มาไม้ไหนก็เอาอยู่ “ครูตอง” ชนนภัทร อัปสกิล MMA สุดจัด พร้อมคัมแบ็ก ONE ลุมพินี 3
“ครูตอง” ชนนภัทร เตรียมคัมแบ็กสังเวียนการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) หลังซุ่มอัปสกิลนานกว่า 2 ปี เพื่อกลับมาสานต่อความสำเร็จในฐานะนักสู้ MMA แถวหน้าของไทย
“OneShin” ชนนภัทร วิรัชชัย” นักกีฬาการต่อสู้แบบผสมผสานรุ่นบุกเบิกของไทย พร้อมกลับมาระเบิดพลังหลังอัดอั้นที่ต้องห่างสังเวียนนานกว่า 2 ปี โดยครั้งนี้พร้อมกลับโชว์สกิล MMA ขั้นกว่าเตรียมรับมือกับนักปล้ำชาวอิหร่าน “โพริยา กอลปูร์” ในศึก ONE ลุมพินี 3 ในวันศุกร์ที่ 3 กุมภาพันธ์นี้
“ชนนภัทร” หรือเป็นที่รู้จักกันในวงการ MMA เมืองไทยว่า “ครูตอง” ถือเป็นนักสู้ไทย “รุ่นบุกเบิก” ที่ได้หักร้างถางพงเข้าไปสู่วงการศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน ตั้งแต่สมัยที่คนไทยแทบไม่รู้จัก และถือนักกีฬา MMA ชาวไทยคนแรก ๆ เป็นขาประจำของ ONE ในช่วงแรกที่ยังไม่มีการจัดแข่งขันมวยไทย คิกบ็อกซิ่ง และกติกาอื่น ๆ เหมือนในทุกวันนี้
“ชนนภัทร” ผ่านสังเวียน MMA ของ ONE มาถึง 15 ไฟต์ โดยในระยะแรก ๆ เขาถือเป็นจอมน็อกตัวอันตรายของรุ่นไลต์เวต (170 ป.) โดยเก็บแต้มชัยได้ 8 ครั้ง และเป็นการปิดเกมไวไม่ครบยกถึง 6 ครั้ง
อย่างไรก็ตาม ในระยะหลัง “ชนนภัทร” เริ่มฟอร์มสะดุดเนื่องจากมีนักสู้ที่แข็งแกร่งในรุ่นนี้มากขึ้น เขาจึงตัดสินใจลดน้ำหนักลงไปสู้ในรุ่นเฟเธอร์เวต (155 ป.) ที่เขารู้สึกถนัดมากกว่า
ผลงานครั้งสุดท้ายก่อนที่ “ชนนภัทร” จะห่างหายไปจากสังเวียน ONE คือการปะทะกันกับ “ฟาบิโอ ปินกา” ในศึก No Surrender III ที่กรุงเทพฯ เมื่อเดือน ส.ค.63 และเป็นฝ่ายเบียดชนะคะแนนไม่เอกฉันท์ โดยหลังจากหายหน้าหายตาไปนาน “ชนนภัทร” ก็ขออัปเดตชีวิตให้ฟังหลังจากไฟต์ล่าสุดนั้นให้แฟน ๆ ได้หายสงสัย
“หลังจากไฟต์ที่เจอกับ ฟาบิโอ ผมได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่าและมือครับ ก็ต้องอาศัยเวลาฟื้นตัวไปพักหนึ่งเลย จริง ๆ ก็มีทาง ONE เสนอเข้ามานะครับ แต่ผมยังไม่อยากรีบก็เลยขอพัก แต่พอหลังจากนั้นสถานการณ์โควิดก็เริ่มแพร่ระบาดและหนักขึ้น ผมก็เลยยังไม่มีคิวซะทีครับ แต่ระหว่างนั้น ผมก็ได้โอกาสได้ไปลองงานซีรีส์ ได้รับบทเป็นนักสู้กังฟูมวยจีนด้วยครับ”
ในระหว่างที่คิวยังไม่ลงตัว “ชนนภัทร” ก็ไม่ปล่อยเวลาให้สูญเปล่า โดยลงทุนไปศึกษาวิชาบราซิลเลียนยิวยิตสู (BJJ) เพิ่มเติมเพื่อเสริมความแกร่งในเกมนอนสู้เพื่อรับมือกับยอดฝีมือระดับโลกได้อย่างมั่นใจมากขึ้น เนื่องจากมีปมในใจจากการเผชิญความพ่ายแพ้หลายไฟต์ในระยะหลังที่แข่งขันใน ONE
หลังจากได้มีเวลาทบทวนตัวเอง “ชนนภัทร” ก็พบว่าแม้ตนเองจะฝึกวิชา MMA มาพอสมควรจนได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในนักกีฬา MMA ชาวไทยเพียงไม่กี่คนที่ได้ขึ้นสังเวียนระดับโลก แต่เขากลับไม่กล้าที่ใช้ทักษะแบบเต็มศักยภาพเมื่อต้องเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้จากทั่วโลก เขาจึงใช้เวลากว่าสองปีค้นหาสไตล์การต่อสู้ที่สะท้อนจุดแข็งของตนเองมากที่สุด
“ในกีฬาการต่อสู้แบบผสมผสานเป็นการผสานความชำนาญและทักษะหลายด้านของการต่อสู้ ซึ่งแต่ละคนจะมีสัดส่วนความชำนาญแตกต่างกันไป ที่ผ่านมา ผมมองว่าผมชำนาญอยู่เพียงจุดเดียว คือผมเน้นการป้องกันตัวมากกว่า ซึ่งมันก็ใช้ได้ดีในช่วงต้น ๆ แต่พอชกใน ONE มาเรื่อย ๆ มีคู่ต่อสู้ที่เก่งรอบด้าน ผมเลยไม่มั่นใจในความชำนาญแค่ด้านเดียวที่ผมมี”
“ผมเลยคิดได้ว่าเราควรจะฝึกความชำนาญในด้านอื่น ๆ ด้วย เพื่อทำให้เรารู้สึกสบาย ไม่ต้องกังวลเวลาเราโดนทุ่มลงพื้นว่าเราจะสู้ไม่ได้ และสามารถพาตัวเองกลับมาสู่เกมที่ต้องการได้ ผมก็เลยไปฝึกบราซิลเลียนยิวยิตสูและมวยปล้ำเพิ่มจนมาถึงจุดที่ว่าเราไม่กลัวคู่ต่อสู้ตรงจุดไหนเลยครับ”
ในที่สุด โอกาสในการคืนสังเวียนก็มาถึง โดย “ชนนภัทร” จะเผชิญหน้ากับ “โพริยา” ผู้เชี่ยวชาญศาสตร์มวยปล้ำจากอิหร่านที่จะมาปรากฏตัวครั้งแรกในศึก ONE ลุมพินี โดยทั้งคู่จะสู้กันในกติกา MMA รุ่นเฟเธอร์เวต (155 ป.) โดยเขาก็ศึกษาคู่แข่งรายนี้มาพอสมควรและยอมรับว่าไม่ใช่งานง่าย
“นักสู้จากประเทศอิหร่านโดยส่วนใหญ่แล้วจะแข็งแกร่งเรื่องมวยปล้ำซึ่งอยู่ระดับท็อปของโลก จากที่ดูประวัติ เขาเป็นนักมวยปล้ำและก็มีทักษะยิวยิตสูด้วย จากสายตาผม เขามีเกมหมัดที่แข็งแกร่งประมาณหนึ่ง การเคลื่อนไหวดี ถึงเขาตัวเตี้ยกว่าผมและหนากว่า แต่มีความคล่องแคล่ว เขาสามารถมุดหลบหมัดเราและรวบขาเราง่าย ก็ต้องระวังในเรื่องระยะให้ดีครับ อีกอย่าง เขามาจากค่ายวีนัม พัทยาซึ่งคงได้มีโอกาสฝึกซ้อมกับนักมวยเก่ง ๆ เพราะฉะนั้น เรื่องเตะขาต่อยหมัดก็คงประมาทไม่ได้ครับ”
แต่ถึงอย่างนั้น “ชนนภัทร” ก็ยังเห็นจุดบอดของคู่แข่งและมั่นใจว่าเขามีภาษีดีกว่าจากการได้อัปเลเวลสกิลเกมนอนมารอบด้าน แถมยังมีพื้นฐานจากการเป็นนักกีฬายูโด พ่วงด้วยทักษะมวยยืน เช่น มวยจีน และมวยไทย ที่เคยได้ฝึกปรือมาก่อนหน้านี้ด้วย โดยเจ้าตัวก็มั่นใจว่าการกลับมาครั้งนี้คนดูจะได้เห็นทักษะ MMA ที่ถูกพัฒนาขึ้นอีกระดับ
“ผมก็ยังเห็นจุดบอดของเขาอยู่บ้างในเรื่องความสอดคล้องจากเกมต่อยเตะไปสู่เกมนอน เหมือนมันไม่ได้ลื่นไหล ไม่ต่อเนื่องเท่าที่ควรจะเป็น การกลับมาครั้งนี้ของผม ในเวทีลุมพินีซึ่งยิ่งใหญ่มาก ผมก็อยากจะโชว์ให้แฟน ๆ ได้เห็นเกมนอนที่มั่นคงมากขึ้นของผม ซึ่งผมมั่นใจไม่ว่าคู่แข่งจะมาไม้ไหน ผมก็สู้ได้หมดครับ”
ศึก ONE ลุมพินี 3 พร้อมระเบิดความมันต่อเนื่อง! โดยแฟนกีฬาชาวไทยสามารถจองบัตรเข้าชมในสนามผ่านทาง http://bit.ly/3YWaao3 คู่แรกเริ่มเวลา 19.30 น. และถ่ายทอดสดทางช่อง 7 HD ตั้งแต่เวลา 20.30 น.