ชกยากจริง “ซุปเปอร์เล็ก” รับ “นาบิล” คือตัวอันตรายที่ประมาทไม่ได้ในอนาคต
“ซุปเปอร์เล็ก เกียรติหมู่ 9” ยอมรับฝีมือรุ่นน้องก้านยาว “นาบิล อานาน” เป็นคู่แข่งที่ชกด้วยยาก และถือเป็นตัวอันตรายที่ประมาทไม่ได้ในอนาคต
“ซุปเปอร์เล็ก เกียรติหมู่ 9” ราชันคิกบ็อกซิ่ง รุ่นฟลายเวต (125-135 ป.) เปิดใจหลังเอาชนะน็อกดาวรุ่งก้านยาว “นาบิล อานาน” ในศึก ONE ลุมพินี 22 เมื่อ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยเผยว่าดาวรุ่งวัย 19 ปีรายนี้เป็นคู่แข่งที่ชกด้วยยาก และประมาทไม่ได้แม้แต่น้อย
ถือเป็นคู่มวยที่สร้างกระแสฮือฮาตั้งแต่การประกบคู่ ที่แฟนมวยต่างรอดูบทสรุป เพราะต่างฝ่ายต่างก็มีดีคนละอย่าง ด้าน “ซุปเปอร์เล็ก” ได้ชื่อชั้นมวยที่เรียกได้ว่ากระดูกแข็งโป๊ก ขณะที่ “นาบิล” มาพร้อมกับส่วนสูงกว่า 190 ซม. ซึ่งเป็นต่อในเรื่องรูปร่างอย่างชัดเจน
แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าตัวเองนั้นจะต้องเสียเปรียบในเรื่องรูปร่าง แต่ “ซุปเปอร์เล็ก” ก็ตกปากรับคำขึ้นชกอย่างไม่ลังเล และมั่นใจด้วยว่าชั่วโมงบินศาสตร์มวยไทยที่สั่งสมมานั้นมากพอที่จะสะกัดดาวรุ่งรายนี้ได้อย่างไม่มีข้อสงสัย ต่อหน้าแฟน ๆ ที่มารอเชียร์ในสนามลุมพินี
“ก่อนอื่นเลยผมรู้สึกดีใจครับที่ได้กลับมาชกที่เวทีลุมพินี พอประกบเจอ นาบิล ก็รู้ทันทีเลยว่าผมเสียเปรียบรูปร่าง แต่ผมเชื่อในตัวเองว่าทุกอย่างผมดีกว่าเขา ผมก็เลยรับปากชกครับ ไฟต์นี้ตื่นเต้นนะครับเพราะได้กลับมาชกในลุมพินีเรียกว่าถิ่นผมเลยก็ว่าได้ แต่ผมก็มั่นใจในตัวเอง”
โดยไฟต์นี้ “ซุปเปอร์เล็ก” ยอมรับว่าเป็นความท้าทายใหม่ที่ต้องมาต่อกรกับรุ่นน้องมีทั้งความสดและส่วนสูงที่ต่างกันถึง 20 ซม. และเมื่อได้ประจันหน้ากันจริงบนสังเวียน ยอดมวยจากเมืองบุรีรัมย์วัย 27 ปี ถึงกับเอ่ยปากว่า “นาบิล” เป็นคู่ต่อสู้ที่ชกด้วยยาก และออกอาวุธได้อันตรายเลยทีเดียว
“น้องนาบิล เป็นนักมวยที่ชกด้วยยาก อันตรายครับ ที่ผมวางแผนมาตั้งใจจะสู้ในระยะประชิด เพราะช่วงชกผมสั้น ในช่วงต้นเกมผมลองเตะดูแข้งสองแข้งแล้ว เตะน้องไม่ถึงเลยครับ”
อย่างไรก็ตาม ในฐานะแชมป์โลกคิกบ็อกซิ่งและผู้รั้งอันดับหนึ่งของแรงกิง ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวต “ซุปเปอร์เล็ก” ก็ไม่ยอมเสียเชิง งัดความเก๋าเข้าแก้เกมด้วยการเข้าประชิดตัว รอจังหวะที่ “นาบิล” เผยช่องโหว่และโจมตีด้วยหมัดและแข้ง จนปิดเกมได้แบบไม่ต้องพึ่งกรรมการ
“ด้วยสไตล์ผมที่เป็นมวยเดินได้ถอยเป็น ผมก็ต้องคอยอ่านเกมน้องครับ เขามีหมัดขวาและแย็บซ้ายที่ดี ประมาทไม่ได้เลย ผมเลยตัดสินใจที่เดินเข้าหา ลูกที่เผด็จศึกได้คือผมเลยรอจังหวะที่น้องต่อยมา น้องจะต้องค้อมตัวลงมาเพราะผมเตี้ยกว่า แล้วขาซ้ายน้องจะต้องยืน ยันเอาไว้ ซึ่งทำให้ป้องกันตัวไม่ได้ครับ ผมเห็นช่องก็ออกหมัดแล้วตามด้วยแข้ง พอเห็นน้องมีอาการ เลยคิดว่ารีบปิดเกมดีกว่าครับ“
ชัยชนะในครั้งนี้ทำให้ “ซุปเปอร์เล็ก” คว้าโบนัส 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ (กว่า 1.7 ล้านบาท) จากบิ๊กบอส “ชาตรี ศิษย์ยอดธง” โดยเจ้าตัวก็ออกมาแง้มถึงเป้าหมายใหม่ นั่นคือการขอวัดฝีมือกับ “โจนาธาน แฮ็กเกอร์ตี” แชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต (135-145 ป.) ที่เคยออกมาประกาศท้าชนกับนักมวยไทยหลายคนซึ่งรวมถึงเขาด้วย
“ผมก็ขอบอสครับ ผมอยากวัดกับ แฮ็กเกอร์ตี ก่อนหน้านี้ ผมได้ยินว่า แฮ็กเกอร์ตี อยากเจอหลายคนมากเลย ทั้ง รถถัง พี่น้องโอ๋ และหนึ่งในนั้นคือผม ที่เขาหมายหัวไว้ด้วย ผมก็อยากเจอเขาด้วยเหมือนกันครับ
ผมเคยเจอกับ แฮ็กเกอร์ตี มาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อตอนชกกันที่อังกฤษครับ ตอนนั้น ผมศอกเขาจนเกิดแผลแตกและกรรมการจับแพ้แตกไป เขาคงยังคาใจ ผมก็อยากวัดกับเขาอีกครั้งหนึ่งในวันที่เขาแข็งแกร่งขึ้นและเป็นแชมป์โลกครับ”
แฟนกีฬาสามารถติดตามอัปเดตโปรแกรมการแข่งขันของ “ซุปเปอร์เล็ก” ได้ที่นี่ และโซเชียลมีเดียของ ONE ทุกช่องทาง ได้แก่ เฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand, อินสตาแกรม ONEChampTh