“น้องโอ๋” ว่าไง? เมื่อ “เสมาเพชร – ตะวันฉาย” แท็กทีมกระชากเข็มขัดแชมป์โลก
เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เป็นเดือนที่ปรากฏให้เห็นความแกร่งของนักมวยไทยในรุ่นแบนตัมเวตอีกครั้ง เมื่อดาวดังขวัญใจชาวไทย ยอดมวยซ้ายเจ้าของฉายา “ซ้ายดารา” ตะวันฉาย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม เปิดตัวไฟต์แรก ใน วัน แชมเปียนชิพ อย่างงดงามเมื่อ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา จากนั้นอีก 2 สัปดาห์ “ซ้ายฟ้าผ่า” เสมาเพชร แฟร์เท็กซ์ ซึ่งรั้งอันดับ 1 ของแรงกิง ก็โชว์ฟอร์มดับซ่าอันดับ 3 อย่าง “ซ้ายอุกกาบาต” กุหลาบดำ สจ.เปี๊ยกอุทัย ชนิดไม่สะเทือนเก้าอี้ พร้อมจ่อคิวรอขอโอกาสชิงแชมป์โลกกับรุ่นพี่เจ้าตำนาน “น้องโอ๋ ไก่ย่างห้าดาว” อีกรอบ
แน่นอนว่า “ซ้ายดารา” และ “ซ้ายฟ้าผ่า” ซึ่งต่างก็กำลังมาแรง จับมือกันหมายตาที่จะกระชากเข็มขัดแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต (61.3 – 65.8 กก.) ซึ่ง น้องโอ๋ ครอบครองอยู่ แม้ทั้งคู่จะเคารพนับถือ น้องโอ๋ เป็นไอดอล แต่เข็มขัดแชมป์โลกมีเจ้าของได้เพียงคนเดียวเท่านั้น วันนี้เราจึงพามาเปิดใจ น้องโอ๋ กันว่าเขาคิดและวางแผนอย่างไรกับเส้นทางสายแกร่งที่กำลังจะถูกน้อง ๆ ขยับขึ้นมาแทนที่
“ในรุ่นแบนตัมเวต มวยไทย ตอนนี้ก็มีผู้ท้าชิงอยู่หลายคนนะครับที่มีโอกาสจะขึ้นมาชิงแชมป์ได้ ถ้าเป็นคนไทยก็มีทั้ง เสมาเพชร, กุหลาบดำ, ตะวันฉาย ส่วนชาวต่างชาติในแรงกิงก็มี อลาเวอร์ดี และ โบโบ แต่ที่แฟนคลับเรียกร้องกันเข้ามาว่าอยากชมก็เห็นจะเป็น เลียม แฮร์ริสัน ซึ่งรายนี้ผมก็อยากจะชกกับเขาเหมือนกันนะครับ เพราะเอาจริง ๆ ผมชกกับนักมวยไทยมาค่อนชีวิตแล้ว ผมจึงอยากจะชกกับต่างชาติมากกว่า”
ที่ผ่านมา น้องโอ๋ กรำศึกใน วัน แชมเปียนชิพ มาทั้งสิ้น 7 ไฟต์โดยยังไม่เคยแพ้ใคร ซึ่ง 4 ไฟต์หลังเป็นการป้องกันเข็มขัดแชมป์โลกกับ ฮิโรอากิ ซูซูกิ จากญี่ปุ่น, บริซ เดลวัล จากแอลจีเรีย, เสมาเพชร และ รถเหล็ก พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม ตามลำดับ
“คู่แข่งที่ผ่านมาทั้งหมด ผมมองว่าไฟต์ที่ไปชกเวียดนามกับ เดลวัล เป็นงานหินที่สุดนะครับ มีอุปสรรคในเรื่องของดินฟ้าอากาศ ทั้งฝนตก กระทบถึงการวิ่ง การซ้อม การคุมน้ำหนัก อาหารการกิน หลายอย่างมันดูยากไปหมด แล้ว เดลวัล เป็นนักมวยที่ตัวสูงมาก และชกยาก จะเตะอะไรก็ยาก เพราะเราเตี้ยกว่าเขาเยอะครับ”
“สำหรับ เสมาเพชร ผมเคยเจอกับเขามาแล้วในไฟต์ป้องกันแชมป์โลก ตอนนั้นเขายังช้า แต่จากไฟต์ล่าสุดนี่น้องเขาพัฒนาขึ้นมาก ซึ่งตอนนี้เขาอยู่อันดับหนึ่งของแรงกิงอยู่แล้ว ถ้ามีโอกาสเราก็คงได้เจอกันครับ”
“ส่วน ตะวันฉาย น้องเขาอายุยังน้อย มีจุดเด่นคือรูปร่างสูงยาว มีเทคนิคการชกที่ดี เป็นมวยจังหวะฝีมือ มีทั้งอาวุธแข้งซ้าย หมัดซ้าย ศอกซ้าย และลูกเตะก้านคอที่เขาทำได้ดี ผมได้ดูน้องเขาชกไฟต์แรก ยอมรับว่าเขาชกได้ดีมาก ๆ ออกอาวุธเข้าเป้า ไม่ตื่นเต้นตกใจทั้ง ๆ ที่เป็นการชกครั้งแรก คุมสติได้ดี ถือว่าน้องเขาเก่งมาก ถ้าผมชกกับเขา ก็คงต้องเตรียมตัวให้มาก ซึ่งปกติผมก็เตรียมตัวดีทุกไฟต์นะครับ แต่น้องเขายังสด อายุน้อย คิดว่าแฟน ๆ คงอยากดูเพราะเก่งเจอเก่ง และมีเข็มขัดเป็นเดิมพันด้วย”
อย่างไรก็ตามสำหรับ น้องโอ๋ ในตอนนี้ก็อายุย่างเข้าสู่วัย 35 ปี ขณะที่ ตะวันฉาย และ เสมาเพชร อายุ 22 กับ 26 ปี ซึ่งถือว่าต่างกันมาก น้องโอ๋ จึงต้องดูแลสภาพร่างกายอย่างสม่ำเสมอ ทั้งเรื่องโภชนาการและการซ้อม
ทั้งนี้สิ่งที่ทำให้ น้องโอ๋ ประคองความเก่งอมตะมาได้ คือความมุมานะ มุ่งมั่น พยายาม โดยเฉพาะแรงจูงใจสำคัญคือครอบครัว เพราะเขามีคนที่อยู่ข้างหลังต้องดูแลทั้งพ่อแม่ ภรรยา และลูกชายหัวแก้วหัวแหวนสองคนที่จะต้องเติบโตขึ้นทุกวัน ทำให้ น้องโอ๋ ต้องใส่ความตั้งใจเข้าไปทวีคูณ เพื่อรักษาตำแหน่งแชมป์โลกให้ยาวนานที่สุด
อ่านเพิ่มเติม: