ไม่มีเบอร์ 1 ตลอดไป “พระจันทร์ฉาย” พร้อมโค่นบัลลังก์ ราชันไร้พ่ายต้องได้ลิ้มรสคำว่าแพ้
“พระจันทร์ฉาย พีเค.แสนชัย” แชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นสตรอว์เวต (115 – 125 ป.) วัย 29 ปี ออกล่าความท้าทายครั้งใหญ่ ด้วยการข้ามสายบู๊กติกาคิกบ็อกซิ่งไฟต์ที่ 2 ในชีวิตเพื่อท้าชิงบัลลังก์จาก “โจนาธาน ดิ เบลลา” เจ้าของเข็มขัดแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นเดียวกัน วัย 27 ปี จากอิตาลี – แคนาดา ในฐานะคู่รองของศึกใหญ่แห่งปี ONE ลุมพินี 58 ที่จะถ่ายทอดสดจากเวทีลุมพินี (รามอินทรา) วันศุกร์ที่ 5 เม.ย.นี้
สำหรับเจ้าของฉายา “ฉายเป็นชุด” กำลังอยู่ในช่วงฟอร์มสดเก็บชัยมาแล้ว 4 ไฟต์ติด โดยล่าสุดในศึก ONE ลุมพินี 46 เมื่อ 22 ธ.ค.ที่ผ่านมา “เจ้านนท์” ที่ในตอนนั้นยังถือครองเข็มขัดแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นสตรอว์เวต เฉพาะกาล โชว์ดุฟันศอกซ้ายปิดเกมน็อกยกแรก “โจเซฟ ลาซิรี” เจ้าของเข็มขัดตัวจริงจากอิตาลี รวบบัลลังก์ขึ้นเป็นราชันของรุ่นนี้เพียงหนึ่งเดียว
ตอนนี้ “พระจันทร์ฉาย” พร้อมเต็มที่แล้วสำหรับการข้ามสายมาท้าชิงเข็มขัดคิกบ็อกซิ่ง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายที่เจ้าตัวอยากทำให้สำเร็จ หลังก่อนหน้านี้เคยข้ามสายมาเปิดตัวสวยในกติกานี้ครั้งแรกในชีวิต ด้วยการไล่ทุบเอาชนะคะแนน “อัคราม ฮามิดี” จากแอลจีเรีย ในศึก ONE ลุมพินี 34 เมื่อ 22 ก.ย.66 พร้อมมุ่งหน้าล็อกเป้าที่ใหญ่ขึ้น โดยมี “ดิ เบลลา” ยืนขวางทางอยู่
ในวัยเข้าใกล้เลขสาม “พระจันทร์ฉาย” ใช้สองกำปั้นกับหนึ่งใจของตัวเองกวาดความสำเร็จในวงการหมัดมวยมาแล้วมากมายนับไม่ถ้วน แต่ไฟในการต่อสู้ของตัวเองยังลุกโชก เมื่อตนได้รับโอกาสสู้ในเส้นทางใหม่อย่างคิกบ็อกซิ่ง จึงพร้อมพิสูจน์ฝีมือให้ไปไกลจนสุดทาง
“ผมผ่านการชกมวยไทยมาหลายร้อยไฟต์ และประสบความสำเร็จมาหมดแล้ว ทั้งที่เวทีมวยราชดำเนิน เวทีมวยลุมพินี รวมถึงใน วัน แชมเปียนชิพ หลังจากได้เข็มขัดมวยไทย ผมจึงตั้งใจเบนเข็มไปชกคิกบ็อกซิ่ง เพื่อเปลี่ยนตัวเองให้เจออะไรใหม่ ๆ บ้าง ซึ่งทั้งสองกติกาไม่ได้มีความแตกต่างกันมาก ถือว่ามีจุดเด่นคนละอย่างเท่านั้น”
ครั้งนี้ “พระจันทร์ฉาย” ต้องเผชิญหน้ากับ “ดิ เบลลา” ราชันผู้ครองสถิติ 12 ไฟต์ยังแพ้ใครไม่เป็นและยังมีประสบการณ์คิกบ็อกซิ่งมากกว่าอีกต่างหาก ซึ่งเขาถือเป็นความท้าทายครั้งสำคัญที่ยิ่งเป็นแรงผลักดันให้เขากระหายชัยชนะมากขึ้น พร้อมทั้งของัดประสบการณ์มวยไทยที่มีมาประยุกต์ใช้ให้เต็มที่ในไฟต์นี้
“การได้ขึ้นชิงแชมป์โลกกับ โจนาธาน ดิ เบลลา เป็นแรงกระตุ้นให้ผมอยากลงแข่งคิกบ็อกซิ่ง ผมไม่สนใจเรื่องที่เขาไม่เคยแพ้ใคร เพราะไม่มีเบอร์ 1 ตลอดไปอยู่แล้ว”
“เขาเป็นนักชกที่มีความรวดเร็ว มีหมัดที่แม่นยำ และแน่นอนว่าเขามีประสบการณ์เยอะกว่าในกติกาคิกบ็อกซิ่ง แต่สิ่งที่ผมได้เปรียบคือกระดูกมวย ผมผ่านอะไรที่หนัก ๆ มาเยอะมาก เขาอาจจะยังไม่เคยเจอคู่ต่อสู้แบบผมก็ได้ครับ”
“ผมคิดว่ารูปเกมไฟต์นี้น่าจะออกมาสนุกดุเดือด แต่ขึ้นอยู่กับว่าฝ่ายไหนจะพลาดก่อนเท่านั้นเอง ผมอยากให้แชมป์มาอยู่ที่บ้านเรา ผมเป็นคนไทยก็อยากเอาเข็มขัดกลับมาที่ประเทศไทย ผมพร้อมทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด อยากได้รับชัยชนะต้องไปวัดกันบนเวทีครับ”
การได้เข็มขัดเส้นที่สองมาครองมีความหมายต่อ “พระจันทร์ฉาย” มาก นอกจากนับเป็นความสำเร็จส่วนตัวในระดับสูงแล้ว มันยังมีความสำคัญต่อทั้งค่ายมวยพีเค.แสนชัย รวมถึงแฟนมวยที่คอยสนับสนุนตัวเองมาตลอด ตนจึงพร้อมขึ้นเวทีไปทำหน้าที่แบบสุดความสามารถเพื่อให้ผลงานออกมาดีที่สุด
“ถ้าผมได้เป็นแชมป์โลกสองกติกา มันมีความหมายต่อทั้งตัวผมและต้นสังกัดมาก ทุกครั้งที่ผมขึ้นสู้บนเวที ผมคิดว่าผมเป็นตัวแทนของคนไทยทั่วโลก เวลาได้ยินเสียงเชียร์เรียก ‘พระจันทร์ฉาย พระจันทร์ฉาย’ ทำให้มีแรงผลักดัน เรายอมแพ้ไม่ได้ เราต้องสู้ เพราะเราไม่ได้สู้เพื่อตัวคนเดียวครับ”
“ถ้าไฟต์นี้ผ่านไปด้วยดี ผมพร้อมรับมือกับคู่ชกทุกคนไม่ว่าจะเป็นกติกาคิกบ็อกซิ่งหรือมวยไทย เราต้องทำร่างกายของเราให้พร้อม เพื่อป้องกันแชมป์ทั้ง 2 ประเภทให้ได้ ผมพร้อมสู้สลับกติกาไปมาได้ไม่มีปัญหา นอกจากนั้น ปีนี้ผมยังอยากทำสถิติไม่แพ้ใครด้วยครับ”
ติดตามชม “พระจันทร์ฉาย vs ดิ เบลลา” ศึก ONE ลุมพินี 58: ซุปเปอร์บอน vs มารัต ถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) วันศุกร์ที่ 5 เม.ย.นี้ คู่แรกเริ่มเวลา 19.30 น. และรับชมทางช่องทางต่าง ๆ ดังนี้
- ช่อง 7HD กด 35 (ภาษาไทย) เริ่ม 20.30 น.
- เฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand เริ่ม 19.30 น.
- ยูทูบ ONE Championship (บางประเทศ) เริ่ม 19.30 น.
- Watch.ONEFC.com (บางประเทศ) เริ่ม 19.30 น.