ยอมรับความผิดพลาด “รถถัง” เสียเข็มขัดที่ถือมานาน 5 ปี ยันจะกลับไปเอาคืน ยืนในจุดเดิมให้ได้
“ดิไอรอนแมน” รถถัง จิตรเมืองนนท์ จอมบู๊ขวัญใจพี่น้องชาวไทย วัย 27 ปี ก้มหน้ายอมรับทุกข้อผิดพลาดหลังทำเข็มขัดหล่นบนตาชั่งจนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก แต่ด้วยศักดิ์ศรีอดีตแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวต จึงโชว์ฝีมือเหนือชั้น ไล่ต้อนชนะคะแนนเอกฉันท์ “จาค็อบ สมิธ” คู่ปรับเก่าแรงกิงอันดับ 3 วัย 32 ปี จากสหราชอาณาจักร แบบหมดจด ในศึก ONE 169 เมื่อช่วงเช้าวันเสาร์ที่ 9 พ.ย.ที่ผ่านมา
ช่วงสัปดาห์เก็บตัว หลังเสร็จสิ้นการชั่งน้ำหนักนักกีฬาศึก ONE 169 ก็ปรากฏว่ามีดรามาขึ้นเมื่อ “รถถัง” ไม่สามารถทำน้ำหนักได้ตามที่ตกลงกันไว้ในรุ่นฟลายเวต (125-135 ป.) โดยชั่งได้ 135.5 ป. เกินมา 0.5 ป. หรือราว 200 กรัม ซึ่งตามกฏของ ONE หากแชมป์โลกทำน้ำหนักไม่ผ่านในไฟต์ป้องกันแชมป์ จะต้องถูกปลดออกจากตำแหน่ง และให้ถือว่ามีสถานะ “แชมป์ว่าง” (ไม่มีใครเป็นแชมป์ในกติกานี้ รุ่นนี้)
ขณะที่ฝั่งผู้ท้าชิง “จาค็อบ สมิธ” ทำค่าน้ำและน้ำหนักผ่านได้ตามเกณฑ์ทั้งสองรายการ เจ้าตัวจึงยังมีศักดิ์และสิทธิ์ที่จะขึ้นชิงเข็มขัดเส้นนี้ ในขณะเดียวกันเขาก็สามารถที่จะปฏิเสธการชกได้ เนื่องจากคู่ชกไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขสัญญาเรื่องน้ำหนัก โดยเขาจะยังได้รับค่าตัวตามที่ตกลงกันไว้ แม้ไฟต์นี้จะถูกยกเลิกก็ตาม เพราะถือว่าได้ทำหน้าที่ของตนเองเสร็จสมบูรณ์แล้ว
อย่างไรก็ตาม หลังการเจรจาระหว่างนักชกทั้งสองฝ่าย “จาค็อบ” แสดงเจตจำนงที่จะรักษาสิทธิ์ในการขึ้นชิงแชมป์ของเขาต่อไป โดยตกลงชกกับ “รถถัง” ที่มีน้ำหนัก 135.5 ป. พร้อมได้รับค่าชดเชยน้ำหนักตามที่เรียกร้อง ทำให้ไฟต์นี้เดินหน้าต่อไป โดย “จาค็อบ” เป็นเพียงคนเดียวเท่านั้นที่มีสิทธิ์ได้เป็นแชมป์โลก หากเขาชนะไฟต์นี้ ส่วน “รถถัง” จะไม่มีสิทธิ์ได้เป็นแชมป์โลก แม้ผลจะออกมาชนะก็ตาม
ตลอดการแข่งขันทั้ง 5 ยก “รถถัง” โชว์ฟอร์มเหนือชั้น คุมเกม “จาค็อบ” ไว้ได้อย่างอยู่หมัด ก่อนจะเป็นฝ่ายชนะคะแนนเอกฉันท์ ส่งผลให้บัลลังก์ ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวต ที่ “รถถัง” เคยครองมานานกว่า 5 ปี มีสถานะ “แชมป์ว่าง” อยู่ในเวลานี้
“ผมยังรู้สึกใจหายที่รักษาเข็มขัดแชมป์ไม่ได้ แต่ผมจะตั้งหน้าตั้งตาต่อไป ผมจะทวงบัลลังก์คืนให้ได้แน่นอนในอนาคตครับ”
“ผมไม่เคยโกรธ ไม่เคยเกลียดสื่อหรือทุกช่องทางครับ ผมรู้ตัวเองว่าทำผิด ผมก็ต้องยอมรับผิด แต่เชื่อเถอะครับ คนเราไม่มีใครทำผิดพลาดไปทั้งชีวิตหรอก ในเมื่อครั้งนี้มันตอบโจทย์แล้วว่าเราไม่ไหวกับเวตนี้ ผมก็ต้องปรับตัวเองขึ้นไปในหนทางใหม่ แต่ถ้าวันหนึ่งผมควบคุมน้ำหนักของผมลงมาฟลายเวตได้ ผมจะกลับมาทวงบัลลังก์แน่นอนครับ”
“ผมรักอาชีพมวยไทย ผมอยากโชว์ในความเป็นผมให้ทุกคนได้เห็นว่าสไตล์ของผมไม่ใช่แค่โหดเหี้ยม มันมีทั้งรอยยิ้ม มีทั้งโหดมันฮาคือครบรส อยากให้ทุกคนได้ดูผม และภูมิใจในตัวผมว่าสไตล์แบบนี้ก็สามารถให้คุณสนุกในอีกรูปแบบหนึ่งได้ครับ”
ส่วนแผนการในอนาคต “รถถัง” ยังไม่ออกปากชี้ชัดว่าจะขยับขึ้นไปชกในรุ่นแบนตัมเวต (135-145 ป.) หรือจะยังต้องการทำน้ำหนักในรุ่นฟลายเวตต่อไป
“ในวันนี้ผมยังไม่เคยลองขยับน้ำหนักขึ้นไป แต่สมัยก่อนผมชกมวยไทย 5 ยก ผมเคยแบกน้ำหนัก 10 กิโลกรัมมาแล้ว ก็ต้องลองสักครั้งหนึ่งครับ ผมให้คำตอบอะไรไม่ได้ในตอนนี้ แต่ถ้าขึ้นไปแล้วผมทำได้ นั่นคือคำตอบที่ผมจะให้กับทุกคนครับ”
แฟนกีฬาการต่อสู้สามารถติดตามข่าวสารอัปเดตของ ONE ได้ที่เว็บไซต์ ONEfc.com/th รวมถึงโซเชียลมีเดียของ ONE ประเทศไทย ได้แก่ Facebook ONE Championship Thailand Instagram ONEChampTh และ TikTok ONEChampTH