ปลดล็อกปมในใจ “พันธ์พยัคฆ์” ชี้ประสบการณ์คือปัจจัยเอาชนะ “ซาวาส” ประกาศศักดา “ยอดมวย 3 พ.ศ.” ภาคใหม่
“พันธ์พยัคฆ์” ยอมรับไม่ทันตั้งตัวกับความเปลี่ยนแปลงกะทันหัน ชี้ประสบการณ์ช่วยพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส เผยโฉม “ยอดมวย 3 พ.ศ.” เวอร์ชันใหม่หมดจด
“ยอดมวย 3 พ.ศ.” พันธ์พยัคฆ์ จิตรเมืองนนท์ ไม่คาดคิดว่าจะส้มจะหล่นทับได้เป็นตัวจริงในการแข่งขันรอบรองชนะเลิศ ONE มวยไทย เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รุ่นฟลายเวต หลังเพื่อนร่วมค่าย “รถถัง จิตรเมืองนนท์” ประกาศถอนตัวจากการแข่งขันในช่วงโค้งสุดท้าย โดยต้องเผชิญหน้ากับคู่ชกใหม่ “ซาวาส ไมเคิล” ในศึก ONE Fight Night 1: อาเดรียโน vs ดิมิเทรียส II เมื่อวันเสาร์ที่ 27 สิงหาคมที่ผ่านมา
เดิมที พันธ์พยัคฆ์ ถูกประกบคู่ให้เจอกับ “แชร์ซอด คาบูทอฟ” ในฐานะในคู่สำรองของการแข่งขัน แต่เมื่อนักกีฬาตัวจริงอย่าง รถถัง ถอนตัวด่วน พันธ์พยัคฆ์ จึงได้เลื่อนขึ้นมาเป็นตัวจริงตามระเบียบ ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่าไม่ทันตั้งตัวกับโอกาสสำคัญที่จู่ ๆ ก็ลอยมาถึงหน้าบ้าน
“แม้ผมจะหวังลึก ๆ ในใจว่าอาจจะได้เป็นตัวจริง แต่โอกาสมันน้อยมากครับ เพราะอีกวันเดียวก็จะแข่งแล้ว แต่พอ รถถัง ถอนตัว มันเป็นสิ่งที่ไม่ได้คาดคิดไว้เลย ผมดีใจมากเพราะโอกาสครั้งสำคัญมาถึงผมแล้ว”
พันธ์พยัคฆ์ จึงต้องเผชิญหน้ากับ “ซาวาส ไมเคิล” มวยหนุ่มไซปรัส คู่ชกเดิมของ รถถัง แบบกะทันหัน ซึ่งทำให้ยอดมวยวัย 26 ปี ต้องงัดเอาประสบการณ์ ฝีมือ และทุกอย่างที่มีออกมาใช้เพื่อแก้ไขสถานการณ์ตรงหน้าแบบช็อตต่อช็อต
“เนื่องจากต้องเปลี่ยนคู่ชกกะทันหันมาเป็น ซาวาส ผมได้ดูวิดีโอการชกของเขาในคืนวันก่อนชกแค่นั้นเองครับ แต่โชคดีที่ว่า ผมก็รู้จัก ซาวาส และเคยเห็นการชกของเขาในไทยมาบ้างแล้วก็พอจะดูออก แต่สถานการณ์ ณ ตอนนั้น วางแผนแก้เกมอะไรไม่ได้เลยครับ มันกระชั้นชิดมาก”
อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงเวลาขึ้นสังเวียน พันธ์พยัคฆ์ ก็ทำผลงานยอดเยี่ยม โดยเป็นฝ่ายเดินไล่ออกอาวุธใส่ ซาวาส จนอีกฝ่ายไปไม่เป็น พันธ์พยัคฆ์ ได้จังหวะจึงฟาดหมัดเข้าที่หน้า ตามด้วยแข้งซ้ายไม้ตายประจำตัวเผด็จศึกคู่ต่อสู้ในยกสอง พร้อมคว้าโบนัส 50,000 ดอลลาร์ (กว่า 1.8 ล้านบาท) โทษฐานชกได้สะใจคนดู
เจ้าตัวเผยว่าปัจจัยสำคัญที่ทำให้สามารถคว้าชนะมาได้ในสถานการณ์ฉุกละหุกคือประสบการณ์การชกที่สั่งสมมาเกือบ 300 ไฟต์ ยิ่งไปกว่านั้น คือความตั้งใจส่วนตัวที่จะปรับสไตล์การชกให้ดุดันและหลากหลายมากยิ่งขึ้น
โดย พันธ์พยัคฆ์ ถือโอกาสนำเคล็ดลับวิชาจาก “น้องโอ๋ ไก่ย่างห้าดาว” ที่รับบทบาทติวเตอร์ให้ก่อนหน้านี้ มาปรับใช้เพื่อลบคำปรามาส “ยอดมวยเกียร์อาร์” ที่รบกวนจิตใจเขาตลอดมา
“เรียกได้ว่าไฟต์นี้ เราแก้ไขสถานการณ์บนเวทีแบบเรียลไทม์เลยครับ จริง ๆ ผมไม่ได้โฟกัสเกมของ ซาวาส สักเท่าไหร่ แต่ผมโฟกัสที่ความตั้งใจของผมที่จะพัฒนาตัวเองและปรับสไตล์การชกมากกว่าครับ ผมก็ตัดสินใจขยับเดินหน้า ออกอาวุธใส่ ตามที่ผมซ้อมมา และผมก็เห็นว่า ซาวาส ทำอะไรผมไม่ได้ ผมคิดว่าผมทำได้ดีกว่าครับ”
“ส่วนในจังหวะน็อก ซาวาส ผมพูดได้เลยว่ามันมาจากการฝึกซ้อมครับ ที่ผ่านมา อาวุธผมอาจจะมีแต่แข้งซ้าย แต่สิ่งที่ผมพยายามปรับปรุงพัฒนาการชกคือการออกอาวุธเป็นชุดและหลากหลายมากยิ่งขึ้น ไม่ให้คู่ต่อสู้จับทางผมได้ ซึ่งผมก็ทำได้อย่างที่ซ้อมมาทุกอย่างครับ”
“พอชนะน็อกได้ สิ่งที่ผมรู้สึกอย่างแรกคือ โล่งใจมากที่ผมกล้าเปลี่ยนสไตล์ตัวเอง ผมมาทำงานที่ อีโวลฟ์ เพราะผมอยากพัฒนาตัวเอง และผมก็สามารถทำได้จริง มันเหมือนเป็นการปลดล็อกปมในใจจากที่เคยโดนสบประมาท มันรู้สึกโล่ง สบายมากเลยครับ มันเป็นไฟต์ที่สุดยอดสำหรับผมจริง ๆ ครับ”
มาถึงตอนนี้ โอกาสที่ไม่คาดฝันบวกกับความมุ่งมั่นพัฒนาตัวเอง ส่งให้ พันธ์พยัคฆ์ กลายเป็น “ยอดมวย” พันธุ์ใหม่ที่ไม่ได้มาโชว์แค่ฝีมือเพื่อคว้าชัย แต่ยังใส่ความตั้งใจเพื่อสร้างความสนุกตื่นเต้นให้เกมกีฬาแบบไม่เอาเปรียบคนดูด้วย
และแน่นอนว่า เราจะได้เห็นภาคใหม่ของ พันธ์พยัคฆ์ อีกครั้งในฐานะคู่ชิงชนะเลิศกับ “ซุปเปอร์เล็ก เกียรติหมู่ 9” เพื่อคว้าเข็มขัดเงินอันทรงเกียรติของทัวร์นาเมนต์มวยไทยครั้งประวัติศาสตร์ไปครอง
ติดตามความคืบหน้าของการแข่งขัน ONE มวยไทย เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รุ่นฟลายเวต รอบชิงชนะเลิศ ระหว่าง “พันธ์พยัคฆ์ vs ซุปเปอร์เล็ก” ได้ที่นี่และโซเชียลมีเดียของ ONE ทุกช่องทาง
อ่านเพิ่มเติม: