“รถถัง” ลั่นดูแลพ่อแม่ป่วยถึงที่สุด ขอเพียงท่านสบายให้ผมตายก็ยอม
นักชกค่าตัวหลักล้านอย่าง “รถถัง” ที่ผ่านความสำเร็จมามากมาย จนมีพร้อมทั้งชื่อเสียงและเงินทอง แต่สิ่งที่เขาปรารถนาสูงสุดในชีวิต คือการได้เห็นบุพการีมีชีวิตที่สุขสบาย ถึงขนาดลั่นวาจาว่าแม้ตัวเองตายก็ยอม
หลังจากที่ “รถถัง จิตรเมืองนนท์” ป้องกันตำแหน่งแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวต ครั้งที่ 3 จากผู้ท้าชิงคู่ปรับเก่า “เพชรดำ เพชรยินดีอะคาเดมี” ได้สำเร็จเมื่อ 31 กรกฎาคมที่ผ่านมาในศึก ONE: NO SURRENDER เจ้าตัวก็รุดหน้าไปดูอาการคุณพ่อที่กำลังอยู่ในระหว่างการรักษามะเร็งที่บ้านเกิดจังหวัดพัทลุงต่อทันที
พ่อของ รถถัง ป่วยเป็นมะเร็งในช่องปากระยะที่ 3 โดยขั้นตอนการรักษาที่แพทย์กำหนดต้องมีการฉายแสงทั้งสิ้น 35 ครั้ง ซึ่งจะแล้วเสร็จในวันที่ 18 กันยายนนี้ ส่วนการทำคีโม (เคมีบำบัด) ต้องทำเดือนละครั้งทั้งสิ้น 6 ครั้ง ซึ่งที่ผ่านมาทำไปแล้ว 2 ครั้ง
ด้วยความที่ รถถัง ต้องซ้อมมวยอยู่ที่ค่ายจิตรเมืองนนท์ ที่นนทบุรี จึงได้ฝากฝังพี่สาวที่เสียสละลาออกจากงาน มาคอยดูแลพ่ออย่างใกล้ชิด โดยเจ้าตัวจะแวะเวียนไปหาในยามว่างจากการชกอย่างสม่ำเสมอ เพราะรู้ดีว่ากำลังใจจากลูกๆ เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในยามนี้ที่จะช่วยเติมพลังใจให้พ่อต่อสู้กับโรคร้าย
“ขั้นตอนในการรักษามะเร็ง ผู้ป่วยต้องมีความอดทนสูงมากๆ ครับ หลังฉายแสงเสร็จใหม่ๆ พ่อจะจำอะไรไม่ได้ เหมือนยังเบลอๆ และดูอ่อนล้ามาก แต่พอได้นอนพักสักหนึ่งคืน เช้าวันถัดมาก็จะกลับมาเป็นปกติครับ”
“ตอนนี้อาการของพ่อก็ยังทรงๆ ผมรู้ว่าใจเขายังสู้ ผ่านคีโมมาได้สองรอบก็ถือว่าสุดยอดแล้ว และเขาไม่เคยร้องไห้ให้ใครเห็นเลย”
เนื่องจากพ่อและแม่ของ รถถัง ได้แยกกันอยู่มานานแล้ว ดังนั้นเมื่อมาดูแลพ่อ ก็ต้องไปเยี่ยมเยียนแม่ด้วยเช่นกัน โดยทั้งคู่ปลูกบ้านอยู่ห่างกันเพียง 10 กว่ากิโลเมตรเท่านั้น
“แม่มีอาการป่วยทั้งโรคข้อเข่าเสื่อมและหัวใจพอง จะว่าไปก็หนักกว่าพ่ออีกครับเพราะเป็นเรื้อรังมานาน โดยผมและพี่น้องก็ช่วยกันดูแลรักษามาตลอด แต่กับพ่อที่เป็นมะเร็งเพิ่งจะตรวจพบไม่นาน และได้พาไปรักษาทันทีครับ”
“สำหรับพ่อกับแม่ ผมจะดูแลท่านให้ดีที่สุดครับ เอาตรงๆ ถ้าเป็นไปได้ ขอเพียงท่านอยู่สุขสบาย ให้ผมตายผมก็ยอมครับ” รถถัง กล่าวทิ้งท้าย
อ่านเพิ่มเติม: