วางเป้าหมายใหญ่ “สามเอ” พิสูจน์วัย 41 ไปต่อสบาย เล็งไต่บัลลังก์ทวงเข็มขัดสู่อ้อมอก
“สามเอ ไก่ย่างห้าดาว” นักสู้ระดับตำนาน วัย 41 ปี จากบุรีรัมย์ ล็อกเป้าขอออกตามล่าเข็มขัดแชมป์โลกอีกครั้ง หลังเพิ่งโชว์ฝีมือเหนือชั้นเอาชนะ “จาง เป่ยเหมียน” คู่ชกจากจีนที่อายุน้อยกว่าถึง 20 ปี ดีกรีอดีตคู่ชิงแชมป์โลกคิกบ็อกซิ่ง ได้อย่างสวยงาม ช่วยเพิ่มความมั่นใจได้เต็มร้อย ในการแข่งขันภายใต้กติกาคิกบ็อกซิ่ง รุ่นสตรอว์เวต (115-125 ป.) ในศึก ONE 169 เมื่อช่วงเช้าวันเสาร์ที่ 9 พ.ย.ที่ผ่านมา
ไฟต์นี้นักชกขวัญใจชาวไทยเจ้าของฉายา “ซ้ายไฟลามทุ่ง” ต้องปรับตัวไม่น้อย เนื่องจากเป็นการกลับมาชกคิกบ็อกซิ่ง ครั้งแรกในรอบหลายปี แต่สุดท้ายทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี เมื่อเจ้าตัวอาศัยลูกเก๋าสอนเชิง “จาง เป่ยเหมียน” คุมเกมได้ตลอดทั้ง 3 ยก ก่อนเป็นฝ่ายได้รับการชูมือชนะคะแนนเอกฉันท์
“ผมได้กลับมาชกคิกบ็อกซิ่ง ครั้งแรกในรอบเกือบ 5 ปี ก็ยังไม่ค่อยชินเท่าไหร่ เพราะต้องปรับการออกอาวุธใหม่ แต่ก็พยายามทำให้ดีที่สุด”
“ผมดู จาง เป่ยเหมียน ตั้งแต่เขาชกกับ โจนาธาน (ดิ เบลลา) แล้ว ผมดูเขาชกมาตลอด รู้สึกว่าเค้าเป็นมวยที่เก่ง และน่าจับตามองคนหนึ่ง ต้องยอมรับว่าน้องเขาเป็นมวยที่อึดมาก ทนมาก แล้วก็ใจสู้มากด้วย น้องเขาพละกําลังดีมากครับ”
“ยกแรก จาง เป่ยเหมียน เขาก็วิ่งเข้าหาผมตามที่คิดเอาไว้เลย ซึ่งช่วงแรกผมก็เน้นตั้งรับเป็นหลัก ดูว่าเขาจะออกลูกไหน พอหมดยกแรก ผมก็รู้สึกว่าผมสู้ได้เพราะผมเริ่มมองเห็นอาวุธเขาแล้วครับ”
“ในยกสอง ผมสลับมาเน้นลูกเตะก้านคอมากขึ้น เพื่อให้เขาเกิดความพะวง ต่อมาในช่วงกลางยกผมมาได้ลูกดักแทงเข่าซ้าย แล้วเขาออกอาการ จากนั้นผมก็เดินยำเข้าไปอีกชุด ผมพยายามจะปิดเกมแล้ว แต่เอาไม่ลงครับ เขายืนได้ ต้องยอมรับน้องว่าน้องเขาทนจริง ๆ”
“ยกสุดท้ายรูปเกมก็เหมือนเดิม อาวุธเขาเริ่มช้าลง พอจบเกม ผมก็มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าผมชนะ เพราะว่าภาพรวมทั้ง 3 ยก ผมคิดว่าทำได้ดีกว่าครับ”
ชัยชนะในไฟต์นี้ “สามเอ” ได้พิสูจน์ฝีมือสมศักดิ์ศรียอดตำนานจอมเก๋าที่เคยได้เข็มขัดแชมป์โลก ONE มาแล้วถึง 3 เส้น ได้แก่ แชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวต (125-135 ป.), แชมป์โลก ONE มวยไทย และ คิกบ็อกซิ่ง รุ่นสตรอว์เวต (115-125 ป.) โดยปัจจุบัน เพิ่มสถิติชนะเป็น 9 ครั้ง จาก 12 ไฟต์ นับตั้งแต่เข้ามาโชว์ผลงานใน ONE ตั้งแต่ปี 2561
ชั่วโมงนี้ “สามเอ” มีความมั่นใจเต็มร้อย พร้อมพาตัวเองกลับไปนั่งบัลลังก์ให้ได้อีกครั้งในวัย 41 ปี หลังเจ้าตัวต้องเสียเข็มขัด ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวต ให้กับ “โจนาธาน แฮ็กเกอร์ตี” ในการป้องกันตำแหน่งครั้งแรก และทำเข็มขัด ONE มวยไทย รุ่นสตรอว์เวต หลุดมือให้กับ “พระจันทร์ฉาย พีเค.แสนชัย” ในการป้องกันตำแหน่งครั้งที่ 2
ส่วนเข็มขัด ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นสตรอว์เวต “สามเอ” ยังไม่ทันได้ป้องกันตำแหน่ง แต่เจ้าตัวตัดสินใจ ประกาศอำลาสังเวียน ในเดือน ก.พ.65 จึงทำให้บัลลังก์แชมป์รุ่นนี้ว่างลง ก่อนที่ต่อมาแชมป์เส้นนี้จะตกไปอยู่กับ “โจนาธาน ดิ เบลลา” ซึ่งเปิดตัวในศึก ONE 162 ชนะคะแนนเอกฉันท์ “จาง เป่ยเหมียน” ได้สิทธิ์นั่งบัลลังก์คนใหม่ทันที
อย่างไรก็ตามในการป้องกันแชมป์ครั้งที่สอง “โจนาธาน” ที่ถูกประกบเจอ “พระจันทร์ฉาย” ในศึก ONE ลุมพินี 58 ตรวจไม่ผ่านเกณฑ์การวัดระดับค่าน้ำ เป็นเหตุให้เจ้าตัวถูกถอดจากตำแหน่งตามระเบียบ ก่อนทั้งคู่จะโคจรมาชิงแชมป์โลกที่ว่างอยู่ในศึก ONE ลุมพินี 68 เมื่อ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยเป็นฝ่าย “พระจันทร์ฉาย” ที่ชนะคะแนนเอกฉันท์ ยึดครองบัลลังก์คิกบ็อกซิ่ง รุ่นสตรอว์เวต อยู่ในปัจจุบัน
“ชัยชนะไฟต์นี้ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้ผมมาก ผมได้พิสูจน์ตัวเองให้ทุกคนทั่วโลกได้เห็นแล้วว่า ผมในวัย 41 ปี ยังมีดีพอที่สามารถชกในรายการ ONE ได้”
“หลังจากนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับทาง ONE แล้วว่าจะให้โอกาสผมไปทางไหนต่อ ผมก็หวังว่าจะมีโอกาสได้ขึ้นไปชิงแชมป์โลกในกติกามวยไทย หรือคิกบ็อกซิ่ง (ซึ่งปัจจุบัน พระจันทร์ฉาย ครอบครองอยู่ทั้งสองเส้น) ความมั่นใจตอนนี้ผมพร้อมชกทั้ง 2 กติกาครับ”
แฟนกีฬาการต่อสู้สามารถติดตามข่าวสารอัปเดตของ ONE ได้ที่เว็บไซต์ ONEfc.com/th รวมถึงโซเชียลมีเดียของ ONE ประเทศไทย ได้แก่ Facebook ONE Championship Thailand Instagram ONEChampTh และ TikTok ONEChampTH