เดินหน้าเดือด! “กุหลาบดำ” วัดอึด “เฟอร์ซาน”, “อวตาร” ซัด “เคนดู” ศึก ONE ลุมพินี 103

ONE เดินหน้ามอบความสนุกให้แฟนมวยหลังจากที่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (28 มี.ค.68) ศึก ONE ลุมพินี 102 จำเป็นต้องงดจัดการแข่งขันไป เนื่องจากเกิดเหตุแผ่นดินไหว โดยในศึก ONE ลุมพินี 103 เตรียมยกทัพนักกีฬาฝีมือดีมาปะทะแกร่งบนสังเวียนรวมทั้งสิ้น 12 คู่ พร้อมถ่ายทอดสดไปยัง 195 ประเทศทั่วโลก จากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) ในวันศุกร์ที่ 4 เม.ย.นี้ เริ่มคู่แรกเวลา 19.30 น.

คู่เอกของรายการ “ซ้ายอุกกาบาต” กุหลาบดำ สจ.เปี๊ยกอุทัย ยอดมวยสายแข็ง วัย 26 ปี จากสุรินทร์ พร้อมสานต่อฟอร์มแรงปะทะ “เฟอร์ซาน ชิเชก” นักสู้จอมแกร่ง วัย 28 ปี จากตุรกี ที่หวังกู้ผลงานเก่งกลับมาอีกครั้ง โดยทั้งคู่จะสู้กันในกติกามวยไทย 147 ป.

ช่วงหลัง “กุหลาบดำ” กลับคืนสู่ร่างทอง โดยเก็บชัยได้รวดในสองไฟต์ล่าสุด เริ่มจากกดน็อกยก 3 “เสือแบล็ค ท.พราน49” ในศึก ONE ลุมพินี 81 เมื่อ 27 ก.ย.67 ต่อด้วยชนะคะแนนเอกฉันท์ “จอห์น ลินีเคอร์” อดีตแชมป์โลก ONE MMA รุ่นแบนตัมเวต (135-145 ป.) จากบราซิล ในศึก ONE Fight Night 27 เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ทำให้เพิ่มสถิติขึ้นมาเป็น 9-5 ในการขึ้นชกรายการของ ONE

จุดน่าสนใจยิ่งกว่านั้นคือตลอดการชกมวยของ “กุหลาบดำ” ได้ชื่อว่าเป็นนักสู้ชาวไทยที่ยังไม่เคยพลาดท่าแพ้ให้กับนักชกต่างชาติเลยแม้แต่ครั้งเดียวจาก 8 ไฟต์ที่ลงแข่งขัน โดยเก็บชัยชนะได้ 7 ครั้ง ส่วนอีกหนึ่งไฟต์ไม่มีผลการแข่งขัน มาถึงครั้งนี้ เจ้าตัวพร้อมแล้วที่จะกำราบ “เฟอร์ซาน” เป็นเหยื่อรายต่อไป เพื่อบรรลุเป้าเก็บชัย 3 ไฟต์ติดให้ได้

ด้าน “เฟอร์ซาน” เป็นหนึ่งในนักกีฬายุคบุกเบิกของรายการ ประเดิมผลงานครั้งแรกตั้งแต่ศึก ONE ลุมพินี 2 เมื่อเดือน ม.ค.66 เวลาผ่านไปกว่า 2 ปี เจ้าตัวฝากผลงานเก็บชัยชนะมาแล้ว 3 ครั้ง จากทั้งหมด 6 ไฟต์ที่ขึ้นชก ซึ่งรวมถึงผลงานน่าจดจำอย่างการพลิกเกมกลับมาชนะน็อกยก 3 “พันฤทธิ์ ลูกเจ้าแม่สายวารี” ในศึก ONE ลุมพินี 19 เมื่อเดือน มิ.ย.66

ขณะที่ผลงานไฟต์ล่าสุดในศึก ONE ลุมพินี 74 เมื่อเดือน ส.ค.67 “เฟอร์ซาน” เสียท่าถูกทาง “คิริลล์ โคมูทอฟ” กำปั้นหมัดโหดจากรัสเซีย กดน็อกร่วงแบบหมดสภาพในยก 2 การกลับมาครั้งนี้เจ้าตัวจึงมีความมุ่งมั่นเกินร้อยที่จะขอแก้ตัวกู้ฟอร์มอีกครั้ง ด้วยการหักปากกาเซียนโค่นนักมวยไทยแถวหน้ามากดีกรีอย่าง “กุหลาบดำ” ลงให้ได้

คู่รองของรายการ “วัชรพล พีเค.แสนชัย” นักสู้เลือดเดือด วัย 32 ปี จากนครราชสีมา ออกตามล่าแต้มชัย 4 ไฟต์รวด ท้าชนแกร่งกับ “มังกร บูมเด็กเซียน” จอมบู๊สู้สนุก วัย 24 ปี จากสุรินทร์ ที่พร้อมทุ่มสุดแรงเกิดเพื่อลุ้นได้รับการชูมืออีกครั้ง ในกติกามวยไทย 119 ป.

“วัชรพล” ถือเป็นอีกหนึ่งนักสู้ที่ผ่านประสบการณ์การชกมาอย่างโชกโชน เคยประสบความสำเร็จคว้าแชมป์เวทีมวยช่อง 7 สี รุ่น 112 ป. มาครองในปี 2558 โดยเจ้าตัวสามารถแจ้งเกิดใน ONE ลุมพินี ได้อย่างรวดเร็ว ด้วยผลงานปิดเกมแบบไม่ครบยกได้ 3 ไฟต์ติด พร้อมรับเงินโบนัส 350,000 บาท ไปแล้ว 2 ครั้ง ช่วยเปลี่ยนชีวิตให้ดีขึ้นทันตาเห็น

ล่าสุดในศึก ONE ลุมพินี 92 เมื่อ 20 ธ.ค.ที่ผ่านมา “วัชรพล” ตอกย้ำความยอดเยี่ยมด้วยการกดน็อกยกแรก หยุดสถิติไร้พ่ายของ “ไม้ซางคำ ส.ยิ่งเจริญการช่าง” เอาไว้ที่ 6 ไฟต์ ได้อย่างสวยงาม กลายเป็นจอมบู๊สุดอันตรายที่ใครก็ไม่สามารถมองข้ามได้ ศึกครั้งนี้ “วัชรพล” จึงพร้อมแล้วที่จะโชว์ฟอร์มแรงต่อเนื่องสยบซ่า “มังกร” เป็นรายต่อไป

ทางฝั่ง “มังกร” เปิดตัวในศึก ONE ลุมพินี 23 เมื่อ 23 มิ.ย.66 เจองานยากทันที เมื่อตกเป็นฝ่ายพ่ายน็อกยก 3 ให้กับตัวตึงของรุ่นเล็กอย่าง “ทรงชัยน้อย เกียรติทรงฤทธิ์” แต่ด้วยด้วยสไตล์ชกสนุกสู้ไม่ถอย ทำให้เขาได้โอกาสโชว์ฝีมือใน ONE ลุมพินี อย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันเขาฝากผลงานอยู่ที่ 2-4 พร้อมรับโบนัส 350,000 บาท ติดมือไป 2 ครั้ง

ส่วนผลงานล่าสุด “มังกร” ยังเค้นฟอร์มเก่งไม่ออก เมื่อแพ้คะแนนแบบไม่เอกฉันท์ให้กับคู่ปรับหน้าเดิมอย่าง “ทองลำพูน เอฟเอ.กรุ๊ป” ในศึก ONE ลุมพินี 97 เมื่อวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา ส่งให้ต้องพบกับความปราชัยสองไฟต์ติด กลับมารอบนี้ “มังกร” จึงขอพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง ด้วยการหยุดความฮอตของ “วัชรพล” เรียกศรัทธาผู้ชมคืนมาให้ได้

คู่เอกภาคอินเตอร์ “เคนดู เออร์วิง” นักสู้หมัดคม วัย 24 ปี จากสหรัฐอเมริกา ผ่านไป 2 ไฟต์ยังแพ้ไม่เป็น เปิดหน้าท้าแลกอาวุธหนัก “อวตาร พีเค.แสนชัย” มวยใจเด็ด วัย 31 ปี จากสระบุรี ที่หวังโชว์ฟอร์มเก่งให้ดูอีกครั้ง ในกติกามวยไทย รุ่นแบนตัมเวต (135-145 ป.)

“เคนดู” เจ้าของส่วนสูง 182 ซม. ใช้ความสูงของตัวเองให้เกิดประโยชน์ได้เป็นอย่างดี โดยเปิดตัวได้อย่างน่าจดจำในศึก ONE ลุมพินี 70 เมื่อวันที่ 12 ก.ค.67 ด้วยการไล่ทุบน็อก “ยูเฮอิ สึดะ” คู่ชกจากญี่ปุ่น ร่วงลงไปนอนกองในยก 2 พร้อมรับโบนัส 350,000 บาท กลับไปนอนกอดทันที 

เท่านั้นยังไม่พอล่าสุดในศึก ONE ลุมพินี 87 เมื่อวันที่ 15 พ.ย.ที่ผ่านมา “เคนดู” ยังฉายฟอร์มเทพต่อเนื่องด้วยการเดินหน้าแจกอาวุธแบบไม่มีพัก ก่อนเป็นฝ่ายชนะคะแนนเอกฉันท์ “เหมียว เอ้าฉี” จากจีน ทำให้ตอนนี้ “เคนดู” กำลังคึกสุดขีดพร้อมลุยสกัด “อวตาร” เก็บแต้มชัยครั้งที่ 3 ให้ได้

ทางฝั่ง “อวตาร” เคยมีช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมในศึก ONE ลุมพินี จากผลงานเดินหน้าเฮชัยรวด 4 ไฟต์ติดต่อกัน ทว่าช่วงหลังเกิดฟอร์มแผ่วลงไปเมื่อต้องเจอคู่ชกอันตรายจากรัสเซีย ส่งผลให้เจ้าตัวต้องแพ้รวดในสองไฟต์ล่าสุดที่ลงแข่งขัน ให้กับทาง “เคียมรัน นาบาติ” และ “อับดัลลา ดายาคีเอฟ” ตามลำดับ

ตอนนี้ “อวตาร” เจ้าของผลงาน 4-4 ในศึก ONE ลุมพินี พร้อมแล้วที่จะกลับมากู้ศักดิ์ศรีของตัวเองอีกครั้ง หลังจากหายหน้าจากรายการไปนานเกือบปี โดยเจ้าตัวเตรียมลับคมอาวุธมาสู้เต็มที่ หวังสร้างชื่อเป็นคนแรกที่ทำให้ “เคนดู” รู้จักความพ่ายแพ้และเรียกความมั่นใจของตัวเองกลับมาในคราวเดียวกัน

นอกจากนี้ แฟนมวยจะได้ร่วมติดตามผลงานของ “เหิร เอ็นเอฟ.ลูกสวน” มวยมาดกวนที่ขอบุกลุ้นยืดสถิติไร้พ่าย ดวลกับ “ฟ้าจรัส ส.เดชะพันธ์” รวมถึงการกลับมาของ “ยางดำ จิตรเมืองนนท์” นักชกขวัญใจคนชอบมวยบู๊ ลุยชนงานหนักอย่าง “เฟซ เอราวัณ” ที่ชนะสวยมาสองไฟต์รวด

โปรแกรมการแข่งขันทุกคู่ศึก ONE ลุมพินี 103

• คู่เอก กุหลาบดำ สจ.เปี๊ยกอุทัย vs เฟอร์ซาน ชิเชก (มวยไทย 147 ป.)
• คู่รอง วัชรพล พีเค.แสนชัย vs มังกร บูมเด็กเซียน (มวยไทย 119 ป.)
• พันศักดิ์ ว.วรรณทวี vs พลังบุญ ว.สันต์ใต้ (มวยไทย 128 ป.)
• ซาเวียร์ กอนซาเลส vs วอลเตอร์ กอนซาลเวส (มวยไทย 128 ป.)
• เหิร เอ็นเอฟ.ลูกสวน vs ฟ้าจรัส ส.เดชะพันธ์ (มวยไทย 113 ป.)
• เพชรตาเสือ สีโอปอล vs เสือจั่น ส.อิสระโชติ (มวยไทย 119 ป.)
• เคนดู เออร์วิง vs อวตาร พีเค.แสนชัย (มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต 135-145 ป.)
• บุญเลิศ ส.บุญมีฤทธิ์ vs ฮาคิม บาห์ (มวยไทย 147 ป.)
• ยางดำ จิตรเมืองนนท์ vs เฟซ เอราวัณ (มวยไทย 123 ป.)
• จี เชง ฟีบิ โล vs ฟูยูกะ (คิกบ็อกซิ่ง รุ่นอะตอมเวต 105-115 ป.)
• อาร์ลีซอน นูนีส vs ลูคัส กานิน  (MMA รุ่นแบนตัมเวต 135-145 ป.)
• ฟริตซ์ บิอักตัน vs เอ็ดซอน มาชาวาน (MMA รุ่นฟลายเวต 125-135 ป.)

ศึก ONE ลุมพินี 103 ถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) วันศุกร์ที่ 4 เม.ษ.นี้ แฟนกีฬาการต่อสู้ชาวไทยสามารถจองบัตรเข้าชมในสนามผ่านทาง THAI TICKET MAJOR คู่แรกเริ่มเวลา 19.30 น. และรับชมทางช่องทางต่าง ๆ ดังนี้

• ช่อง 7HD กด 35 (ภาษาไทย) เริ่ม 20.30 น.
• เฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand เริ่ม 19.30 น.
• ยูทูบ ONE Championship (บางประเทศ) เริ่ม 19.30 น.
• Watch.ONEFC.com (บางประเทศ) เริ่ม 19.30 น.