เอ๊าะกว่าแล้วไง? “เจเน็ต ท็อดด์” ไม่แคร์อายุ “อัลมา” อ่อนกว่า 15 ปี
นักมวยหญิงวัย 35 ใครว่าแก่ สำหรับ “เจเน็ต” มันก็แค่ตัวเลข การซ้อมและการวางแผนเกมการต่อสู้ คือประตูสำคัญสู่ชัยชนะมากกว่าเรื่องอายุ
“JT” เจเน็ต ท็อดด์ นักมวยหญิงแกร่งดีกรีวิศวกรการบินลูกครึ่งญี่ปุ่น-อเมริกัน เจ้าของเข็มขัดแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นอะตอมเวต กำลังกลับสู่เส้นทางมวยไทยที่เธอคุ้นเคย ในศึก ONE: FISTS OF FURY III วันศุกร์ที่ 19 มีนาคมนี้ ซึ่งเธอจะได้เจอกับคู่แข่งฟอร์มสด เอ๊าะกว่าถึง 15 ปีอย่าง “อัลมา ยูนิคู” ในกติกามวยไทย ใช้หมัด เท้า เข่า ศอก ได้ครบทุกรูปแบบ
เจเน็ต ฝึกมวยไทยมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย จากการแนะนำของแฟนหนุ่ม “ดัสติน” ซึ่งปัจจุบันเขาคือสามีของเธอ หญิงสาวผู้รักการออกกำลังกาย รักสวยรักงาม และชอบทำกิจกรรมเกี่ยวกับการฟิตหุ่น วันนี้เธอกลายเป็นนักชกหญิงแกร่งที่สุดคนหนึ่งของรุ่นอะตอมเวตที่ขึ้นชื่อลือชา
แม้เธอจะประสบความสำเร็จสูงสุดกับการเป็นแชมป์โลกในกติกาคิกบ็อกซิ่ง แต่สำหรับแรงกิงมวยไทยรุ่นเดียวกัน เจเน็ต รั้งอยู่ในอันดับ 2 ซึ่งแชมป์โลกเส้นนี้เป็นของ “อัลลิเซีย เฮลเลน รอดริเกส“ นักมวยสาวจากบราซิลที่เพิ่งกระชากเข็มขัดจาก “แสตมป์ แฟร์เท็กซ์” ไปเมื่อ 28 สิงหาคมที่ผ่านมา ทำให้นักมวยหญิงตัวท็อปของไทยตกลงมาอยู่ในอันดับ 1 ของแรงกิง
ผลงานของ เจเน็ต ท็อดด์
เจเน็ต เปิดตัวครั้งแรกใน วัน แชมเปียนชิพ ในฐานะคู่ชิงแชมป์โลกกับ แสตมป์ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2562 และ เจเน็ต เป็นฝ่ายพ่ายลงจากเวทีในการแข่งขันมวยไทย 5 ยก และเข็มขัดก็ตกเป็นของ แสตมป์ ในค่ำคืนนั้น
นักมวยหญิงดีกรีวิศวกรการบิน วัย 35 กลับมาเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ และทยอยเก็บชัยชนะต่อเนื่องเหนือคู่แข่ง 3 ราย ได้แก่ หวัง ชิน หลง, ไค่ ถิง ฉวง และ เอคาเทรินา วานดารีวา ก่อนที่จะผันมาชกในกติกาคิกบ็อกซิ่ง และชิงเข็มขัดจากคู่ปรับเก่าอย่าง แสตมป์ ได้สำเร็จในอีกหนึ่งปีต่อมาที่ทั้งคู่เคยเจอกัน
แสตมป์ vs เจเน็ต II
ศึกนี้นอกจาก เจเน็ต จะได้กลับมาชกในกติกามวยไทยที่เธอสันทัดแล้ว ยังได้เจอกับคู่แข่งอย่าง อัลมา ซึ่งก็เคยประมือกับ แสตมป์ มาก่อน ถึงแม้จะมีความแตกต่างในเรื่องอายุที่ อัลมา อ่อนกว่าถึง 15 ปี แต่ เจเน็ต คิดว่านั่นไม่ใช่ประเด็น เพราะคู่แข่งที่เธอผ่านมาแต่ละคน ล้วนแต่อายุน้อยกว่าเธอทั้งนั้น
“ฉันไม่สนว่าคู่แข่งจะอ่อนกว่าฉันแค่ไหน เพราะอายุเป็นแค่ตัวเลข และมันจะไม่เป็นอุปสรรค”
“ฉันฝึกซ้อมอย่างชาญฉลาด ฉันมีโค้ชที่มีความรู้เกี่ยวกับการใช้พลังงานร่างกายอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ทำให้ฉันมีพละกำลังที่ทัดเทียมหรือเหนือกว่าเพื่อเอาชนะในการแข่งขันได้”
นอกจากเรื่องอายุแล้ว เจเน็ต ยังเคยผ่านการแข่งขัน 5 ยกมาแล้วสองไฟต์ใน วัน แชมเปียนชิพ การเจอกับ อัลมา ในรูปแบบมวยไทย 3 ยกซึ่งมีเวลาเพียง 9 นาที เธอจึงไม่จำเป็นต้องผ่อนแรง และวางแผนที่จะเดินเครื่องแรงตั้งแต่ต้นจนจบ เพราะ 3 ยกนี้เธอจะงัดของดีออกมาโชว์ให้มากที่สุด
ชัยชนะและฟอร์มการแข่งขันสำคัญมากกับ เจเน็ต เพราะในฐานะผู้ท้าชิงอันดับ 2 ของแรงกิงมวยไทย อาจจะส่งให้เธอขยับเข้าใกล้โอกาสในการชิงแชมป์โลกมากขึ้น เพราะเป้าหมายสูงสุดของเธอคือการครองเข็มขัดสองประเภทกีฬา ทั้งคิกบ็อกซิ่งและมวยไทย ซึ่งหากเธอทำได้ เธอก็จะเป็นนักกีฬาหญิงคนที่สองของโลกที่ทำสำเร็จ
เจเน็ต โพสต์การซ้อมของเธอในไอจีส่วนตัว
อ่านเพิ่มเติม: