ภาค 3 ฤกษ์งามยามดี “ยอดเหล็กเพชร” ขอล้างตา “เมืองไทย” ลบแผลในใจนาน 6 ปี
“ยอดเหล็กเพชร” เก็บบัญชีแค้นมานาน 6 ปี ตั้งเป้าเอาชนะคู่ปรับเก่า “เมืองไทย” ครั้งแรกในศึกไตรภาค ลับอาวุธเด็ดทั้งหมัดเท้าเข่าศอกมาโชว์เต็มที่ในศึกยิ่งใหญ่แห่งปี ONE ลุมพินี 34
“จอมทำลายล้าง” ยอดเหล็กเพชร อ.อัจฉริยะ มวยหมัดหนัก วัย 28 ปี จากร้อยเอ็ด ฟอร์มกำลังสดเก็บชัยรวด 4 ไฟต์ติด พร้อมรับโบนัสไปรวม 1.05 ล้านบาท ได้โอกาสเปิดศึกภาค 3 ล้างตาอริเก่า “ขุนศอกผีดิบ” เมืองไทย พีเค.แสนชัย นักชกจอมอึด วัย 29 ปี จากบุรีรัมย์ โดยเตรียมวัดแกร่งกันในกติกามวยไทย พิกัดแคตช์เวต 138 ป. ศึกบิ๊กไฟต์ ONE ลุมพินี 34 วันศุกร์ที่ 22 ก.ย.นี้ ที่สนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา)
“ยอดเหล็กเพชร” ถือเป็นนักสู้แถวหน้าของวงการมวยไทยที่พกดีกรียาวเป็นหางว่าว เคยเป็นแชมป์ทั้งที่สนามมวยเวทีลุมพินี, สนามมวยเวทีราชดำเนิน รวมถึงเป็นนักมวยไทยยอดเยี่ยม สยามกีฬา อวอร์ด ปี 2560 แต่เขายังไม่เคยจารึกชื่อในฐานะผู้เอาชนะ “เมืองไทย” ได้เลย ทั้งคู่ได้ประจันหน้ากันครั้งแรกเมื่อเดือน ก.ย.59 และครั้งที่สองในเดือน พ.ค.60 โดย “ยอดเหล็กเพชร” เป็นฝ่ายแพ้คะแนน “เมืองไทย” ทั้งสองครั้ง
อย่างไรก็ตาม การพบกันสองครั้งนั้นเป็นการแข่งขันในรูปแบบมวยไทย 5 ยก แต่ครั้งนี้พวกเขาจะได้วัดฝีมือกันในรูปแบบมวยไทย 3 ยก โดยสวมนวมเล็กเปิดนิ้วสู้กันเป็นครั้งแรก ซึ่งอาจเข้าทางกลายเป็น “Third Time Lucky” เหมือนสำนวนดังฝรั่งที่มีความหมายว่าเรื่องร้ายอาจกลายเป็นดีในหนที่สาม หากสองครั้งแรกยังไม่สมหวัง แต่ในครั้งที่สามนี้ “ยอดเหล็กเพชร” ที่ฝีมือกำลังเข้าฝักและฟอร์มแรงไม่แผ่วอาจสามารถล้างตาคู่ปรับไม้เบื่อไม้เมาได้สมใจ
หลังผ่านศึก ONE ลุมพินี ไป 4 ไฟต์ ด้วยผลงานชนะรวด ทำให้ชีวิตของ “ยอดเหล็กเพชร” และครอบครัวที่รักดีขึ้นชนิดพลิกฝ่ามือ ซึ่งจากฟอร์มยอดเยี่ยมที่ผ่านมาทำให้ “จอมทำลายล้าง” มีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้นและพร้อมทำผลงานให้ดีขึ้นทุกไฟต์ โดยมีฝันใหญ่อยากตามรอยรุ่นพี่ “เสกสรร อ.ขวัญเมือง” ไปลุยศึก วัน แชมเปียนชิพ บ้าง
“ผมชก ONE ลุมพินี ไปแล้ว 4 ไฟต์ ทำให้ชีวิตเปลี่ยนไปเยอะมาก ช่วยให้ครอบครัวมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น รวมถึงมีคนรู้จักเยอะขึ้นมากด้วย การได้เข้ามาแข่งขันในรายการนี้ทำให้ผมมีความหวังและมีเป้าหมายในการชกมวยอีกครั้ง ล่าสุดผมเห็น พี่เสกสรร สู้จนประสบความสำเร็จ ซึ่งเป็นแรงกระตุ้นให้ผมมีความฝัน อยากเซ็นสัญญาเป็นนักกีฬาของ ONE ให้ได้เหมือนกันครับ”
ยิ่งไปกว่านั้น ผ่านไป 6 ปี “ยอดเหล็กเพชร” ได้โคจรกลับมาเจอ “เมืองไทย” อีกครั้ง ในช่วงที่สภาพร่างกาย และจิตใจกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น ซึ่งเขามองว่าตัวเองมีความแข็งแกร่งมากกว่าเดิม ยิ่งไปกว่านั้นทั้งสองฝ่ายต่างพร้อมใจกันลดน้ำหนักมาเจอกันที่เวต 138 ป. ซึ่ง “ยอดเหล็กเพชร” มองว่าไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบ และการสู้กันภายใต้นวมเล็กจะยิ่งทำให้การต่อสู้ครั้งนี้มีความสนุกสูสีเพิ่มมากขึ้นด้วย
“ก่อนหน้านี้ผมเจอกับ เมืองไทย มาสองไฟต์ เป็นฝ่ายแพ้ไปทั้งสองไฟต์ แต่เป็นการต่อสู้ที่ดุเดือดมาก เหตุผลสำคัญที่ทำให้ผมแพ้เพราะเหมือนมีอาการแผ่วปลาย ออกอาวุธไม่ทันคู่ชก แต่ 6 ปีผ่านไป ผมมีโอกาสได้แก้มือ เมืองไทย ในครั้งนี้ ผมขอสู้ให้เต็มที่เพื่อเอาชนะล้างตาให้สำเร็จครับ”
“ไฟต์นี้ เมืองไทย ลดจากเวต 145 ป. มาชกในเวต 138 ป. ส่วนผมลดลงมาจาก 140 ป. ก็ถือว่าพอดีกันไม่เสียเปรียบอะไรมาก ผมคิดว่าเจอกันรอบนี้ในแบบ 3 ยก ใช้นวมเล็กเปิดนิ้ว อะไรก็เกิดขึ้นได้ เพราะว่าขึ้นไปแลกอาวุธบนเวทีไม่มีความแน่นอนครับ ไม่เขาก็ผมมีสิทธิ์ร่วงได้เหมือนกัน ไฟต์นี้ผมมองโอกาสชนะอยู่ที่ 50-50 ต้องดูคู่ชกด้วยว่าเปิดเกมมาสู้แบบไหนครับ”
ติดตามชม “เมืองไทย vs ยอดเหล็กเพชร” ศึก ONE ลุมพินี 34 ถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) วันศุกร์ที่ 22 ก.ย.นี้ คู่แรกเริ่มเวลา 19.30 น. และรับชมทางช่องทางต่าง ๆ ดังนี้
- ช่อง 7HD กด 35 (ภาษาไทย) เริ่ม 20.30 น.
- เฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand เริ่ม 19.30 น.
- ยูทูบ ONE Championship (บางประเทศ) เริ่ม 19.30 น.
- Watch.ONEFC.com (บางประเทศ) เริ่ม 19.30 น.