จบแล้วค่ะ ขุนศึกหมายเลข 3 “วิกตอเรีย ลี” จบ ม.ปลาย พร้อมเดินสายนักสู้ MMA เต็มตัว
ขุนศึกหมายเลข 3 แห่งตระกูล “ลี” “The Prodigy” วิกตอเรีย ลี ประสบความสำเร็จในวัน แชมเปียนชิพ อย่างถล่มทลาย ตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกเมื่อต้นปี 2564 และกำลังเดินตามรอยพี่สาวและพี่ชาย “แองเจลา ลี” ราชินีรุ่นอะตอมเวต และ “คริสเตียน ลี” อดีตราชันรุ่นไลต์เวต
สาวน้อยนักสู้ชาวสิงคโปร์ – อเมริกันวัย 18 ปี โชว์ฟอร์มแกร่งเกินวัยโดยสามารถเก็บแต้มชัยสามไฟต์รวด พุ่งพรวดขึ้นนั่งแท่นนักกีฬาดาวรุ่งแห่งปี 2564 และเป็นหนึ่งในตัวอันตรายที่ทุกคนในรุ่นอะตอมเวตหญิงต้องจับตามอง
วิกตอเรีย เทิร์นโปรครั้งแรกบนเวที ONE และประเดิมชัยแรกด้วยการแจกซับมิชชันนักสู้สาวลูกครึ่งไทย-ลาว “สุนิษา ศรีแสน” ที่มีประสบการณ์เหนือกว่าได้อย่างเฉียบขาด
หลายเดือนต่อมา วิกตอเรีย เผด็จศึกนักสู้สาวจากแดนมังกร “หวัง ลู ปิง” ด้วยท่าล็อกแขนรูปสามเหลี่ยม (ไทรแองเกิล อาร์มบาร์) จากนั้น “The Prodigy” ปิดท้ายปีด้วยการจารึกสถิติชนะน็อกครั้งแรกของเธอกับนักสู้สาวชาวบราซิล “วิกตอเรีย ซูซา“
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมา วิกตอเรีย จำต้องแบ่งเวลาให้กับทั้งการเรียนในระดับมัธยมปลายและการฝึกซ้อมเมื่อมีรายการ แต่เธอก็ทำหน้าที่ในสองบทบาทอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง
มาถึงตอนนี้ ถือเป็นข่าวดีที่ วิกตอเรีย จบการศึกษาระดับมัธยมปลายแล้ว ซึ่งทำให้เธอสามารถทุ่มเทให้กับการฝึกซ้อมและเป็นนักกีฬา MMA ระดับอาชีพอย่างเต็มตัว โดยเธอเปิดใจว่า
“ตอนที่หนูสู้ไปด้วยเรียนไปด้วย มันค่อนข้างยากที่จะจับปลาหลายมือในเวลาเดียวกัน ทั้งเรียน ทั้งฝึก รวมถึงทำการบ้าน
แต่ตอนนี้ มันดีมากค่ะที่มีเวลาฝึกอย่างเดียวตลอดทั้งวัน ตอนนี้หนูโฟกัสไปที่การฝึกฝนเต็มรูปแบบและสนุกกับมันมากขึ้นด้วยค่ะ”
จากนี้ไปเมื่อ วิกตอเรีย มีเวลาทุ่มเทให้ MMA อย่างเต็มตัว ก็อาจทำให้นักกีฬาคนอื่น ในรุ่นอะตอมเวตหญิงหนาว ๆ ร้อน ๆ อยู่เหมือนกัน เพราะขนาดอายุเท่านี้ ยังเก่งกาจเกินตัวและถ้าได้ฝึกเต็มที่ จะพัฒนาไปไกลขนาดไหน
โดยตอนนี้ วิกตอเรีย กำลังกลับมาฟิตซ้อมอย่างจริงจังและคาดว่าจะได้กลับคืนสังเวียนได้อีกครั้งภายในช่วงสิ้นปี 2565
แม้จะยังไม่มีคู่ต่อสู้รายต่อไปที่เล็งไว้ในใจ แต่ วิกตอเรีย มั่นใจว่าจากผลงานที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้ เธอสามารถเผชิญหน้ากับทุกคนในรุ่น แม้กระทั่งนักสู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นตัวท็อปของแรงกิง ONE รุ่นอะตอมเวต เธอก็ไม่เกี่ยง
“หนูเพิ่งเริ่มกลับมาซ้อมอีกครั้ง หนูอยากกลับไปขึ้นสังเวียนค่ะ อาจจะราว ๆ ปลายปีนี้ รับรองว่าหนูจะพร้อมเต็มที่ก่อนสิ้นปีนี้แน่นอน
หนูได้ชมการแข่งขันของนักกีฬาหลาย ๆ คนในรุ่นนี้ แต่หนูไม่เคยคิดที่จะเลือกคู่ต่อสู้ จะคนนี้หรือคนไหน ก็พร้อมสู้กับทุกคน ไม่เจาะจงว่าเป็นใคร หนูคิดว่าหนูฝึกฝนและเตรียมตัวมามากพอที่จะได้สู้กับคนใดคนหนึ่งที่อยู่ในท็อปไฟว์แรงกิงได้แล้วด้วยซ้ำ และน่าจะชนะพวกเขาได้ด้วยค่ะ”
อ่านเพิ่มเติม: