มีดีกว่าที่คิด “ตี๋ใหญ่” ขอพิสูจน์ตัว ล่าชัย 4 ไฟต์ติดเพื่อเปิดทางลุยศึก ONE ใหญ่
“ตี๋ใหญ่” ฟอร์มร้อนแรงชนะมา 3 ไฟต์ติดต่อกัน ขอกลับมาโชว์ฝีมือให้เห็นว่ามีดีกว่าที่ทุกคนคิด เชื่อโอกาสได้ตีตั๋วไปลุย วัน แชมเปียนชิพ อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม
“ตี๋ใหญ่ พีเค.แสนชัยฯ” มวยฝีมือแรงทุกดอก วัย 22 ปี จากยะลา เป็น 1 ใน 8 นักชกฟอร์มจัดที่กวาดเงินโบนัสทะลุหลักล้าน ได้ฤกษ์กลับมาล่าแต้มชัยเป็นไฟต์ที่ 4 เจอกับมวยจอมแสบจากอิรัก “อายัด อัลบัด” วัย 22 ปี ที่เฝ้ารอโอกาสอยากแก้ตัวมานาน โดยเตรียมแลกอาวุธกันในกติกามวยไทย พิกัดแคตช์เวต 125 ป. ศึก ONE ลุมพินี 33 วันศุกร์ที่ 15 ก.ย.นี้ ที่สนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา)
“ไชยวัฒน์ พรมแก้วพันธ์” หรือฉายา “ตี๋ใหญ่” ซึ่งตั้งชื่อตามตัวละครชื่อดังที่ตนชื่นชอบในวัยเด็ก เริ่มชกมวยตอนอายุ 10 ขวบ เพราะรู้สึกว่าสนุกและหาเงินง่ายเอาไว้ใช้ได้เอง ก่อนที่ช่วงกำลังเรียนชั้นมัธยมปลาย “ตี๋ใหญ่” ได้ย้ายไปอยู่ที่โรงเรียนประจำจังหวัดนราธิวาส พร้อมกับชกมวยไปด้วย โดยสามารถสร้างชื่อต่อเนื่องจากการเอาชนะคู่ชกจากเวทีมวยภูธรมากมายหลายแห่ง รวมถึงมีประสบการณ์ขึ้นชกมวยไทยสมัครเล่นในรายการเยาวชนแห่งชาติ และชิงแชมป์โลก มาแล้ว
แต่เมื่อเข้าเรียนระดับมหาวิทยาลัย “ตี๋ใหญ่” เริ่มไม่มีเวลาซ้อมทำให้ต้องห่างจากการชกมวยไปนานถึง 3 ปี จนกระทั่งอายุ 20 ปี หลังเสร็จสิ้นภารกิจเกณฑ์ทหารจึงได้ถูกชักชวนให้มาอยู่ที่ค่ายมวยพีเค.แสนชัยฯ และพัฒนาฝีมือการชกขึ้นมาได้อย่างโดดเด่น โดยเฉพาะผลงานในศึก ONE ลุมพินี ที่เดินหน้าเก็บชัย 3 ไฟต์รวด กวาดเงินโบนัสรวมไปแล้วถึง 1.05 ล้านบาท ส่งให้ชีวิตของตนเองและครอบครัวดีขึ้นทันตาเห็น
ไฟต์ล่าสุดในศึก ONE ลุมพินี 18 “ตี๋ใหญ่” โชว์ท่าเด็ดเข่าลอยพิชิตน็อกยกสอง “ศักดิ์เล็ก เกียรติทรงฤทธิ์” พร้อมคว้าดับเบิลโบนัสมูลค่า 7 แสนบาทมาครอง ทำเอาเจ้าตัวปลาบปลื้มในผลงานของตัวเองที่ดีเกินคาดไปมาก
“จากผลงาน 3 ไฟต์ที่ผ่านมาในศึก ONE ลุมพินี ผมพอใจกับผลงานของตัวเองมาก คิดไม่ออกว่าจะหารายได้เยอะมากขนาดนี้ได้จากรายการอื่น ถ้าไม่รีบไขว่คว้าโอกาสตรงนี้ไว้ก็ไม่รู้ว่าจะได้รับผลตอบแทนดี ๆ แบบนี้ได้อีกตอนไหน ขณะที่แฟนมวยก็ให้การตอบรับที่ดีมาก มีคนทักมาให้กำลังใจและชื่นชมในผลงาน มันทำให้ผมรู้สึกดีใจมากครับ”
ตอนนี้ “ตี๋ใหญ่” มีความพร้อมและมั่นใจเต็มที่อยากยกระดับไปโชว์ผลงานใน ONE รายการใหญ่ให้ได้ โดยหวังให้แฟนมวยทุกคนได้เห็นตัวเองในเวอร์ชันที่ดีกว่าเดิม ไม่ได้เป็นแค่นักชกธรรมดาที่ใครจะมาดูถูกได้
ถ้าเป็นไปได้หากชนะในไฟต์นี้หรือไฟต์ถัดไป ผมอยากได้สัญญาไปชกใน วัน แชมเปียนชิพ เพราะตอนนี้ผมพร้อมมาก ตั้งใจที่จะไปโชว์ผลงานในระดับโลกให้ได้ มาถึงตอนนี้ ผมพร้อมแสดงให้ทุกคนเห็นว่าผมมีดีกว่าที่ทุกคนคิด มีไหวพริบในการชกมวย คิดได้ทำได้ ออกอาวุธได้ดี ไม่อยากให้ใครมามองว่าผมธรรมดาครับ”
แม้จะผ่านการชกในศึก ONE ลุมพินี มาแล้ว 3 ไฟต์ ทำให้คุ้นเคยกับการชก 3 ยก และใช้นวมเล็กเป็นอย่างดี แต่ “ตี๋ใหญ่” ก็ไม่คิดติดประมาท โดยการดวลฝีมือกับ “อายัด” ครั้งนี้ ตนขอเดินลุยแบบใส่เต็มและได้เตรียมหาแผนแก้เกมเมื่ออยู่ในสถานการณ์จริง
“อายัด เป็นมวยสไตล์ฝีมือ มีอาวุธที่หนัก ตัวสูงด้วย แต่มวย 3 ยก นวมเล็ก อะไรก็เกิดขึ้นได้ ผมยังไม่อยากมั่นใจในตัวเองจนเกินไป สไตล์ของผมเป็นมวยเดินชัดเจน ถ้าเจอรูปเกมแบบไหนบนเวทีต้องหาวิธีแก้มืออีกรอบ แต่ยังไงผมไม่มีทางเป็นฝ่ายถอยแน่นอน หากมีโอกาสก็อยากเอาชนะน็อกคู่ต่อสู้ให้ได้ เพื่อลุ้นคว้าโบนัสอีกครั้งเพื่อเก็บเงินไว้ให้ครอบครัวได้ใช้ยามจำเป็นครับ”
ศึก ONE ลุมพินี 33 ถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) วันศุกร์ที่ 15 ก.ย.นี้ แฟนกีฬาการต่อสู้ชาวไทยสามารถจองบัตรเข้าชมในสนามผ่านทาง THAI TICKET MAJOR คู่แรกเริ่มเวลา 19.30 น. และรับชมทางช่องทางต่าง ๆ ดังนี้
- ช่อง 7HD กด 35 (ภาษาไทย) เริ่ม 20.30 น.
- เฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand เริ่ม 19.30 น.
- ยูทูบ ONE Championship (บางประเทศ) เริ่ม 19.30 น.
- Watch.ONEFC.com (บางประเทศ) เริ่ม 19.30 น.