ไฟต์นี้ไม่มีเกียร์ถอย “พันฤทธิ์” เตรียมคืนร่างจอมบู๊ ชน “วรพล” เก็บไร้พ่ายตลอดปี
“พันฤทธิ์ ลูกเจ้าแม่สายวารี” มวยใจใหญ่ วัย 27 ปี จากพัทลุง ขอกลับมาบู๊แหลกอีกครั้ง เพื่อลบภาพมวยเกียร์ถอยจากไฟต์ล่าสุด พบกับ “วรพล ส.เดชะพันธ์” นักสู้พันธุ์ข้าวเหนียว วัย 21 ปี จากบุรีรัมย์ โดยมีแต้มชัย 3 ไฟต์รวดเป็นเดิมพัน ซึ่งทั้งคู่จะซัดกันภายใต้กติกามวยไทย พิกัดเฉพาะ (แคตช์เวต) 142 ป. ในฐานะคู่เอกศึก ONE ลุมพินี 73 ที่จะถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) ในวันศุกร์ที่ 2 ส.ค.นี้ เริ่มคู่แรกเวลา 19.30 น.
สำหรับ “พันฤทธิ์” สามารถพลิกฟอร์มของตัวเองจากปี 2566 ที่แพ้ไปถึง 3 จาก 4 ไฟต์ขึ้นมาได้อย่างยอดเยี่ยม โดยออกสตาร์ตปีนี้อย่างร้อนแรงด้วยการอัดทีเคโอ “ก้องไกล ส.สมหมาย” และล่าสุดในศึก ONE ลุมพินี 57 เมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา “พันฤทธิ์” งัดลูกฝีมือขั้นเทพออกมาใช้ โดยสามารถยัดแพ้แรกให้กับ “อเล็กเซย์ บาลีโก” มวยแกร่งจากรัสเซียที่เล่นงานนักชกชาวไทยมา 2 รายรวดก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตามแม้จะฝ่าด่านหินอย่าง “อเล็กเซย์” มาได้ แต่ “พันฤทธิ์” กลับต้องเจอเสียงวิจารณ์จากแฟนมวยอย่างหนาหูจากสไตล์การชกที่ออกมาไม่น่าประทับใจ เนื่องจากเป็นฝ่ายถอยร่นมากเกินไป ซึ่งเจ้าตัวได้เปิดเผยถึงเหตุผลของการใส่เกียร์ถอยในไฟต์ล่าสุดว่า
“จริง ๆ แล้วธรรมชาติผมเป็นมวยบู๊นะครับ แต่วันนั้นที่ผมถอยเยอะ เพราะเป็นแผนที่ผมวางมาครับ แผนของผมคือต้องชกรัดกุมห้ามแลกเด็ดขาด เพราะ อเล็กเซย์ หมัดหนักมาก ถ้าไปแลก ยังไงก็ไม่คุ้ม และพอผมเป็นฝ่ายได้นับก่อน ทุกอย่างก็เข้าทางให้ผมต้องฉากหนีมาเล่นฝีมือ คุมเกมวงนอก เพื่อเก็บชัยชนะให้ได้”
“ไฟต์ที่แล้วผมพอใจฟอร์มของตัวเองมาก เพราะชกได้ตามแผนทุกอย่าง จนสามารถชนะ อเล็กเซย์ ได้เป็นคนแรก แต่ที่แฟน ๆ วิจารณ์ผมเรื่องการถอยมากเกินไป ผมก็เข้าใจได้ครับ ไม่ได้คิดมากอะไร เพราะผมรู้ดีว่าคงไม่มีใครชอบมวยถอย”
ครั้งนี้ “พันฤทธิ์” ได้รับโอกาสให้ขึ้นป้ายคู่เอกติดต่อกันเป็นไฟต์ที่ 2 โดยจะต้องเปิดศึกชิงชัยแต้มแฮตทริก กับ “วรพล” มวยซ้ายมากฝีมือที่ผลงานกำลังร้อนแรง ปราบคู่ชกมา 2 ไฟต์รวดเช่นกัน ซึ่ง “พันฤทธิ์” ที่ได้รับการติวเข้มเป็นอย่างดีจากรุ่นพี่มือพระกาฬในค่ายมวย ซุปเปอร์บอน เทรนนิง แคมป์ พร้อมแล้วที่จะกลับมาแสดงศักยภาพที่เขามีออกมาให้ทุกคนเห็นในรูปแบบที่ดุเดือดยิ่งขึ้นไฟต์นี้
“วรพล เป็นมวยซ้ายฝีมือเชิงตั้งรับครับ ทักษะการออกอาวุธมวย ผมมองว่าเขาออกได้คม และไวมากครับ แต่ความหนักยังไม่น่าหนักใจเท่านักมวยต่างชาติ ส่วนจุดอ่อนของเขาผมยังมองไม่เห็นนะครับ เพราะ 3 ไฟต์ที่ผ่านมา เขายังไม่เคยพลาดหล่นไปนับสักครั้งเลย ซึ่งผมก็อยากจะเป็นคนเปิดจุดอ่อนของเขาให้ทุกคนเห็นพร้อม ๆ กันในวันศุกร์นี้ครับ”
“ผมเตรียมหมัดกับแข้งมาเต็มที่ มั่นใจเรื่องอาวุธหนักผมไม่เป็นรองแน่นอน ผมจะใช้จุดได้เปรียบนี้บุกเล่นงาน วรพล และไฟต์นี้แฟน ๆ จะได้เห็นผมกลับมาชกในสไตล์มวยบู๊แน่นอน เพราะเขาเป็นมวยตั้งรับ ถ้าเกิดผมมาเล่นฝีมืออีก รูปเกมคงออกมาน่าเบื่อแน่”
การโดนเสียงวิจารณ์อย่างหนักจากสไตล์การชกแบบมวยถอยในไฟต์ที่แล้ว ทำให้เป้าหมายในไฟต์นี้นอกจากการเก็บแต้มชัยแฮตทริกแล้ว “วรพล” ยังต้องการที่จะเอาชนะด้วยฟอร์มการชกที่น่าประทับใจ เพื่อกู้ศรัทธาจากแฟนมวยกลับคืนมาให้ได้อีกครั้ง
“เป้าหมายของผมในปีนี้ คืออยากทำสถิติไร้พ่ายตลอดทั้งปีให้ได้ เพื่อขยับเข้าใกล้การคว้าสัญญา ONE ให้มากขึ้นครับ และไฟต์นี้ผมต้องการผ่าน วรพล ไปให้ได้ด้วยฟอร์มสวย ๆ เพื่อให้แฟน ๆ ประทับใจในตัวผมอีกครั้งครับ เผื่อว่าผมจะมีโอกาสได้กลับมาขึ้นชกอีกสักไฟต์ก่อนหมดปีนี้ครับ”
“ผมสัญญาว่าจะได้เห็น พันฤทธิ์ คนเดิม กลับมาบู๊แหลกอีกครั้ง เพื่อเรียกความเชื่อมั่นจากแฟน ๆ กลับมาให้ได้”
ติดตามชม “พันฤทธิ์ vs วรพล” ศึก ONE ลุมพินี 73 ถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) วันศุกร์ที่ 2 ส.ค.นี้ คู่แรกเริ่มเวลา 19.30 น. และรับชมทางช่องทางต่าง ๆ ดังนี้
- ช่อง 7HD กด 35 (ภาษาไทย) เริ่ม 20.30 น.
- เฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand เริ่ม 19.30 น.
- ยูทูบ ONE Championship (บางประเทศ) เริ่ม 19.30 น.
- Watch.ONEFC.com