“ชินยะ อาโอกิ” ฟันธงคู่แข่ง “เจมส์” เก่งทุกอย่างแต่ไม่โดดเด่น เท่ากับเป็นจุดอ่อน
รู้อะไรรู้กระจ่างแต่อย่างเดียวและให้เชี่ยวชาญเถิดจะเกิดผล “ชินยะ อาโอกิ” ยกย่องคู่แข่ง “เจมส์ นากาชิมา” เก่งทั้งยืนและนอนสู้ แต่การไม่มีทักษะไหนโดดเด่นเป็นพิเศษ เก่งทุกอย่างแต่ไม่สุด นั่นล่ะเป็น “จุดอ่อน”!!
นักสู้ชาวญี่ปุ่นจอมเก๋า “Tobikan Judan” ชินยะ อาโอกิ อดีตแชมป์โลก ONE รุ่นไลต์เวต ซึ่งคร่ำหวอดอยู่ในวงการศิลปะการต่อสู้มาอย่างยาวนานถึง 16-17 ปี กำลังจะขึ้นสังเวียนโชว์ฝีมือสุดทึ่งอีกครั้งในศึก ONE: UNBREAKABLE และศึกนี้เขาจะต้องต่อกรกับนักมวยปล้ำชาวอเมริกัน “เจมส์ นากาชิมา” ที่เพิ่งผิดหวังจากการท้าชิงเข็มขัดในรุ่นเวลเตอร์เวตเมื่อเดือนพฤศจิกายน และลดลงมาสู่รุ่นไลต์เวตในไฟต์นี้
ชินยะ ปัจจุบันในวัย 37 ปี เขารั้งอยู่ใน อันดับ 4 ของแรงกิง ONE รุ่นไลต์เวต กติกาการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) ช่วงรอยต่อระหว่างปี 2562 – 2563 เขาจัดซับมิชชันให้ “โฮโนริโอ บานาริโอ” ในเดือนตุลาคม 2562 ก่อนที่จะหวนคืนสังเวียนครั้งเดียวในปี 2563 และคว้าชนะอย่างเป็นเอกฉันท์เหนือ “คิมิฮิโร เอโตะ” ในศึก ROAD TO ONE ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา
แม้การชกเคลื่อนไหวจะไม่มากด้วยข้อจำกัดของสถานการณ์ที่ไม่ปกติ แต่เมื่อได้รับการติดต่อให้ขึ้นสังเวียนศึกแรกของปี 2564 กับคู่แข่งอย่าง เจมส์ นั่นทำให้เขารู้สึกตื่นเต้น จนไม่อาจปฏิเสธไฟต์นี้
“ผมไม่คิดว่าผมจะได้กลับมาชกในช่วงต้นปีนี้ ผมจึงคิดว่า โอ้ โชคดีชะมัด ร่างกายมันสูบฉีดขึ้นมาทันที”
ชินยะ vs โฮโนริโอ (13 ต.ค.62)
ด้านคู่แข่ง “เจมส์ นากาชิมา” เขาสั่งสมสถิติไร้พ่ายได้สูงถึง 12 ไฟต์ ก่อนที่ไฟต์ล่าสุดเขาจะลิ้มรสความพ่ายแพ้ครั้งแรกเมื่อขึ้นท้าชิงแชมป์โลก ONE รุ่นเวลเตอร์เวต กับ “Brazen” เคียมเรียน อับบาซอฟ เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ทำให้เขาตัดสินใจย้ายลงมาสู้ในรุ่นไลต์เวต และหวังจะสร้างตำนานบทใหม่ในรุ่นนี้
ชินยะ เป็นนักยูโดและบราซิลเลียนยิวยิตสูสายดำซึ่งกวาดรางวัลมามากมาย เจมส์ เองก็เป็นถึงแชมป์มวยปล้ำ NJCAA ในบ้านเกิดที่อเมริกา แถมยังฝึกฝนทักษะยืนสู้กับแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รุ่นเฟเธอร์เวต “The Doctor” จอร์จิโอ เปโตรเซียน เพื่อทำให้เขาเก่งทั้งการยืนและนอนสู้ ซึ่ง ชินยะ กลับมองเรื่องนี้ในมุมที่แตกต่าง
“เขาเก่งทุกด้าน ทำได้ทุกอย่าง แต่ไม่มีด้านไหนโดดเด่นเป็นพิเศษ และไม่ค่อยมีจุดอ่อนมากนัก แต่ศิลปะการต่อสู้ไม่เหมือนการสอบเข้ามหาวิทยาลัย แม้ว่าทักษะโดยรวมของคุณจะมีไม่มาก แต่มันมีความเป็นไปได้ที่คุณจะประสบความสำเร็จหากคุณเชี่ยวชาญในด้านใดด้านหนึ่ง ซึ่งถ้าคุณไม่มีอะไรโดดเด่นเลย นั่นล่ะคือจุดอ่อน”
“สิ่งที่ซับซ้อนเกี่ยวกับการต่อสู้แบบผสมผสานยกตัวอย่างเช่น เมื่อคนที่ยืนสู้ไม่เก่งมาเจอกับคู่ต่อสู้ที่เก่งท่ายืน ถ้าคน ๆ นั้นมีทักษะปล้ำจับล็อกที่แข็งแกร่ง เขาจะใช้การปล้ำจับล็อกในกดดันคู่แข่งได้ ซึ่งการทำอย่างนั้นจะช่วยลดทอนความสามารถของอีกฝ่ายลง”
ดังนั้น เมื่อแฟน ๆ หลายคนคิดว่าศึกนี้จะเป็นการดวลเดือดระหว่างสองนักปล้ำจับล็อก ชินยะ ก็ได้แต่บอกว่า “อืม นั่นก็แค่แง่มุมหนึ่ง” เพราะในความเหมือนย่อมมีความแตกต่าง และจอมล็อกแห่งวงการอย่างเขาจะแสดงให้ดูว่ามันต่างกันตรงไหนในศึกนี้
“ผมสามารถทำให้ศึกนี้มันคุ้มค่าต่อการรับชม เหมือนนิยายดี ๆ ที่มีโครงเรื่องเจ๋ง ๆ เล่าเรื่องให้น่าติดตาม มีจุดไคลแม็กซ์ และตอนจบที่ประทับใจ แม้ศึกนี้จะผ่านไปแล้วหลายเดือน แต่ก็ยังจะติดอยู่ในใจแฟน ๆ ไปอีกนาน”
อ่านเพิ่มเติม: