“เซมี ซานา” ใช้ความใหญ่เกทับ “จามาล ยูซูพอฟ” เดี๋ยวโชว์ให้ดูเกมนี้คุมอยู่!
“AK47” เซมี ซานา นักชกแดนน้ำหอม วัย 32 ปี ที่แฟนชาวไทยคุ้นชื่อจากการผ่านนักมวยไทยมามากหน้าหลายตา ล่าสุดเขาเข้าใกล้ความสำเร็จกับการพิสูจน์ตัวเองว่าเป็นคิกบ็อกเซอร์ที่เก่งที่สุดของรุ่นเฟเธอร์เวต หลังจากผ่านฉลุยเข้าไปลุยในรอบสุดท้ายของการแข่งขัน ONE คิกบ็อกซิ่ง เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ ที่มีเงินรางวัลสูงถึง 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเจอกับตัวพ่อระดับโลก “จอร์จิโอ เปโตรเซียน” แต่แล้วต้องพ่ายไปอย่างน่าเสียดาย เมื่อเดือนตุลาคม 2562
การกลับมาของ เซมี ในศึก ONE: COLLISION COURSE II ที่จะออกอากาศในวันศุกร์ที่ 25 ธันวาคมนี้ ถือเป็นศึกแรกใน วัน แชมเปียนชิพ หลังจากเสร็จสิ้น เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ ซึ่ง เซมี จะต้องเจอกับคู่แข่งอันตรายจากรัสเซีย “Kherow” จามาล ยูซูพอฟ ในกติกามวยไทย 3 ยก สวมนวมเปิดนิ้วขนาด 4 ออนซ์
ในการแข่งขัน ONE คิกบ็อกซิ่ง เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ เซมี ได้กำราบเจ้าตำนานมวยไทยและคิกบ็อกซิ่งอย่าง “ยอดแสนไกล ไอเว แฟร์เท็กซ์” มาแล้วในรอบแรก โดยชนะด้วยคะแนนอย่างเป็นเอกฉันท์ เมื่อเดือนพฤษภาคม 2562 ก่อนจะทะลุไปสู่รอบสุดท้าย หลังชนะคะแนนเสียงข้างมากเหนือ “Genghis Khan” จาบาร์ แอสเครอฟ แต่สุดท้ายก็ตกม้าตายเมื่อต้องเจอตัวพ่ออย่าง “จอร์จิโอ เปโตรเซียน”
ส่วน “จามาล ยูซูพอฟ” เปิดตัวใน วัน แชมเปียนชิพ โดยกระโดดเข้ามารับเป็นคู่ต่อกรของ ยอดแสนไกล โดยรู้ตัวล่วงหน้าเพียงสัปดาห์กว่าๆ แต่ด้วยการเตรียมตัวเพียงน้อยนิด จามาล กลับสามารถน็อกเจ้าตำนานชาวไทยด้วยเวลาเพียง 35 วินาทีของยกที่สอง ที่กรุงปักกิ่ง เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2562
เซมี ซานา vs ยอดแสนไกล (พ.ค.62)
“จามาล โค่น ยอดแสนไกล ได้หลังจากที่ผมปราบ ยอดแสนไกล มาก่อน ซึ่งผมคิดว่าช่วงนั้น ยอดแสนไกล ยังยู่ในภาวะจิตตก ดังนั้นการสู้กับ ยอดแสนไกล จึงทำได้ง่ายกว่าผม”
“ผมไปค้นดูคลิปเก่าๆ ของ จามาล แต่ไม่ค่อยมีให้เห็นมากนัก ผมจึงต้องวิเคราะห์จากไฟต์ที่เขาชกกับ ยอดแสนไกล ซึ่งเห็นได้ว่าเขาเป็นนักชกที่เก่ง มีเทคนิคมวยสากล และเขาเคยชกใน K-1 มาแล้ว ดังนั้นผมจึงแค่ต้องระวังหมัดเขาให้ดี ส่วนเรื่องพละกำลังผมว่าผมแรงเยอะนะ”
แม้เขาจะไม่สามารถศึกษาฟอร์มการชกของคู่แข่งได้มากนัก แต่แชมป์โลกมวยไทยและคิกบ็อกซิ่งสองสมัยอย่าง เซมี เชื่อว่า ด้วยโครงสร้างร่างกายที่สูงกว่าจะทำให้เขาค่อนข้างเป็นต่อ รวมถึงประสบการณ์ชกมวยที่มีมากกว่าเท่าตัว เขาจะแสดงให้เห็นว่าเขานี่แหละที่จะเป็นคนคุมเกมนี้
“จริงๆ เขาควรต้องกลัวทุกอย่างในตัวผม เพราะผมแข็งแรง ตัวสูง และแรงดี ผมเป็นนักมวยของแท้ และเป็นงานหินสำหรับเขา การต่อสู้ของเราจะต้องดุเดือดเลือดพล่านแน่นอน”
“เป้าหมายของผมคือการได้ครองเข็มขัด วัน แชมเปียนชิพ ผมจะทำทุกอย่างให้ได้มา ทั้งเข็มขัดมวยไทยและคิกบ็อกซิ่ง และบางทีอาจจะในรุ่นน้ำหนักที่สูงขึ้นด้วย ผมทุ่ม 200% ทุกไฟต์ เพื่อแสดงให้เห็นว่าผมคือคนเก่งที่สุด”
อ่านเพิ่มเติม: