ความไวไม่เป็นรอง “พระจันทร์ฉาย” พร้อมเปิดซิงคิกบ็อกซิ่ง ดวลแข้ง 5G “อัคราม”
“พระจันทร์ฉาย” เปิดตำราหน้าใหม่ปรับสไตล์ลุยคิกบ็อกซิ่งครั้งแรกในชีวิต พร้อมฉายเป็นชุดประลองความไวระดับ 5G กับ “อัคราม ฮามิดี” ในศึกใหญ่นัดประวัติศาสตร์ ONE ลุมพินี 34
“พระจันทร์ฉาย พีเค.แสนชัยฯ” แชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นสตรอว์เวต เฉพาะกาล (115-125 ป.) วัย 28 ปี จากเมืองกรุง เตรียมเผชิญหน้า “อัคราม ฮามิดี” ยอดฝีมือวัย 24 ปี จากแอลจีเรีย โดยจะพบกันในกติกาคิกบ็อกซิ่ง รุ่นสตรอว์เวต (115-125 ป.) ร่วมศึกใหญ่ครั้งประวัติศาสตร์ ONE ลุมพินี 34 วันศุกร์ที่ 22 ก.ย.นี้ ที่สนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา)
นับตั้งแต่พ่ายเสียบัลลังก์มวยไทยให้กับ “โจเซฟ ลาซิรี” นักชกชาวอิตาลี เมื่อปีที่แล้ว “พระจันทร์ฉาย” ก็กลับมาเค้นฟอร์มเก่งได้อย่างน่าประทับใจด้วยการคว้าชัยสองไฟต์ติดต่อกัน โดยเฉพาะในไฟต์ล่าสุดที่สามารถย้ำชัยเอาชนะน็อกนักชกรุ่นพี่อย่าง “สามเอ ไก่ย่างห้าดาว” ในศึกภาคสองและได้ครองตำแหน่งแชมป์โลกเฉพาะกาล ในศึก ONE ลุมพินี 22 เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ในระหว่างที่รอวันทวงบัลลังก์คืนจาก “โจเซฟ ลาซิรี” ราชันมวยไทย รุ่นสตรอว์เวต คนปัจจุบัน “พระจันทร์ฉาย” ก็ไม่ปฏิเสธที่จะตอบรับความท้าทายใหม่อย่างที่ไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน ด้วยการขึ้นสู้ในรูปแบบคิกบ็อกซิ่งครั้งแรกในชีวิต ซึ่งในเวลานี้เจ้าตัวกำลังอยู่ในช่วงทำการบ้านอย่างละเอียดเพื่อทำความเข้าใจกับกติกาใหม่นี้ รวมถึงเร่งฟิตร่างกายอย่างหนักเพื่อให้พร้อมรับมือกับ “อัคราม”
“ไฟต์นี้สิ่งสำคัญที่ต้องเสริมคือทำความเข้าใจในกติกาคิกบ็อกซิ่งครับ ว่าจะออกอาวุธยังไงที่จะสามารถเรียกคะแนนจากกรรมการข้างเวทีได้มากที่สุด เพราะคิกบ็อกซิ่งไม่จำเป็นต้องเน้นลูกหนัก แค่ออกอาวุธให้เข้าเป้าแม่นยำก็สามารถทำคะแนนได้แล้วครับ”
“ส่วนอีกเรื่องที่ต้องเสริมคือความไว แต่ในใจผมยังคิดว่าเรื่องนี้ผมไม่ได้เป็นรอง อัคราม สักเท่าไหร่ เพราะเอาจริง ๆ ตอนผมชกมวยไทย สไตล์ของผมก็เข้าออกรวดเร็วคล้าย ๆ กับสไตล์คิกบ็อกซิ่งอยู่แล้วครับ”
ทางด้าน “อัคราม” เปิดตัวครั้งแรกใน ONE ลุมพินี ได้อย่างสุดปัง หลังจากที่ไล่ถลุงเอาชนะทีเคโอมวยสุดเก๋า “จอมโหด ออโต้มวยไทย” ในไฟต์ล่าสุดเมื่อวันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา แม้ครั้งนั้นจะเป็นการชกในกติกามวยไทย แต่สำหรับคิกบ็อกซิ่งแล้ว “อัคราม” ถือว่าเป็นอีกหนึ่งยอดฝีมือที่แฟนกีฬาการต่อสู้ทั่วโลกให้การยอมรับ การันตีได้จากเข็มขัดแชมป์ที่เคยคว้ามาได้หลายเส้น
แน่นอนว่า “อัคราม” จะดูมีพิษสงรอบด้าน แต่ “พระจันทร์ฉาย” ก็ได้เล็งเห็นว่าคู่ต่อสู้สายหวดแข้งของเขารายนี้ยังพอมีจุดอ่อนที่เขาจะสามารถใช้เล่นงานได้ เพื่อประเดิมชัยในกติกาคิกบ็อกซิ่งครั้งแรกในชีวิต
“ยอมรับว่า อัคราม เป็นมวยที่เก่งคนหนึ่งเลยครับ ถ้าเขาไม่แน่จริงคงไม่มีชื่อติดหนึ่งในสิบอันดับแรกนักกีฬาคิกบ็อกซิ่งของโลกประจำรุ่นนี้แน่นอนครับ”
“จุดเด่นของ อัคราม คือความรวดเร็วเมื่ออยู่บนเวที รวมถึงลูกทีเด็ดอย่างเตะก้านคอที่ต้องระวัง แต่ถึงกระนั้นผมยังมองว่าเขาก็มีจุดอ่อนให้เห็นนั่นก็คือที่ท้องครับ เพราะเวลาเขาโดนอาวุธเข้าที่ท้องทีไรออกอาการให้เห็นทุกทีครับ”
อย่างไรก็ตามไม่ว่าผลการแข่งขันในครั้งนี้จะออกมาในรูปแบบใด ในใจของ “พระจันทร์ฉาย” ก็ยังคงมุ่งเป้าไปที่การเปิดศึกภาคสอง กับ “โจเซฟ ลาซิรี” เพื่อกลับมาครองความยิ่งใหญ่ในการเป็นเจ้าของบัลลังก์มวยไทยตัวจริงเสียงจริงเพียงหนึ่งเดียว แต่หากไม่ได้เป็นไปตามที่ตั้งใจเอาไว้ พ่อหนุ่มจอมฉายเป็นชุดจากเมืองกรุงรายนี้ก็พร้อมข้ามสายทันทีเพื่อล่าเข็มขัดแชมป์โลกคิกบ็อกซิ่ง รุ่นสตรอว์เวตที่ “โจนาธาน ดิ เบลลา” เจ้าของตำแหน่งชาวอิตาลี นั้นถือครองอยู่ในปัจจุบัน
“เป้าหมายแรกของผมในตอนนี้คืออยากจะชกแก้มือกับ “โจเซฟ” ก่อนครับ เพื่อทวงเข็มขัดของผมคืนมา แต่ถ้ามันไม่มีโอกาสจะได้กลับมาเจอกันอีกครั้งจริง ๆ ผมก็พร้อมจะเบนเข็มไปที่การไล่ล่าแชมป์โลกคิกบ็อกซิ่งทันทีครับ”
สำหรับศึกใหญ่คร้้งประวัติศาสตร์ที่แฟนกีฬาการต่อสู้ชาวไทยต้องจารึกในศึก ONE ลุมพินี 34 จะถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) วันศุกร์ที่ 22 ก.ย.นี้ คู่แรกเริ่มเวลา 19.30 น. และรับชมทางช่องทางต่าง ๆ ดังนี้
- ช่อง 7HD กด 35 (ภาษาไทย) เริ่ม 20.30 น.
- เฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand เริ่ม 19.30 น.
- ยูทูบ ONE Championship (บางประเทศ) เริ่ม 19.30 น.
- Watch.ONEFC.com (บางประเทศ) เริ่ม 19.30 น.