ดีใจจนอยากร้องไห้ “ทองพูน” ปลื้มใจขั้นสุดพิสูจน์ตัวเองบนเวทีโลกสำเร็จ
“ทองพูน” เผยความรู้สึกจากก้นบึ้งหัวใจ สุดตื้นตันถึงขั้นกลั้นน้ำตาไม่ไหวหลังกลับมาแก้ตัวเก็บแต้มชัยแรกบนเวทีระดับยิ่งใหญ่ระดับโลกได้สำเร็จ
กลับมาทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมอีกครั้ง สำหรับ “ทองพูน พีเค.แสนชัย” นักชกทรงอย่างแบด วัย 26 ปี จากมหาสารคาม ที่ระเบิดพลังเอาชนะทีเคโอ ยกแรก เหนือ “ทีมูร์ ชูอิคอฟ” คู่ชกวัย 21 ปี จากคีร์กีซสถาน ที่มาเปิดตัวใน ONE ครั้งแรกไปได้ ในศึก ONE Fight Night 19: โจนาธาน vs ฟิลิปเป ณ สนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) เมื่อวันเสาร์ที่ 17 ก.พ. ที่ผ่านมา
โดยไฟต์นี้แม้ “ทองพูน” จะต้องโคจรมาพบกับคู่ชกด่านหินอย่าง “ทีมูร์” ที่มาพร้อมความได้เปรียบเรื่องช่วงชก แต่ก็ไม่ใช่ปัญหา หลังจัดการพลิกแพลงสถานการณ์ เข้าไปเบียดเล่นเกมในระยะประชิด ก่อนจะโชว์ทักษะการออกหมัดสุดเฉียบคม อัดจอมบู๊จากคีร์กีซสถาน ลงไปกองถึง 3 นับ ประเดิมชัยแรกบนเวทีระดับโลก ONE ได้สำเร็จ ด้วยชัยชนะทีเคโอ ตั้งแต่ยกแรก
“ไฟต์นี้ ทีมูร์ เขาตั้งใจมาแลกหมัด ทำให้ผมตัดสินใจที่จะขยับเข้าไปยืนใกล้ ๆ เพื่อลดความเสียเปรียบเรื่องช่วงชก ซึ่งในจังหวะแลกหมัดกัน ผมก็ตั้งสติ แล้วนำเทคนิคการต่อยที่เรียนรู้มาจากพี่ พระจันทร์ฉาย มาใช้ จนสามารถเรียกนับได้ก่อน ซึ่งหลังจากนั้นผมก็ค่อย ๆ เลือกดูว่าเขาจะบล็อกตรงไหน คอยมองหาช่องว่างที่เขาเปิด แล้วก็ต่อยเข้าไปตรงนั้นอีก จนสามารถเอาชนะทีเคโอ มาได้ครับ”
ทันทีที่ผู้ตัดสินยุติการชก ทุกคนได้เห็นภาพที่ “ทองพูน” รีบวิ่งเข้าไปแสดงความดีใจสุดเหวี่ยงกับบรรดาทีมงานด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มอีกครั้ง หลังสามารถทลายทุกความกดดันก่อนเกมลงได้ ท่ามกลางเสียงเฮลั่นจากผู้ชมนับพันในสนาม และแน่นอนว่าด้วยผลงานการปิดเกมอย่างดุดันแบบนี้ ทำให้ “ทองพูน” ยังได้รับเงินโบนัสก้อนโตจากบิ๊กบอส “ชาตรี ศิษย์ยอดธง” อีกถึง 5 หมื่นดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.8 ล้านบาท) เป็นของรางวัลสุดพิเศษ
“อารมณ์บนเวทีตอนนั้นมันตื่นเต้นมาก ผมบอกไม่ถูกเพราะมันมีทุกอารมณ์ ผมอยากจะร้องไห้ออกมาเลย เพราะผมไม่เคยสัมผัสกับบรรยากาศอะไรแบบนี้มาก่อน แม้จะชกมวยมาหลายสิบปีแล้วก็ตาม บรรยากาศบนเวทีในตอนนั้น คือที่สุดของชีวิตแล้วครับ”
“ผมอยากขอบคุณมาก ๆ ครับสำหรับเงินโบนัสก้อนนี้ ซึ่งถือเป็นเงินก้อนที่ใหญ่ที่สุดในชีวิตการชกมวยของผม เป็นเงินรางวัลที่มหาศาลมาก สำหรับเด็กที่ยากจนคนหนึ่ง ที่สามารถไต่มาถึงตรงนี้ได้ด้วยตัวเอง และด้วยการช่วยเหลือจากทีมงานพีเค.แสนชัย รวมถึงทุกคนที่คอยให้กำลังใจกันมาโดยตลอด”
สำหรับผลงานอันสมบูรณ์แบบในไฟต์นี้ แน่นอนว่าจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากไม่มีทีมงานเบื้องหลังระดับโลกจากค่ายพีเค.แสนชัย ที่คอยช่วยเหลือฝึกปรือวิชาให้พัฒนาขึ้นในทุก ๆ วัน รวมไปถึงตัวของ “ทองพูน” เองก็เช่นกัน ที่หากขาดความขยันและแรงกระหายที่ยิ่งใหญ่ ก็ไม่มีทางที่เจ้าตัวจะได้ลิ้มรสชาติของความสำเร็จบนเวทีระดับโลกในครั้งนี้
“ผลงานของผมที่แสดงออกมาให้ทุกคนเห็นในไฟต์นี้ คิดว่าเป็นผลงานที่ดีที่สุดในชีวิตของผมแล้ว เพราะว่าผมตั้งใจซ้อมมาก กลับจากค่ายเป็นคนสุดท้ายตลอด โดยมีลูกพี่และทุกคนในค่ายพีเค.แสนชัย คอยดูแลช่วยเหลือด้านการฝึกซ้อมในทุก ๆ วัน”
“โดยเฉพาะพี่ พระจันทร์ฉาย ที่อยู่ช่วยเทรนให้ผมเป็นคนสุดท้ายทุกวัน เขาเป็นพี่ชายสุดที่รักของผม เขานิสัยดีมาก เขามีเทคนิคอะไรเขาไม่เคยกั๊กเลย สอนผมทุกอย่าง ทั้งวิธีปล้ำ วิธีศอก วิธีใช้หมัดยังไงให้ออกมาเร็วและรุนแรง คือเทคนิคทุกอย่างมาจากพี่เขาล้วน ๆ ต้องขอบคุณพี่ พระจันทร์ฉาย มากจริง ๆ ครับ”
ชัยชนะในไฟต์นี้ส่งผลให้ “ทองพูน” ถือครองสถิติสุดโหด 4 ไฟต์พ่ายไม่เป็น ซึ่งเจ้าตัวไม่รอช้า ขอประกาศเจตนารมณ์ชัดกลางเวทีว่าพร้อมไปต่อจนถึงเส้นชัยในฐานะแชมป์โลก ONE
“ผมอยากจะขอบคุณทุกคนที่รัก และคอยให้กำลังใจผมมาโดยตลอด เป้าหมายต่อไป ผมอยากชิงแชมป์โลกมวยไทย คือผมไม่รู้ว่าฟอร์มตอนนี้มันดีพอหรือยังที่จะได้โอกาสนั้น ซึ่งถ้าหากว่ายังไม่ดีพอ ผมก็จะกลับไปซ้อมให้หนัก เปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้น ปรับสไตล์การชกให้เด็ดขาดมากขึ้น และจะกลับมาทำผลงานต่อไปครับ”
ติดตามข่าวสารและความคืบหน้าได้ที่นี่และโซเชียลมีเดียของ ONE ทุกช่องทาง ได้แก่ เฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand และอินสตาแกรม ONEChampTh