แข่งกับตัวเอง “ตะวันฉาย” พร้อมรั้งเข็มขัดมวยไทยจาก “ซุปเปอร์บอน” พุ่งเป้าสู่การเป็นราชัน 2 กติกา
“ตะวันฉาย พีเค.แสนชัย” แชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต (145-155 ป.) วัย 25 ปี จากชลบุรี เตรียมระเบิดฟอร์มสุดชีวิต เพื่อรั้งบัลลังก์ครั้งที่ 4 จากคู่ปรับเก่า “ซุปเปอร์บอน ซุปเปอร์บอนเทรนนิงแคมป์” แชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นเดียวกัน จากพัทลุง ที่หวังจะมาสร้างประวัติศาสตร์ขึ้นแท่นเป็นแชมป์โลก 2 กติกา ให้ได้ ในคู่เอกของศึก ONE 170 ที่จะระเบิดความมันขึ้น ณ อิมแพ็ค อารีนา เมืองทองธานี ในวันศุกร์ที่ 24 ม.ค.นี้ เริ่มคู่แรก 18.00 น.
ปี 2567 ที่ผ่านมา ถือเป็นอีกหนึ่งปีที่เรียกได้ว่าไม่ง่ายเลยสำหรับ “ตะวันฉาย” โดยแม้จะสามารถป้องกันบัลลังก์ครั้งที่ 3 เอาไว้ได้ด้วยการเบียดเอาชนะคะแนนเสียงข้างมากเหนือ “โจ ณัฐวุฒิ” ในศึก ONE 167 เมื่อเดือน มิ.ย. แต่ชัยชนะครั้งนั้นกลับมาพร้อมเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหลังจบการแข่งขัน จนส่งผลกระทบอย่างมากต่อสภาพจิตใจ ถึงขั้นต้องตัดสินใจห่างจากโลกโซเชียลเป็นเวลาหลายเดือน เพื่อฟื้นฟูจิตใจให้กลับมาแข็งแรงดีอีกครั้ง
“ไฟต์ล่าสุด พี่โจ มาดีมากครับ ส่วนผลงานก็ออกมาอย่างที่เห็น มีดรามานิดหน่อย แต่ก็โอเคครับ ทุกอย่างทำให้ผมได้เรียนรู้อะไรหลายอย่าง ทําให้ผมได้เติบโตขึ้นและมองเห็นว่าอะไรคือสิ่งที่ผิดพลาด ทําให้ผมได้ประสบการณ์เพิ่มขึ้นมาก”
“ภาพรวมปีที่แล้วก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ทั้งจิตใจทั้งร่างกาย พูดง่าย ๆ คือผิดหวังไปหมด ช่วงที่หายจากโลกโซเชียล คือผมไม่อยากรับรู้อะไรเลย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ผมไม่ได้เป็นคนตัดสิน แต่ทําไมต้องโห่ผมขนาดนั้น ทั้งที่ผมไม่รู้เรื่องอะไร มันทำให้ผมรู้สึกผิดหวังนิดหน่อยครับ”
“หลังจบไฟต์กับพี่โจ หมอให้ผมพักรักษาอาการบาดเจ็บ 2- 3 เดือน จึงหายกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง ตอนช่วงที่ซ้อมมวยไม่ได้ ผมก็ดูคลิปการชกของผมเองว่าผิดพลาดตรงไหนบ้าง และนำกลับมาปรับปรุงแก้ไข ครั้งนี้ ผมอยากกลับมาเรียกศรัทธาจากคนที่ไม่เชื่อใจผมแล้ว และอยากให้คนที่ยังเชื่อใจผมอยู่กลับมาดูผมชกอีกครั้ง”
เมื่อกายและใจกลับมาเต็มร้อยอีกครั้ง “ตะวันฉาย” จึงพร้อมคืนสังเวียนทำหน้าที่ป้องกันบัลลังก์มวยไทย ของตนเองเป็นครั้งที่ 4 โดยจะพบกับ “ซุปเปอร์บอน ซุปเปอร์บอนเทรนนิงแคมป์” ราชันคิกบ็อกซิ่ง รุ่นเดียวกัน ที่เคยดวลฝีมือกันมาแล้ว 1 ครั้ง ในศึก ONE ลุมพินี 46 เมื่อเดือน ธ.ค.66 ซึ่งเกมการชกในวันนั้นเป็นไปอย่างสนุกสุดมัน ก่อน “ตะวันฉาย” ที่เข้าทำได้น้ำได้เนื้อกว่า จะรักษาเข็มขัดครั้งที่ 2 เอาไว้ได้สำเร็จ ด้วยการเบียดชนะคะแนนเสียงข้างมาก
สำหรับผลงานล่าสุดของ “ซุปเปอร์บอน” ในศึก ONE ลุมพินี 81 เมื่อเดือน ก.ย.67 แม้จะร้อนแรงสุดขีด จากการโชว์เพลงศอกขั้นสูง ปิดเกมน็อก “โจ ณัฐวุฒิ” อย่างรวดเร็วในยกแรก จนนำมาซึ่งสิทธิ์ขึ้นท้าชิงบัลลังก์มวยไทยในครั้งนี้ แต่ “ตะวันฉาย” ก็ไม่มีหวั่น ขอระเบิดฟอร์มสุดชีวิต เพื่อรั้งบัลลังก์สุดหวงของตนเองเอาไว้ให้ได้
“การได้เจอกับพี่ซุปเปอร์บอน ในภาค 2 น่าจะเป็นไฟต์ที่สนุกไม่ต่างจากภาคแรกแน่นอน เพราะพี่เขาได้ต่อยมวยไทยในไฟต์ล่าสุด ทำให้คิดว่าน่าจะคุ้นเคยมากกว่าเดิม ส่วนผมเองก็เตรียมตัวมาเต็มที่สำหรับไฟต์นี้ ผมซ้อมหนักมาก ลูกพี่คุมเข้มทุกวัน หลังจากที่ผมผิดหวังจากไฟต์ที่แล้ว ทำให้ผมรู้ว่าต้องพัฒนาและเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้นครับ”
“จุดแข็งพี่ซุปเปอร์บอน คือเป็นคนที่แข็งแรงและหาจังหวะดีครับ ถ้าถามว่าผมจะต้องระวังอาวุธอะไรของพี่เขาเป็นพิเศษ เอาเป็นว่าผมรู้ในใจแล้วว่าแกจะใช้ลูกไหน แต่ผมไม่พูดดีกว่า”
“ส่วนรูปเกม ผมบอกไม่ได้ว่าจะเป็นแบบไหน เพราะมวยระดับนี้ เรารู้ทันกันทุกจังหวะ ต้องไปรอดูกันบนเวทีว่าอะไรจะเกิดขึ้น ผมไม่รู้ว่าไฟต์นี้จะจบด้วยคะแนนหรือไม่ครบยก แต่ที่แน่ ๆ คือผมไม่อยากแพ้”
“สำหรับผม ไฟต์นี้ไม่ใช่การแข่งกับใคร แต่เป็นการแข่งกับตัวเองมากกว่า ถ้าผมชนะไฟต์นี้ได้ ก็ถือเป็นการบรรลุเป้าหมายในใจผมแล้ว”
นอกจากนี้ “ตะวันฉาย” ซึ่งกำลังครองสถิติชนะรวด 8 ไฟต์ในขณะนี้ ยังได้เผยถึงเป้าหมายที่วางไว้ในปี 2568 คือการตั้งใจที่จะสร้างประวัติศาสตร์ พาตัวเองขึ้นแท่นเป็นแชมป์โลก ONE 2 กติกา คนถัดไปให้ได้ ด้วยการพิชิตเข็มขัดคิกบ็อกซิ่งของ “ซุปเปอร์บอน” มาครอง
“ถ้าไฟต์นี้ชนะพี่ซุปเปอร์บอน ก็อยากไปข้ามไปคิกบ็อกซิ่ง จะเจอกับใครก็ได้ในแรงกิง หรือถ้ารายการจะให้ผมชิงเลยก็ได้ เพราะเป้าหมายในปี 2568 นี้ ผมต้องการรักษาเข็มขัดมวยไทยเอาไว้ แล้วก็ไปล่าเข็มขัดคิกบ็อกซิ่งต่อ เพื่อเป็นการพิสูจน์ตัวเองครับ”
ติดตาม “ตะวันฉาย vs ซุปเปอร์บอน ll” ศึก ONE 170 ถ่ายทอดสดจาก อิมแพ็ค อารีนา วันศุกร์ที่ 24 ม.ค.68 แฟนกีฬาการต่อสู้ชาวไทยสามารถจองบัตรเข้าชมในสนามผ่านทาง THAI TICKET MAJOR คู่แรกเริ่มเวลา 19.30 น. และรับชมทางช่องทางต่าง ๆ ดังนี้
- ช่อง 7HD กด 35 (ภาษาไทย) เริ่ม 20.30 น.
- เฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand เริ่ม 19.30 น.
- ยูทูบ ONE Championship (บางประเทศ) เริ่ม 19.30 น.
- Watch.ONEFC.com (บางประเทศ) เริ่ม 19.30 น.
