจมตีอย่างไม่ยั้งมือ เมื่อครบ 3 ยก กรรมการรวมคะแนนและชูมือให้สาวซามูไร “อิตซูกิ ฮิราตะ” เป็นฝ่ายชนะคะแนนไปอย่างเป็นเอกฉันท์ ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ
“อนิสสา” ทำสาวสเปนเมาหมัด
การประเดิมศึกแรกของนักชกแดนน้ำหอมที่ได้รับการยกย่องว่าเก่งกาจที่สุดเมื่อเทียบปอนด์ต่อปอนด์ “อนิสสา เม็กเซน” เผชิญหน้าคู่แข่งจากสเปนที่มาเปิดตัวครั้งแรกเช่นเดียวกันอย่าง “คริสตินา โมราเลส” ในกติกาคิกบ็อกซิ่ง รุ่นอะตอมเวต (47.7 – 52.2 กก.)
สองสาวเปิดเกมไว แลกหมัดเตะกันพัลวัน อนิสสา ใช้แข้งยาววัดเข้าลำตัวและศีรษะฝ่ายตรงข้าม พร้อมตั้งการ์ดเหนียวแน่น ด้าน คริสตินา ก็ไม่น้อยหน้า อัดหมัดเข้าลำตัวซ้ายขวา แถมด้วยลูกถีบสกัด
ยกสองทั้งคู่ยังเครื่องแรก อนิสสา ฟาดหมัดใส่ คริสตินา มีหน้าหงาย แถมเสยแข้งขวาขึ้นก้านคอ สาวสเปนถึงกับโงนเงน ก่อนทั้งคู่จะดวลเดือดกันแบบหมัดต่อหมัดอย่างไม่มีใครยอมใคร แต่สุดท้าย คริสตินา เป็นฝ่ายทนพิษหมัดไม่ไหว ร่วงลงไปอย่างมึนเมา กรรมการจึงตัดสินใจยุติการแข่งขัน ในนาทีที่ 2:27 ของยกที่สอง
“แจ็กกี” แกร่งเหนือชั้น
การแข่งขันมวยไทย รุ่นสตรอว์เวต (52.3 – 56.7 กก.) ระหว่างสาวแกร่งชาวฟิลิปปินส์-อเมริกัน “แจ็กกี บุนตัน” ซึ่งมีโค้ชคนเดียวกันกับแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นอะตอมเวต “เจเน็ต ท็อดด์” ตั้งใจมาเพื่อสกัดทางดังน้องใหม่อาร์เจนตินา “แดนิลา โลเปซ”
ยกแรก แดนิลา ขอเป็นฝ่ายเดินบุก แต่ด้วยความบุ่มบ่ามจึงถูก แจ็กกี ที่รออยู่ฟาดหมัดหนักหน่วงและเข้าเป้า ทำเอา แดนิลา ถึงกับหน้าสะบัด ออกอาการแหยง ส
องยกหลัง แจ็กกี ระดมหมัดชุดใส่ แดนิลา ที่แผ่วลงอย่างเห็นได้ชัดเจน แถมเมื่อโดนจับขา แดนิลา ก็ล้มเสียการทรงตัว บวกกับโดนฮุคอันน่ากลัวของ แจ็กกี จึงยิ่งทำให้เห็นความเหนือชั้นของนักชกสาวอเมริกันอย่างทิ้งห่าง หลังครบ 3 ยก แจ็กกี เป็นฝ่ายได้รับชัยชนะด้วยคะแนนอย่างเป็นเอกฉันท์
“จูลี” สดบดเก๋า
คู่สำรอง เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รุ่นอะตอมเวต (47.7-52.2 กก.) กติกาการต่อสู้แบบผสมผสาน น้องใหม่จากบราซิล “จูลี เมซาบาร์บา” โชว์ความแกร่งประชันเจ้าแม่ BJJ สายดำจากแดนซามูไร “เม ยามากูชิ”
รูปเกมโดยรวม จูลี ใช้หมัดสกัดเจ้าแม่ BJJ สายดำแทบเข้าไม่ถึงตัว แต่ละหมัดมีพลังที่น่ากลัวและทำให้ เม ถึงกับผงะได้หลายครั้ง เม ที่ค่อนข้างเสียเปรียบเรื่องช่วงตัว พยายามใช้ทุกวิถีทางเข้าระยะประชิด แต่ทำได้แค่กอดรัดและไม่สามารถจับ จูลี ที่มีการป้องกันตัวเป็นอย่างดี ลงพื้นได้เลย แถมยังถูกตอบโต้ด้วยศอกและเข่าจนมีเสียว สุดท้าย จูลี เป็นฝ่ายได้รับการชูมือไปอย่างเอกฉันท์
สรุปผลการแข่งขันศึก ONE: Empower 3 ก.ย.64
- ซง จิง หนาน ชนะคะแนน มิเชลล์ นิโคลินี อย่างเป็นเอกฉันท์ (ชิงแชมป์โลก MMA รุ่นสตรอว์เวต)
- ซอ ฮี ฮาม ชนะคะแนน เดนิส แซมโบอันกา อย่างไม่เป็นเอกฉันท์ (เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ MMA รุ่นอะตอมเวต)
- แสตมป์ แฟร์เท็กซ์ ชนะคะแนน อาลีโอนา ราสโซฮินา อย่างไม่เป็นเอกฉันท์ (เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ MMA รุ่นอะตอมเวต)
- ริตู โฟกาต ชนะคะแนน เมงโบ อย่างเป็นเอกฉันท์ (เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ MMA รุ่นอะตอมเวต)
- อิตซูกิ ฮิราตะ ชนะคะแนน อลิส แอนเดอร์สัน อย่างเป็นเอกฉันท์ (เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ MMA รุ่นอะตอมเวต)
- อนิสสา เม็กเซน ชนะทีเคโอ. คริสตินา โมราเลส นาทีที่ 2.27 ของยกที่สอง (คิกบ็อกซิ่ง รุ่นอะตอมเวต)
- แจ็กกี บุนตัน ชนะคะแนน แดนิลา โลเปซ อย่างเป็นเอกฉันท์ (มวยไทย รุ่นสตรอว์เวต)
- จูลี เมซาบาร์บา ชนะคะแนน เม ยามากูชิ อย่างเป็นเอกฉันท์ (คู่สำรอง เวิลด์ กรังด์ปรีซ์)
อ่านเพิ่มเติม:
