เจาะให้จบทั้ง 6 คู่ เพื่อดูศึก ONE: COLLISION COURSE II อย่างมีอรรถรส
วัน แชมเปียนชิพ เตรียมระเบิดศึกส่งท้ายปี 2563 ในชื่อ ONE: COLLISION COURSE II ซึ่งประกอบด้วยการแข่งขัน 6 คู่ ขึ้นชิงชัยกันในสนามสิงคโปร์ อินดอร์ สเตเดียม และเตรียมที่จะเผยแพร่เทปการแข่งขันในวันศุกร์ที่ 25 ธันวาคมนี้
และเพื่อให้แฟน ๆ วัน แชมเปียนชิพ เข้าถึงศึกนี้ได้อย่างรวดเร็ว ข่าวนี้ข่าวเดียวจะทำให้คุณรู้จักที่มาที่ไปของนักกีฬาทั้ง 12 ชีวิต เพื่ออรรถรสในการรับชมศึกนี้มากยิ่งขึ้น
จามาล & เซมี
คู่เอก “Kherow” จามาล ยูซูพอฟ นักชกม้ามืดชาวรัสเซีย ฉายแววโดดเด่นเหนือนักชกคนอื่นทันที หลังจากเปิดตัวอย่างช็อกโลกด้วยการน็อกเจ้าตำนานมวยไทย “The Boxing Computer” ยอดแสนไกล ไอเว แฟร์เท็กซ์ ได้เป็นคนแรกในรอบ 10 ปี ก่อนขึ้นรั้งอันดับ 2 ของแรงกิง ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต และได้คิวชิงแชมป์โลกกับ “เพชรมรกต เพชรยินดีอะคาเดมี” เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แต่เขาเกิดอาการบาดเจ็บจนต้องขอถอนตัวออกจากการแข่งขัน ทำให้ “พงษ์ศิริ พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม” คว้าโอกาสนั้นไปแทน
ศึกนี้ จามาล กลับมาขึ้นสังเวียน วัน แชมเปียนชิพ เป็นครั้งที่สอง เพื่อประลองฝีมือกับนักชกจากฝรั่งเศสหัวร้อน “AK47” เซมี ซานา ซึ่งปัจจุบันรั้งอยู่ในอันดับที่ 4 ของแรงกิง โดยก่อนที่ จามาล จะโค่น ยอดแสนไกล ได้ เซมี คนนี้เป็นคนที่ยัดเยียดความพ่ายแพ้ให้ ยอดแสนไกล ด้วยการคว้าชัยชนะไปด้วยคะแนนอย่างเป็นเอกฉันท์ ในรอบแรกของการแข่งขัน ONE คิกบ็อกซิ่ง เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รุ่นเฟเธอร์เวต เมื่อปีที่ผ่านมา ก่อนจะตกม้าตายในรอบสุดท้าย พ่ายให้กับตัวพ่ออย่าง “จอร์จิโอ เปโตรเซียน”
ศึกนี้จะเป็นการพิสูจน์ฝีมือของสองนักชก โดย เซมี มีเป้าหมายขึ้นรั้งอันดับ 2 แทน จามาล และเข้าใกล้โอกาสชิงแชมป์โลก ขณะที่ชัยชนะของ จามาล อาจส่งให้เขาได้ทวงคืนโอกาสประลองฝีมือกับ เพชรมรกต อีกครั้ง
ไครัต & แด ควอน คิม
คู่รอง อดีตแชมป์โลก ONE รุ่นฟลายเวต กติกาการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) “The Kazakh” ไครัต อักห์เมทอฟ ซึ่งปัจจุบันอยู่อันดับ 3 ของแรงกิง กำสถิติที่น่าเกรงขาม ชนะ 26 แพ้ 2 พร้อมพื้นฐานมวยปล้ำระดับเวิลด์คลาส ก้าวขึ้นสังเวียนเพื่อทวงโอกาสชิงแชมป์โลกอีกครั้ง
ขณะเดียวกัน “Ottogi” แด ควอน คิม อดีตผู้ท้าชิงบัลลังก์รุ่นแบนตัมเวต ลดรุ่นลงมาท้าทายในรุ่นที่เล็กกว่า ด้วยการพกพาศิลปะการต่อสู้หลากหลายแขนงที่เชี่ยวชาญ มาสร้างความอันตรายและน่าสะพรึงกลัวให้กับรุ่นนี้ พร้อมหวังที่จะก้าวขึ้นเป็นอันดับ 3 ของรุ่นแทน ไครัต ให้ได้
ใครก็ตามที่ชนะในศึกนี้อาจจะต้องไต่บันไดขึ้นไปอีกนิด ก่อนจะคว้าโอกาสชิงบัลลังก์แชมป์โลก เพราะในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า ศึกใหญ่ระหว่างเจ้าบัลลังก์ “Mikinko” อาเดรียโน โมราเอส ถูกวางตัวให้ป้องกันตำแหน่งแล้ว กับเจ้าตำนานชื่อดัง “Mighty Mouse” ดิมิเทรียส จอห์นสัน
โมโมทาโร & วอลเตอร์
แชมป์มวยไทย WPMF “วอลเตอร์ กอนซาลเวส” เจ้าของสถิติ ชนะ 65 แพ้ 6 เคยขึ้นท้าทายราชันย์มวยไทยของรุ่นฟลายเวต อย่าง “The Iron Man” รถถัง จิตรเมืองนนท์ มาแล้ว และทำให้ รถถัง ถึงกับตกที่นั่งลำบากกับการแข่งขัน 5 ยก ก่อนบทสรุปจะจบลงด้วยแชมป์โลกป้องกันตำแหน่งไว้ได้ด้วยชัยชนะอย่างไม่เป็นเอกฉันท์
ด้านนักชกคนเก่งจากแดนซามูไร “โมโมทาโร” โคเฮอิ โคเดระ แชมป์มวยไทย WBC เจ้าของสถิติปิดเกมเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์การแข่งขัน วัน ซูเปอร์ ซีรีส์ มวยไทย ด้วยการน็อกเจ้าตำนาน “สิงห์ทองน้อย ป.เตละกุล” ด้วยเวลาเพียง 41 วินาที
ในรุ่นฟลายเวตนี้ถือเป็นรุ่นพิมพ์นิยมที่มีนักชกฝีมือฉกาจอยู่มากมาย วอลเตอร์ และ โมโมทาโร จำต้องถีบตัวเองเพื่อเข้าไปอยู่ 1 ใน 5 ของแรงกิงให้ได้ เพื่อความก้าวหน้าบนเวทีระดับโลกของตัวเอง
อาเมียร์ & แด ซอง พาร์ค
“อาเมียร์ ข่าน” นักสู้เจ้าถิ่นชาวสิงคโปร์ กลืนน้ำตาเดินหน้าขึ้นสังเวียนด้วยหัวใจหนักอึ้ง หลังจากที่เพิ่งสูญเสียพ่อไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาด้วยโรคมะเร็งสมองระยะที่ 4 แทนที่จะถอนตัว อาเมียร์ ใช้สปิริตสูงสุดเพื่อโชว์ฝีมือส่งท้ายปี และเพื่อเป็นเกียรติแก่บิดาที่ล่วงลับ
หาก อาเมียร์ กำราบนักสู้ผู้ไม่เคยแพ้ใครใน วัน แชมเปียนชิพ อย่าง “แด ซอง พาร์ค” ได้ เขาจะกลายเป็นเจ้าของสถิติชนะมากที่สุดเป็นอันดับสองของรุ่นไลต์เวต ร่วมกับ “Tobikan” ชินยะ อาโอกิ แต่หากชัยชนะเกิดขึ้นในแบบน็อกเอาต์ อาเมียร์ ก็จะกลายเป็นนักสู้ที่สร้างสถิติปิดเกมไวสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของ วัน แชมเปียนชิพ แซงหน้าแชมป์โลกของรุ่นนี้อย่าง “The Warrior” คริสเตียน ลี
การไต่บันไดไม่ใช่งานง่ายของทั้งคู่ เพราะรุ่นไลต์เวตมีแต่นักสู้ตัวแข็งๆ แต่อย่างน้อยที่สุดชัยชนะครั้งนี้ ก็สามารถส่งให้ผู้ชนะมีโอกาสที่จะหย่อนขาข้างหนึ่งเข้าไปอยู่ในแรงกิงได้
ไรมอนด์ & เอ็ดสัน
“ไรมอนด์ มาโกเมดาลิเอฟ” ที่เพิ่งโชว์ฟอร์มงดงามจากการซับมิชชัน “Mama’s Boy” โจอี ปิเอรอตติ ด้วยการใช้ท่า Guillotine choke เผด็จศึกคู่แข่งได้ตั้งแต่ยกแรกเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา
ศุกร์นี้เขาอาจต้องเจองานหนักเมื่อต้องเผชิญหน้านักสู้ไร้พ่ายหน้าใหม่ที่มาเปิดตัวครั้งแรกใน วัน แชมเปียนชิพ “Panico” เอ็ดสัน มาร์เควส ซึ่งกำสถิติชนะรวด 9 ไฟต์ โดยเป็นการน็อกคู่แข่ง 6 รายล่าสุดราบเป็นหน้ากลอง
เป็นไปได้สูงว่าผู้ชนะจากศึกนี้อาจมีโอกาสก้าวขึ้นเป็นผู้ท้าชิงบัลลังก์ของรุ่นเวลเตอร์เวต ซึ่งมี “เคียมเรียน อับบาซอฟ” นั่งรอผู้ท้าชิงคนต่อไปอยู่
เซนโซ & เหลียง
หลายท่านอาจคุ้นหน้าคุ้นตา “เซนโซ อิเคดะ” แชมป์ศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสานชาวญี่ปุ่นมาบ้างแล้ว เขาหายหน้าไปช่วงหนึ่งด้วยอาการบาดเจ็บในราวเดือนตุลาคม 2561 ก่อนจะมาเปิดตัวใน วัน แชมเปียนชิพ ในอีก 5 เดือนต่อมา โดยเจอกับนักสู้สายแข็งของรุ่นสตรอว์เวตอย่าง “แดนนี คิงกาด” และ “ลิโต อาดิวัง”
เซนโซ พยายามที่จะลงหลักปักฐานในรุ่นนี้ให้สำเร็จ แต่ก็มีนักสู้หน้าใหม่ๆ ตบเท้าเข้ามาขวางทางอยู่เรื่อยๆ หนึ่งในนั้นคือ “The Little Monster” เหลียง เหวย แชมป์ศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสานจากจีน ที่กำลังมาเปิดตัวครั้งแรกโดยกำสถิติชนะ 19 ครั้งและพื้นฐานการปล้ำจับล็อกที่น่าเกรงขามติดตัว
แม้ทั้งคู่จะยังไม่เข้าใกล้อันดับในแรงกิง แต่ฟอร์มการต่อสู้ที่น่าประทับใจจะทำให้ชีวิตของพวกเขาเปลี่ยนไปตลอดกาล ด้วยการประกาศชื่อให้ทั่วโลกจดจำก่อนที่จะก้าวข้ามสู่ปี 2564
อ่านเพิ่มเติม: