“เพชรมรกต” ลั่นไม่กลัวใคร ผู้ท้าชิงมีความอันตรายแต่มั่นใจรับมือได้แน่
“เพชรมรกต เพชรยินดีอะคาเดมี” ถือเป็นนักมวยแถวหน้าของประเทศ และยังเป็นนักสู้ไทยที่ขึ้นสังเวียน วัน แชมเปียนชิพ มากครั้งที่สุดถึง 10 ครั้งเทียบเท่า “รถถัง จิตรเมืองนนท์” โดยได้รับการสถาปนาเป็นแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต คนแรกในประวัติศาสตร์ และสามารถป้องแชมป์ไว้ได้สองครั้งจนถึงปัจจุบัน
รุ่นเฟเธอร์เวต (65.9 – 70.3 กก.) ของ ONE ถือว่ามีความแข็งแกร่งที่สุดในเวลานี้ โดยเฉพาะในกติกาคิกบ็อกซิ่ง แต่สำหรับกติกามวยไทยก็ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน เพราะนักกีฬาสามารถที่จะสลับกติกาแข่งขันได้
ด้านเจ้าของบัลลังก์แชมป์โลกอย่าง เพชรมรกต ที่จะต้องป้องกันตำแหน่งของตัวเองในอนาคต เวลานี้เขามีผู้ท้าชิงรออยู่แล้ว 4 อันดับ (อันดับที่ 5 ยอดแสนไกล ประกาศแขวนนวมแล้ว) แต่ดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะไม่เกรงกลัวใครเลย
#อันดับ 1
จามาล ยูซูพอฟ
นักมวยม้ามืดหมัดหนักจากรัสเซีย “จามาล ยูซูพอฟ” ที่มาเปิดตัวครั้งแรกด้วยการสร้างปรากฏการณ์น็อกช็อกโลก สยบเจ้าตำนานมวยไทย “ยอดแสนไกล ไอเว แฟร์เท็กซ์” คว้าฟาสแทร็กซ์ได้โอกาสขึ้นชิงแชมป์โลกกับ เพชรมรกต แต่เพราะเกิดบาดเจ็บจึงต้องถอนตัวกระทันหัน ก่อนที่จะกลับมาโชว์ฟอร์มกำชัยเหนือตัวท็อปของรุ่นนี้อีกคนอย่าง “เซมี ซานา” อย่างสวยงามเมื่อเดือนธันวาคม 2563
“จามาล เป็นนักมวยหมัดหนัก รูปร่างสูงใหญ่ ทั้งยังมีเทคนิคและชั้นเชิงมวยไทยอยู่ในเกณฑ์ดี ผมว่าเขาเป็นคู่แข่งที่ค่อนข้างน่ากลัว ซึ่งถ้าเจอกันต้องระวังตัว ประมาทไม่ได้ พี่ยอดแสนไกลที่เคยถูกเขาน็อกยังบอกผมว่า นักมวยคนนี้อาวุธหนักนะ แต่ผมคิดว่าผมเหนือกว่าเรื่องประสบการณ์การชก รวมถึงอาวุธเข่าและศอกของผมที่น่าจะสู้เขาได้”
#อันดับ 2
ซุปเปอร์บอน
นักชกเพื่อนร่วมชาติ “ซุปเปอร์บอน” ที่ยัดเยียดความพ่ายแพ้ให้กับท็อปคิกบ็อกซิ่งชาวไทยอีกคนอย่าง “สิทธิชัย ศิษย์สองพี่น้อง” ในไฟต์เปิดตัวของทั้งคู่ใน วัน แชมเปียนชิพ แม้เขาจะยังไม่เคยชกกติกามวยไทยบนเวทีนี้ แต่ ซุปเปอร์บอน ให้สัมภาษณ์ว่าอยากที่จะชิงบัลลังก์ของ เพชรมรกต อยู่เหมือนกัน แถมเขายังถูกจัดให้อยู่อันดับ 2 ของแรงกิง นั่นหมายความว่าโอกาสที่จะได้ท้าชิงเข็มขัดของ เพชรมรกต อยู่ไม่ไกลเลย
“ผมยอมรับว่าพี่เขาเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวครับ เพราะมีทั้งประสบการณ์ อาวุธครบเครื่อง มีลูกเตะที่รุนแรง มีลูกดักแทง และรอเก็บจังหวะสองได้ดี จุดอ่อนแทบไม่มี แต่ที่ผมเคยดูพี่เขาชก เขามักจะเน้นเกมรับและรอดักจังหวะสอง ถ้าจะแก้เกม ผมก็อาจจะต้องเดินบุกกดดัน ซึ่งพี่เขาก็เริ่มอายุมากแล้วอาจจะหมดแรงแพ้ความสด อีกอย่างเขาเว้นห่างจากกติกามวยไทยมานาน ด้านเทคนิคมวยไทยผมชำนาญกว่าแน่ ๆ ครับ”
#อันดับ 3
โจ ณัฐวุฒิ
นักมวยไทยที่ไปดังในต่างแดน “โจ ณัฐวุฒิ” มีดีกรีเป็นถึงแชมป์ WMC มวยไทย และแชมป์ไลออนไฟต์รายการใหญ่ของเมืองลุงแซมถึงสองรุ่น รายนี้เชี่ยวชาญทั้งมวยไทยและคิกบ็อกซิ่ง ผ่านศึกใน วัน แชมเปียนชิพ มาแล้ว 6 ไฟต์ โดยสองไฟต์ที่เขาได้รับความพ่ายแพ้เกิดจากคู่แข่งเพียงคนเดียวนั่นคือ “จอร์จิโอ เปโตรเซียน”
“ผมมองว่าจุดแข็งเดียวที่เขามีคือ หมัด ส่วนอาวุธอื่นก็ไม่มีอะไรน่ากลัวสำหรับผมนะครับ แต่ถ้าได้เจอกัน ผมว่าน่าจะเป็นไฟต์ที่สนุกครับ”
#อันดับ 4
เซมี ซานา
นักมวยแดนน้ำหอมที่แฟนชาวไทยคุ้นชื่อจากการผ่านนักมวยไทยมามากหน้าหลายตา “AK47” เซมี ซานา แถมยังได้พิสูจน์ฝีมือในกติกาคิกบ็อกซิ่ง โดยผ่านฉลุยเข้าไปลุยในรอบสุดท้ายของการแข่งขัน ONE คิกบ็อกซิ่ง เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ ที่มีเงินรางวัลสูงถึง 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่แล้วก็พ่ายให้กับตัวพ่อระดับโลก “จอร์จิโอ เปโตรเซียน” ไปอย่างน่าเสียดาย
“คนนี้ได้เปรียบเรื่องช่วงชก เพราะรูปร่างสูงใหญ่กว่าผม และออกอาวุธได้ครบเครื่อง แต่ผมว่าเขายังอ่อนประสบการณ์ในการชกมวยไทย จึงไม่ใช่คู่แข่งที่น่าอันตรายเท่าไหร่ครับ”
นอกจากนี้ เพชรมรกต ยังจับตานักมวยซุปตาร์ดาวรุ่งรุ่นน้อง “ตะวันฉาย พีเค.แสนชัยมวยไทยยิม” ที่เพิ่งเปิดตัวอย่างงดงามในไฟต์แรกกับ วัน แชมเปียนชิพ ที่อาจจะขยับน้ำหนักขึ้นมาชกในรุ่นเฟเธอเวตไม่ช้าก็เร็ว โดยเจ้าตัวยอมรับว่า ตะวันฉาย เป็นนักมวยที่เก่งครบเครื่อง แถมรูปร่างสูงใหญ่ เชื่อว่าอนาคตถ้าขึ้นมาชกในรุ่นเดียวกัน ก็น่าจะอยู่ในระดับแถวหน้าได้แน่นอน
อ่านเพิ่มเติม: