แกร่งจริงต้องยอม “สิทธิชัย” รับเสียท่าลูกศอก “นิโค” จากนี้มุ่งลุยสายคิกบ็อกซิ่งเต็มสูบ

“สิทธิชัย ศิษย์สองพี่น้อง” นักสู้มากประสบการณ์ วัย 33 ปี จากบุรีรัมย์ เผยสู้แบบเต็มที่สุดฝีมือแล้ว แต่ไม่สามารถต้านทานความแข็งแกร่งของ “นิโค คาร์ริลโล” กำปั้นตัวอันตราย วัย 26 ปี จากสกอตแลนด์ ทำให้ตนต้องตกเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไป ในศึก ONE Fight Night 30 เมื่อช่วงเช้าวันเสาร์ที่ 5 เม.ย.ที่ผ่านมา
ไฟต์นี้ “สิทธิชัย” ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นนักสู้ที่มีฝีมือโดดเด่นทั้งในกติกาคิกบ็อกซิ่งและมวยไทย ออกมาสู้ในฐานะผู้ท้าชิงอันดับ 5 ของแรงกิง ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต (145-155 ป.) โดยต้องทำหน้าที่รับน้อง “นิโค” ที่หาญกล้าขยับขึ้นมาโชว์ความดุดันชกรุ่นเฟเธอร์เวตแบบเต็มตัวใน ONE (ใหญ่) เป็นครั้งแรก
ผลปรากฏว่า “สิทธิชัย” ไม่สามารถใช้ความเก๋าต้านทานความสดของ “นิโค” เอาไว้ได้ โดยนักชกขวัญใจชาวไทย พลาดท่ามีแผลแตกตั้งแต่ยกแรก ก่อนโดนเสิร์ฟอาวุธชุดใหญ่ ทำให้ตกเป็นฝ่ายพ่ายน็อกต่อ “นิโค” ไปในยกที่ 2 ส่งผลให้เจ้าตัวต้องพบกับความพ่ายแพ้สองไฟต์ติดกันในการชกกติกามวยไทย
“ไฟต์นี้ผมมาพร้อมเต็มที่ ซ้อมประมาณเกือบ 2 เดือน โดยเตรียมตัวมาหนักมากเพราะ นิโค เป็นนักมวยที่แข็งแกร่ง มีหมัดฮุกซ้ายอันตราย ซึ่งผมได้หาทางแก้เอาไว้แล้ว แต่ครั้งนี้เขามีอาวุธศอกด้วย นี่คือสิ่งที่ผมไม่ได้คิดว่าเขาจะมีเพิ่มเข้ามาครับ”
“ยกแรกยังดูสูสี แต่จังหวะที่แลกกัน 50-50 เขามีศอกบวกเพิ่มมาทำให้เกมพลิก เพราะผมมีแผลแตกเลือดไหลเข้าตา ทำให้ตาข้างขวาเริ่มมองได้ไม่ค่อยชัด ผมต้องคอยปัดเช็ดอยู่ตลอด สุดท้ายคือเหมือนต้องสู้ด้วยตาซ้ายข้างเดียว”
“ยกสองผมโดนหมัดตัดเข้าลำตัวทำให้จุกเสียนับไปก่อน แต่ยังลุกขึ้นมาได้ ซึ่งหลังจากนั้นผมยังมองคู่ชกไม่ค่อยชัด ก่อนโดนอาวุธเล่นงานล่างสลับบนจนร่วงลงไปอีกครั้ง ตอนนั้นผมพยายามจะฟื้นตัวแต่ไม่ทันเวลา ต้องแพ้ไปแบบแทบไม่รู้ตัวเลยครับ”
ความพ่ายแพ้ในครั้งนี้ทำให้ “สิทธิชัย” ต้องยอมรับแบบไม่มีทางเลือกว่าชื่อของตัวเองอาจต้องกระเด็นหลุดจากอันดับแรงกิง ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต ไปในที่สุด แต่เจ้าตัวยังไม่คิดถอดใจง่าย ๆ โดยต่อจากนี้ ขอโฟกัสที่กติกาคิกบ็อกซิ่งซึ่งเป็นสิ่งที่ตนถนัดมากกว่า

“เป้าหมายต่อจากนี้ผมคงขอโฟกัสไปที่การชกในกติกาคิกบ็อกซิ่ง เพราะตอนนี้เป็นช่วงบั้นปลายของอาชีพแล้ว ถ้าให้สู้ในกติกาที่คุ้นชินเคยชกมาตลอดชีวิตอย่างคิกบ็อกซิ่งน่าจะเหมาะสมมากกว่า”
“ผมคิดว่าในการชกคิกบ็อกซิ่งยังพอมีโอกาสที่จะไต่ขึ้นไปลุ้นชิงแชมป์ได้อยู่ เพราะมันเป็นกติกาที่ผมค่อนข้างถนัด ถ้าเสริมความแข็งแกร่งของร่างกายให้มากขึ้นกว่าเดิม น่าจะยังไปต่อได้อีก”
“ผมต้องขอโทษแฟน ๆ ด้วยที่แพ้ในไฟต์นี้ ผมทำเต็มที่แล้ว เอาไว้แก้ตัวใหม่ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาเชียร์ให้กำลังใจ มีเสียงด่าบ้างชมบ้างก็ไม่เป็นไร ผมพร้อมยอมรับทุกคำติชม เพราะทุกคนมีสิทธิ์ที่จะวิจารณ์ได้ เราเป็นนักกีฬามีแพ้มีชนะ ต้องสู้กันต่อไปครับ”
แฟนกีฬาการต่อสู้สามารถติดตามข่าวสารอัปเดตของ ONE ได้ที่เว็บไซต์ ONEFC.com/th รวมถึงโซเชียลมีเดียของ ONE ประเทศไทย ได้แก่ Facebook ONE Championship Thailand Instagram ONEChampTh และ TikTok ONEChampTH