เน้นลุยไม่เน้นเหลี่ยม “สมิงดำ” ชอบใจถูกจับคู่นักมวยต่างชาติ เตรียมเกมมาเดินแลก ขยี้วงใน “อาคีฟ”
“สมิงดำ เอ็นเอฟ.ลูกสวน” มวยขวาอาวุธหนัก วัย 22 ปี พร้อมอาศัยความเป็นมวยที่มากกว่า บุกเข้าขยี้เกมวงใน หมายปิดเกม “King” อาคีฟ กูลูซาดา คู่ชกจากอาเซอร์ไบจาน วัย 19 ปี ในการพบกันภายใต้กติกามวยไทย รุ่นฟลายเวต (125-135 ป.) ในศึก ONE ลุมพินี 85 วันศุกร์ที่ 1 พ.ย.นี้ ที่สนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) เริ่มคู่แรกเวลา 19.30 น.
สำหรับ “สมิงดำ” ถือเป็นหนึ่งในนักชกที่แฟนมวยทั่วประเทศชื่นชอบ จากลีลาการต่อสู้สุดเอนเตอร์เทนบนเวที โดยปัจจุบันนักสู้เจ้าของฉายา “นินจาเต่าเมืองไทย” ขึ้นชกในศึก ONE ลุมพินี ไปแล้วทั้งหมด 6 ไฟต์ คว้าชัยชนะได้ 4 ครั้ง และเก็บโบนัส 2 ครั้งจากการชนะทีเคโอ “จาวาด บิกเดลี” คู่ชกจากอิหร่าน เมื่อเดือน เม.ย.66 และ ชนะน็อก “เพชรสีคิ้ว ก.กัมปนาท” ในศึก ONE ลุมพินี 67 เมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา
ไฟต์ล่าสุดในศึก ONE ลุมพินี 76 เดือน ส.ค.ที่ผ่านมา “สมิงดำ” ได้รับโอกาสให้ขึ้นชกเป็นคู่เอกครั้งแรก พบกับ “ผึ้งหลวง บ้านแรมบ้า” นักสู้พลังบู๊จากอุบลราชธานี ซึ่งผลการแข่งขันในวันนั้น เจ้าตัวกลับต้องพบความพ่ายแพ้เป็นครั้งที่ 2 ไปอย่างน่าเสียดาย
“ก่อนเกมวันนั้นมีแต่คนบอกว่ายังไงผมก็สู้ ผึ้งหลวง ไม่ได้ ผมจะต้องโดนน็อกแน่ ๆ ซึ่งผมก็สามารถลบคำสบประมาทเหล่านั้น ด้วยการเดินเข้าไปอัดกับเขาแบบไม่มีถอยตลอดทั้ง 3 ยก ผมภูมิใจมากครับกับผลงานของตัวเอง ถึงผมจะแพ้แต่ก็ไม่เสียใจ เพราะผมได้พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นแล้วว่ามวยอย่างผม ก็มีดีพอที่จะยืนเป็นคู่เอกของรายการได้”
“หลังจบเกมวันนั้นผมมาย้อนดูคลิปการชกของตัวเอง ก็เห็นว่าที่แพ้เป็นเพราะว่าตัวผมช้ากว่าเขาไปจังหวะหนึ่ง และยังออกอาวุธได้ไม่หลากหลายเท่าไหร่ ซึ่งการเตรียมความพร้อมสำหรับไฟต์ต่อไป ผมได้ปรับปรุงเรื่องความไว การออกอาวุธให้เป็นชุด และหลากหลายมากขึ้นครับ”
การขึ้นสังเวียนไฟต์ที่ 7 “สมิงดำ” จะได้ประชันเดือดกับ “อาคีฟ กูลูซาดา” กำปั้นสปีดจัด จากอิหร่าน ที่เปิดตัวในศึก ONE ลุมพินี 72 เมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา ด้วยการชนะคะแนนเอกฉันท์ “ฮารูโตะ ยาซูโมโตะ” คู่ชกจากญี่ปุ่น ในกติกาคิกบ็อกซิ่ง แต่ไฟต์นี้เขาจะได้พิสูจน์ฝีมือกับ “สมิงดำ” ในกติกามวยไทย โดยมุ่งมั่นสานต่อฟอร์มแรงด้วยการเก็บชัยไฟต์ที่ 2 ติดต่อกันให้ได้
“ผมเป็นนักมวยที่เกิดมาเพื่อชกกับชาวต่างชาติอยู่แล้ว เพราะผมเป็นมวยที่ไม่มีเล่ห์เหลี่ยมอะไรเท่าไหร่ ผมชอบขึ้นเวทีมาอัดกันไปเลย ซึ่งนักชกต่างชาติเขาก็กล้าที่จะมาแลกกับเราเหมือนกัน ซึ่งจะแตกต่างจากเวลาเจอนักชกไทย ที่จะต้องเล่นเชิง เล่นเหลี่ยมใส่กัน ซึ่งไม่ใช่ทางถนัดผมเท่าไหร่”
“จากที่ผมศึกษามา อาคีฟ เขาเป็นมวยสไตล์คิกบ็อกซิ่งของแท้ จุดเด่นของเขาคือการเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว และการออกแข้งขวาได้ไวมาก แต่จุดอ่อนของเขาคือโดนอาวุธแล้วทนไม่ค่อยได้เท่าไหร่ อย่างไฟต์ที่แล้วผมมองว่าถ้า ฮารูโตะ กล้าเดินอัดอีกหน่อย อาคีฟ ก็น่าจะแพ้ไปแล้วครับ”
แม้จะเป็นอีกครั้งที่ต้องเผชิญหน้ากับคู่ชกที่มีจุดเด่นเรื่องความไว แต่ “สมิงดำ” ก็ไม่หวั่นใจ พร้อมเดินหน้าชวนบู๊แหลกตามสไตล์ถนัด ขอสร้างเกมการชกที่ออกมาสนุกถูกใจคนดูทั่วโลกอีกครั้ง พร้อมตั้งเป้าที่จะเพิ่มสถิติปิดเกมไม่ครบยกให้กับตัวเองเป็นครั้งที่สาม
“ด้วยการที่เขาเป็นนักชกคิกบ็อกซิ่ง ทำให้อาวุธศอก เขาจะไม่ค่อยน่ากลัวเท่าไหร่ ซึ่งไฟต์นี้ผมก็จะอาศัยความเป็นมวยไทยที่มากกว่าเข้าไปเล่นงานเขา ผมจะหาทางขยับเข้าไปใกล้ ๆ เขาให้ได้มากที่สุด เพื่อเล่นงานเขาหนัก ๆ จากเกมวงในครับ
“รูปเกมไฟต์นี้ผมรับประกันได้เลยว่าต้องออกมาสนุกมากแน่ ๆ เพราะเป้าหมายของผมคือตั้งใจจะมาน็อกเขาให้ได้ ผมอยากจะโชว์ฟอร์มเอาชนะให้ได้สวย ๆ เพื่อลุ้นได้โอกาสกลับมาชกอีกสักไฟต์ก่อนจบปีนี้ครับ”
ติดตาม “สมิงดำ vs อาคีฟ”ศึก ONE ลุมพินี 85 ถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) วันศุกร์ที่ 1 พ.ย.นี้ แฟนกีฬาการต่อสู้ชาวไทยสามารถจองบัตรเข้าชมในสนามผ่านทาง THAI TICKET MAJOR คู่แรกเริ่มเวลา 19.30 น. และรับชมทางช่องทางต่าง ๆ ดังนี้
- ช่อง 7HD กด 35 (ภาษาไทย) เริ่ม 20.30 น.
- เฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand เริ่ม 19.30 น.
- ยูทูบ ONE Championship (บางประเทศ) เริ่ม 19.30 น.
- Watch.ONEFC.com (บางประเทศ) เริ่ม 19.30 น.