“ตะวันฉาย” ยอมรับพ่ายแรงปะทะ เชื่อหากดวล “สิทธิชัย” อีกครั้งแบบเต็มเวต จะมันกว่านี้แน่นอน!
“ตะวันฉาย” ยอมรับพ่ายแรงปะทะ “สิทธิชัย” ความพ่ายแพ้ไฟต์นี้ถือเป็นประสบการณ์ชั้นดีที่ทำให้เห็นจุดอ่อนและข้อผิดพลาด แต่หากมีโอกาสได้เจอ “สิทธิชัย” อีกครั้งโดยที่ต่างฝ่ายเตรียมตัวมาเต็มที่ จะโชว์ฟอร์มได้มันกว่านี้แน่นอน!
“ซ้ายดารา” ตะวันฉาย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม ยอมรับว่าเสียดายที่เป็นฝ่ายพ่ายคะแนนแบบสูสีต่อนักชกรุ่นพี่ “Killer Kid” สิทธิชัย ศิษย์สองพี่น้อง ในศึก ONE: BATTLEGROUND III เมื่อ 27 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยถือเป็นบทเรียนที่สอนให้รู้ถึงข้อผิดพลาด และเป็นประสบการณ์ที่ดีที่ได้เทียบชั้นรุ่นพี่เพื่อพัฒนาฝีมือต่อไป แต่หากมีโอกาสก็อยากแก้มืออีกสักครั้งในสภาพที่พร้อมกว่านี้
ตะวันฉาย ยอมรับว่าไฟต์นี้เป็นความท้าทายของตนอย่างมาก เพราะมีความไม่พร้อมหลายอย่างที่เกิดขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัว โดยเฉพาะเรื่องการขยับน้ำหนักขึ้นมาเกือบ 5 กิโลกรัมเพื่อสู้กับรุ่นพี่ที่ชกในน้ำหนักธรรมชาติของตนเอง แต่เขาก็ได้สู้อย่างเต็มที่สมศักดิ์ศรียอดมวยแห่งยุค และยกให้ไฟต์นี้เป็นบทเรียนชั้นครูที่ทำให้เขาเรียนรู้หลายสิ่งหลายอย่างในการแข่งขันบนเวทีระดับโลกอย่าง วัน แชมเปียนชิพ
แม้ก่อนหน้านี้ ตะวันฉาย จะมั่นใจว่าถึงจะต้องขยับน้ำหนักขึ้นมาสู้ในเวตใหญ่ เขาก็ยังมีข้อได้เปรียบในเรื่องรูปร่างและช่วงชก รวมทั้งการชกในกติกามวยไทยที่เขาถนัดกว่า ทำให้มีภาษีเหนือ สิทธิชัย ที่หันไปชกคิกบ็อกซิ่งอยู่นานหลายปี แต่เมื่อลงสังเวียนจริง ตะวันฉาย ยอมรับว่าตนก็มีข้อผิดพลาดจนไม่อาจต้านความแข็งแกร่งของนักชกรุ่นพี่ได้
“ผมยอมรับว่าไม่ค่อยพอใจกับผลงานตัวเองเท่าไหร่ครับ แต่ก็สู้เต็มที่ไม่มีกั๊ก เพียงแต่ว่าการทำน้ำหนักขึ้นมาในเวลาจำกัดโดยไม่ได้เตรียมตัวตั้งแต่แรกมันส่งผลต่อการชกบนเวทีมาก ๆ มันทำให้แรงปะทะและการยืนระยะผมเสียเปรียบพี่เขา บอกตรง ๆ เลยว่าพี่เขาแข็งแกร่งมาก ผมสู้แรงปะทะไม่ได้ จนพลาดให้พี่เขาดักทางและเล่นงานได้ในช่วงท้ายเกม”
“ถึงจะแพ้ แต่ผมได้ประสบการณ์ที่ดีกับการได้สู้กับคนที่แข็งแกร่งและมีประสบการณ์ในระดับโลกอย่างพี่เขา ผมได้เรียนรู้หลายอย่างจากไฟต์นี้ เรามองเห็นเลยว่าพลาดตรงจุดไหนและควรแก้ไขอะไรบ้าง ทั้งในเรื่องเทคนิคการชก การใช้แรงปะทะกับคนที่ชกเวตใหญ่กว่าเรา รวมทั้งการแก้เกมเฉพาะหน้าบนเวทีซึ่งจะช่วยให้ผมพัฒนาฝีมือให้ดีขึ้นต่อไปในครั้งหน้าครับ”
ส่วนเป้าหมายต่อไปบนเวที ONE ของ ตะวันฉาย เจ้าตัวเผยว่าขอมุ่งมั่นไต่แรงกิงในรุ่นแบนตัมเวต (61.3 – 65.8 กก.) ต่อไป เพื่อคว้าสิทธิ์ท้าชิงแชมป์โลกกับ “น้องโอ๋ ไก่ย่างห้าดาว” ให้ได้ตามความตั้งใจแต่เดิม แล้วจึงค่อยขยับน้ำหนักตามล่าเข็มขัดแชมป์โลก ONE รุ่นเฟเธอร์เวต (65.9 – 70.3 กก.) และโค่นเจ้าบัลลังก์อย่าง “เพชรมรกต เพชรยินดีอะคาเดมี” เป็นรายต่อไป
ถึงเวลานั้นก็ไม่มีอะไรแน่นอนว่า เพชรมรกต จะยังครองเข็มขัดอยู่หรือไม่ โดยเฉพาะเมื่อเวลานี้ “สิทธิชัย” ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในผู้ที่มีโอกาสชิงบัลลังก์ และนั่นก็มีความเป็นไปได้ว่า “ตะวันฉาย” อาจได้เจอ “สิทธิชัย” อีก ตราบใดที่ทั้งคู่ยังอยู่ภายใต้ชายคาของ ONE
“ถ้ามีโอกาสเจอพี่เขาอีกครั้ง ในกติกามวยไทย รุ่น 70.3 กก. ถ้าผมได้ซ้อมและมีเวลาทำร่างกายเต็มที่ ผลที่ออกมามันจะดีกว่าที่เห็นแน่นอน ผมคงไม่พูดว่าผมจะชนะพี่เขาได้นะครับ เดี๋ยวจะหาว่าโม้อีก (หัวเราะ) แต่เอาเป็นว่าถ้าเราทั้งคู่ต่างฝ่ายเตรียมความพร้อมมาอย่างเต็มตัว จะโชว์ฟอร์มได้มันสนุกกว่านี้แน่นอนครับ”
อ่านเพิ่มเติม