พร้อมโต้กลับทุกเม็ด “เป็นต่อ” เล็งเผด็จศึก “โอทิส” ยืดไร้พ่ายไฟต์ที่ 3 มอบชัยชนะให้ยายผู้ล่วงลับ
“เป็นต่อ เอสพี.กันสาดแป๊ะมีนบุรี” มวยหน่วยก้านสูงยาว วัย 20 ปี จากสุราษฎร์ธานี ซ้อมลับคมอาวุธฟิตร่างกายมาเต็มร้อยหวังสยบแกร่ง “โอทิส แว็กฮอร์น” นักชกไฟแรง วัย 22 ปี จากเกาะอังกฤษ เพิ่มสถิติชนะเป็นไฟต์ที่ 3 ติดต่อกันให้ได้ ในกติกามวยไทย พิกัดเฉพาะ (แคตช์เวต) 143 ป. คู่เอกภาคอินเตอร์ ศึก ONE ลุมพินี 94 วันศุกร์ที่ 17 ม.ค.นี้ ที่สนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) คู่แรกเริ่มเวลา 19.30 น.
สำหรับ “เป็นต่อ” เริ่มชกมวยครั้งแรกตอนเรียนอยู่ชั้น ป.3 ตามคำชักชวนของน้าชาย เมื่ออายุ 15 ปี ได้ย้ายขึ้นมาอยู่ที่กรุงเทพฯ สังกัดค่ายแป๊ะมีนบุรี ย่านรามอินทรา พร้อมเปลี่ยนชื่อมวยจาก “สิงห์ดำ ศักดิ์วิทยา” มาเป็น “เป็นต่อ” โดยได้ “น้าแป๊ะ มีนบุรี” เจ้าของค่ายเป็นคนตั้งให้ด้วยตัวเอง ซึ่งมีความหมายว่าต่อให้ตัวเองขึ้นเวทีไปเจอคู่ชกที่เก่งแค่ไหน ก็จะยังได้ชื่อว่า “เป็นต่อ” ไม่เป็นสองรองใคร
ถึงตอนนี้ “เป็นต่อ” ผ่านประสบการณ์ใน ONE ลุมพินี ไปแล้ว 2 ไฟต์ เริ่มจากชนะคะแนน “แจ๊ค แจ๊คมวยไทย” ในศึก ONE ลุมพินี 28 เมื่อ 11 ส.ค.66 ล่าสุดเจ้าตัวโชว์ฟอร์มเก่งต่อเนื่องฮึดบดชนะคะแนนไม่เอกฉันท์ “ธงสยาม ลูกเจ้าพ่อโรงต้ม” ได้อีก ในศึก ONE ลุมพินี 72 เมื่อ 26 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยเจ้าตัวเชื่อว่าผลงานที่เกิดขึ้น พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าตนมีดีพอออกตามล่าความสำเร็จในรายการนี้ได้
“การได้ชกใน ONE ลุมพินี ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีมาก ครั้งนี้เป็นไฟต์ที่ 3 แล้ว ผมยังตื่นเต้นอยู่เลย เพราะต้องเจอกับคู่ชกที่เก่ง ๆ ตลอด ผมจึงต้องฟิตร่างกายให้พร้อม เพื่อไปสู้และทำผลงานออกมาดีที่สุด”
“ผมเป็นนักมวยที่มีอาวุธครบเครื่อง จุดเด่นของผมคือความสูงยาว คิดว่าผมสามารถใช้ประโยชน์จากตรงจุดนี้ได้ดี แต่การชกในรายการนี้ต้องปรับเปลี่ยนตัวเองเยอะพอสมควร ต้องออกอาวุธให้เร็วขึ้น คมขึ้น และบล็อกหมัดคู่ชกให้รัดกุม”
การกลับมาครั้งที่ 3 “เป็นต่อ” เจ้าของส่วนสูง 175 ซม. ต้องเจอกับความท้าทายใหม่ เมื่อต้องพบกับคู่ชกชาวต่างชาติเป็นครั้งแรกในรายการนี้ นั่นก็คือ “โอทิส” ซึ่งแสดงฝีมืออันร้ายกาจให้เห็นมาแล้วในการดวลฝีมือกับสองมวยแถวหน้าของวงการอย่าง “ก้องไกล ส.สมหมาย” และ “เสือคิม สจ.โต้งปราจีน”
“ผมรู้สึกตื่นเต้นตอนทราบว่าต้องเจอกับ โอทิส เพราะเขาเคยชกกับนักมวยเก่ง ๆ มาก่อน อย่าง พี่เสือคิม และ พี่ก้องไกล มาแล้ว ซึ่งในวันที่เขาเจอกับ พี่เสือคิม ผมก็ดูอยู่ในสนามด้วย ผมไม่นึกเลยว่าจะได้มาชกกับเขา เขาเก่งจริง แม้ว่าสุดท้ายจะแพ้ให้กับ พี่เสือคิม แต่ว่าเขาก็สู้ได้ดี โหดไม่แพ้กันเลยครับ”
“จุดที่น่ากลัวที่สุดของ โอทิส คือหมัด เขามีหมัดที่ไว และสเตปเท้าเขาก็ดี ผมต้องเตรียมแก้เกมและคอยระวังอาวุธของเขาให้ดี แผนของผมในไฟต์นี้คือ ต้องบล็อกหมัดของเขาให้ได้และต้องตอบโต้กลับไปทุกเม็ด จะไม่ยอมปล่อยให้เขาทำฝ่ายเดียวแน่ครับ”
“ผมเตรียมตัวมาดี ผมซ้อมหนักมาก สองไฟต์แรกผมยังไม่ได้ซ้อมหนักขนาดนี้ และยังมีเสริมอาวุธมาสู้ทุกลูกด้วยครับ”
“ไฟต์นี้ ผมคิดว่าถ้ามีโอกาสจบเกมไวได้ ผมก็จะรีบทำทันที แต่ถ้าหาช่องเจาะไม่ได้ ก็พร้อมสู้เกมยาวตลอดทั้ง 3 ยก ที่สำคัญคือ ผมจะไม่ประมาทแน่นอน เพราะอาวุธของเขาทั้งเร็วและหนักครับ”
นอกจากเป้าหมายสำคัญต้องการเก็บชัยชนะ 3 ไฟต์ติดใน ONE ลุมพินี ให้ได้แล้ว “เป็นต่อ” ยังมุ่งมั่นกับไฟต์นี้มากเป็นพิเศษ เพราะอยากเก็บแต้มชัยอุทิศให้กับบุคคลรักที่เพิ่งลาโลกไป และสานต่อชัยชนะต่อเนื่องต่อไปเพื่อโอกาสได้ไปต่ออีกไกลในรายการนี้
“ชัยชนะไฟต์นี้สำคัญกับผมมาก ผมอยากเก็บชัยชนะครั้งนี้มอบให้กับคุณยายที่เพิ่งเสียไป นอกจากนั้น ผมตั้งใจอยากทำผลงานให้ออกมาดีที่สุด เพื่อให้ตัวเองได้โอกาสขึ้นชกอย่างต่อเนื่อง เพราะมันจะทำให้ชีวิตของผมเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น รายการ ONE ลุมพินี ถือว่าดีที่สุดสำหรับผมแล้วในตอนนี้ครับ”
“หลังเก็บชัยชนะมา 2 ไฟต์รวด ทำให้ไฟต์นี้ผมมีความมั่นใจเพิ่มขึ้นมาก คิดว่าจะสามารถเอาชนะ โอทิส ได้ ผมอยากยืดสถิติไร้พ่ายของตัวเองเป็นไฟต์ที่ 3 ให้ได้ครับ”
ติดตาม “โอทิส vs เป็นต่อ” ศึก ONE ลุมพินี 94 ถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) วันศุกร์ที่ 17 ม.ค.นี้ แฟนกีฬาการต่อสู้ชาวไทยสามารถจองบัตรเข้าชมในสนามผ่านทาง THAI TICKET MAJOR คู่แรกเริ่มเวลา 19.30 น. และรับชมทางช่องทางต่าง ๆ ดังนี้
- ช่อง 7HD กด 35 (ภาษาไทย) เริ่ม 20.30 น.
- เฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand เริ่ม 19.30 น.
- ยูทูบ ONE Championship (บางประเทศ) เริ่ม 19.30 น.
- Watch.ONEFC.com (บางประเทศ) เริ่ม 19.30 น.