“พระจันทร์ฉาย” เผยชีวิตพลิกหลังครองแชมป์ ONE ตั้งเป้าล่าเข็มขัดเส้นที่สองในคิกบ็อกซิ่ง
“พระจันทร์ฉาย” ปลื้มกับความสำเร็จหลังได้แชมป์โลก ONE ทำให้ชีวิตเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นทุกด้าน ประกาศลั่นปี 2565 ขอตามล่าเข็มขัดแชมป์คิกบ็อกซิ่งจาก “สามเอ” อีกเส้น หวังเป็นแชมป์โลกสองรุ่น
หลังจากที่ “พระจันทร์ฉาย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม” สามารถโค่นบัลลังก์เจ้าตำนานมวยไทยอย่าง “สามเอ ไก่ย่างห้าดาว” ขึ้นแท่นแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นสตรอว์เวต คนใหม่เมื่อเดือนกรกฎาคม 2564 เจ้าตัวก็ยอมรับว่าชีวิตเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง เหมือนเป็นการเปิดประตู่สู่โอกาสใหม่ ๆ ในชีวิต
“ปีที่ผ่านมาถือเป็นปีแห่งความสำเร็จของผมเลยครับ ตั้งแต่เมื่อได้เข้าร่วมเป็นนักกีฬาของ ONE ผมดีใจมาก และยิ่งได้รู้ว่าจะได้ชิงแชมป์กับพี่ สามเอ ในครั้งนั้น ผมก็ตั้งใจว่าจะคว้าแชมป์มาให้ได้ และผมก็ทำได้จริง ๆ ผมถือว่าเข็มขัดเส้นนี้สำคัญกับตัวผมและครอบครัวของผมมากครับ”
พระจันทร์ฉาย ได้ชื่อว่าเป็นนักมวยตัวท็อปของรุ่นเล็ก น้ำหนักระหว่าง 54 – 56 กก. ที่ขึ้นชื่อลือชาเรื่องความครบเครื่อง หลักเหลี่ยมแพรวพราว ถึงขั้นมีคนเปรียบเปรยว่าเขาเป็นโคลนนิ่ง “แสนชัย” พี่ใหญ่ของค่าย ชื่อเสียงเรียงนามและผลงานอันยอดเยี่ยมส่งให้เขามีโอกาสเข้าร่วมชายคา วัน แชมเปียนชิพ
หลังจากจรดปากกาเซ็นสัญญากับ ONE ได้ไม่นาน พระจันทร์ฉาย ก็ได้โอกาสเป็นผู้ท้าชิงแชมป์โลกกับเจ้าบัลลังก์มวยไทยของรุ่นนี้อย่าง “สามเอ ไก่ย่างห้าดาว” ทันที ท่ามกลางดรามาเส้นใหญ่ที่ไม่ต้องไต่อันดับแรงกิงเหมือนนักมวยคนอื่น อย่างไรก็ตาม พระจันทร์ฉาย ก็ได้พิสูจน์แล้วว่าเขาดีพอสำหรับการครองแชมป์รุ่นนี้
พระจันทร์ฉาย เผยว่าการได้ครองแชมป์โลก ONE ตั้งแต่ไฟต์แรกบนเวทีระดับโลกเป็นโอกาสให้เขาได้พัฒนาฝีมือขึ้นมาก อีกทั้งยังเป็นแรงผลักดันให้เขาต้องปรับเปลี่ยนทั้งวิธีคิด วิธีการฝึกซ้อม และการใช้ชีวิต ให้สมกับเป็นนักกีฬาบนเวทีใหญ่ระดับโลกอย่าง วัน แชมเปียนชิพ อีกด้วย
“การไปเหยียบสังเวียนระดับโลกทำให้ผมต้องเปลี่ยนตัวเองในหลายเรื่องเลยครับ หนึ่งเลยคือการรู้หน้าที่และวินัยของตนเอง การได้ชกใน ONE ที่มีกติกาแตกต่างจากการชกมวยไทยในบ้านเรา ทำให้ต้องเปลี่ยนวิธีการฝึกซ้อม ต้องซ้อมหนักขึ้นเพื่อให้คุ้นชินกับกติกา ที่สำคัญ เราต้องเจอกับคู่ชกใน ONE ที่มีแต่เก่ง ๆ ทั้งนั้น ซึ่งเราต้องมานั่งดูว่าเราต้องปรับเปลี่ยนการชกอย่างไรเพื่อที่จะสู้กับเขาได้ครับ”
“ส่วนสิ่งที่ผมต้องปรับปรุงก็คือความนิ่ง สองคือการป้องกันตัว สามคือการออกอาวุธที่แม่นยำ และเสริมความหนักหน่วงให้มากกว่านี้ ไม่ว่าจะเป็นหมัด ศอก หรือเตะครับ”
คงปฏิเสธไม่ได้ว่าปี 2564 เป็นปีแห่งความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ของ พระจันทร์ฉาย แต่เขายังไม่หยุดความสำเร็จไว้เพียงเท่านี้เพราะยังมีเป้าหมายใหม่ที่ใหญ่กว่าในปี 2565 รออยู่
“ตอนนี้ ผมได้เป็นแชมป์มวยไทยแล้ว ส่วนปี 2565 ผมก็อยากจะลองข้ามสายไปคิกบ็อกซิ่งครับ ผมอยากได้เจอกับนักชกชาวต่างชาติก่อนเพื่อไต่เต้าขึ้นไปท้าชิงแชมป์คิกบ็อกซิ่งกับ พี่สามเอ อีกสักครั้งครับ”
ในปีนี้ เราจะได้เห็น พระจันทร์ฉาย ได้วาดลายในกติกาคิกบ็อกซิ่งและจะมีโอกาสโคจรกลับไปพบกับ สามเอ ในฐานะเจ้าบัลลังก์คิกบ็อกซิ่ง รุ่นสตรอว์เวตคนปัจจุบันอีกครั้งหรือไม่ คงต้องติดตามดูกันต่อไปยาว ๆ
อ่านเพิ่มเติม: