เจาะให้ครบทั้ง 6 คู่ เพื่อดูศึก ONE: BATTLEGROUD อย่างมีอรรถรส
ก่อนศึก ONE: BATTLEGROUND จะระเบิดความมัน ด้วยการยิงสัญญาณถ่ายทอดสดจาก สิงคโปร์ อินดอร์ สเตเดียม ในวันศุกร์ที่ 30 ก.ค.นี้ เราจะพาแฟน ๆ ไปเจาะลึกเหล่านักกีฬาทั้ง 6 คู่ 12 ชีวิตให้คุณรู้ที่มาที่ไปการชิงชัยครั้งนี้ของพวกเขาได้ในข่าวเดียว!
สามเอ & พระจันทร์ฉาย
ศึกสายเลือดครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างสองนักมวยไทยฝีมือพระกาฬต่างยุค “สามเอ ไก่ย่างห้าดาว” ยอดมวยระดับตำนานและราชาสองบัลลังก์ รุ่นสตรอว์เวต ปะทะดาวรุ่งพุ่งแรงที่หาตัวจับยาก “พระจันทร์ฉาย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม” โดยมีตำแหน่งแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นสตรอว์เวต (52.3-56.7 กก.) เป็นเดิมพัน
สามเอ ผู้ครองความเป็นยอดฝีมือทั้งในระดับประเทศและเวทีโลกมาเกือบ 3 ทศวรรษ กำลังถูกน้องใหม่ป้ายแดงที่มาแรงแซงทุกคนในแรงกิงขอเป็นผู้ท้าชิงในไฟต์เปิดตัว ศึกใหญ่ครั้งนี้จึงเป็นการประกาศศักดาแชมป์โลก และพิสูจน์ให้เห็นว่าตำนานของเขาจะยังดำเนินต่อไป
ส่วน พระจันทร์ฉาย ที่เพิ่งเข้ามาใหม่ก็กระหายความสำเร็จถึงขีดสุด เพราะเวทีนี้คือความใฝ่ฝันที่รอคอยมานาน โดยเขาเชื่อมั่นว่าจะใช้ความสดและความไวคว้าชัยโค่นเจ้าบัลลังก์ สร้างตำนานบทใหม่ให้ตนเอง
ออง ลา & ลีอันโดร
ฮีโรชาวเมียนมา “The Burmese Python” ออง ลา เอ็น ซาง หวังกลับมากู้ศรัทธาและคว้าชัยเพื่อไต่อันดับกลับสู่บัลลังก์ รุ่นมิดเดิลเวต (84.0 – 93.0 กก.) ที่เคยครอบครอง โดยต้องเผชิญหน้ากับ “Wolf” ลีอันโดร อาตาอิส นักสู้จอมแกร่งจากแดนแซมบ้า หนึ่งในนักสู้สุดอันตรายของรุ่น
หลังจากเสียเข็มขัดทั้งสองเส้นให้กับ “อัศวินดัตช์” ไรเนียร์ เดอ ริดเดอร์ อดีตแชมป์โลก ONE สองรุ่น ออง ลา พร้อมทุ่มหมดหน้าตักเพื่อรักษาตำแหน่งผู้ท้าชิงอันดับหนึ่งในแรงกิง ONE รุ่นมิดเดิลเวต โดยศึกนี้จะชี้ชะตาว่าเขาจะรุ่งหรือร่วงบนหนทางกลับคืนสู่บัลลังก์แชมป์โลก
ขณะที่ ลีอันโดร หวังจะคว้าชัยครั้งนี้เพื่อส่งให้เขาได้รับโอกาสท้าชิงแชมป์โลกอีกครั้ง หลังเคยได้รับสิทธิ์นี้เมื่อ 7 ปีก่อนแต่ทำไม่สำเร็จ อีกทั้งชัยชนะครั้งนี้เปรียบเสมือนการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว คือ ได้ชิงแชมป์โลก และล้างตากับคู่ปรับเก่าอย่าง ไรเนียร์ นั่นเอง
เรียวโตะ & กุสตาโว
การปะทะเดือดระหว่างสายบู๊รุ่นเล็ก “Dragon Boy” เรียวโตะ ซาวาดะ นักสู้จอมดีเดือดจากแดนซามูไร และ “El Gladiador” กุสตาโว บาลาร์ต นักสู้ไซส์มินิชาวคิวบา ผู้มีหัวใจใหญ่กว่าตับ เพื่อโชว์ผลงานให้เข้าตากรรมการ และไต่อันดับขึ้นเป็นนักสู้แถวหน้าของรุ่นสตรอว์เวต (52.3-56.7 กก.)
ด้าน เรียวโตะ แม้ขึ้นชื่อว่าเป็นดาวรุ่งจอมบู๊ที่โดดเด่นบนเส้นทางอาชีพ แต่บนเวที ONE เขายังไม่สามารถไต่ขึ้นไปติด 1 ใน 5 ตัวท็อปของแรงกิงรุ่นนี้ได้ ขณะที่อดีตนักมวยปล้ำโอลิมปิก กุสตาโว ซึ่งก่อนหน้านี้ชกในรุ่นฟลายเวต (56.8 – 61.2 กก.) ยังไม่สามารถตีไข่แตกจากศึก 3 ครั้ง ที่ผ่านมา จึงตัดสินใจลงมาชกในรุ่นเล็กเพื่อหวังทำผลงานที่ดีกว่า คงต้องดูกันว่าทั้งคู่จะโชว์ฝีมือในครั้งนี้ดีแค่ไหน
ริตู & หลิน
นักมวยปล้ำสาวขวัญใจแดนโรตี “The Indian Tigress” ริตู โฟกาต หลังจากลิ้มรสความพ่ายแพ้ครั้งแรกให้แก่ “บิ เหงียน” ในไฟต์ล่าสุด จนหลุดโผจากการแข่งขัน ONE เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รุ่นอะตอมเวตหญิง (47.7 – 52.2 กก.) ก็ขอโอกาสคืนสังเวียนอีกครั้งเพื่อทวงคืนสิทธิ์ในการลงแข่งขันครั้งยิ่งใหญ่นี้ และทางเดียวที่เธอทำได้คือต้องชนะเท่านั้น
ส่วนนักสู้สาวแดนมังกร “MMA Sister” หลิน เฮอจิน ผู้ครองสถิติชนะต่อเนื่องถึง 11 ไฟต์ที่ผ่านมา ต้องการพิสูจน์ตัวเองว่าเธอสมควรได้รับเลือกเช่นกัน และหากเธอเอาชนะ ริตู โอกาสในการเป็น 1 ใน 8 ผู้เข้าแข่งขัน เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ อาจตกอยู่ในมือเธอก็เป็นได้
เฉิน & เจเรมี
ศึกเดือดทะลุสังเวียน รุ่นแบนตัมเวต (61.3-65.8 กก.) “The Ghost” เฉิน เร่ย นักสู้แดนมังกรผู้เคยโชว์ความถึกรับหมัดของ “Pretty Boy” ควอน วอน อิน ในไฟต์ก่อนหน้านี้เมื่อต้นปี จนคว้าศึกยอดเยี่ยมแห่งปี 2564 ไปครอง กลับมาอีกครั้งเพื่อเก็บแต้มชัยชนะ หวังสลักชื่อตนเองในแรงกิง ONE รุ่นแบนตัมเวต โดยต้องเจอกับ “The Juggernaut” เจเรเมี ปาคาทิว นักรบคนล่าสุดจากค่ายกางเกงแดง ทีมลาไคย์ ที่พร้อมเปิดตัวให้ปังบนเวทีโลกโดยเป็นความหวังใหม่ของทีมในการคว้าแชมป์โลก ONE รุ่นแบนตัมเวต
วิกตอเรีย & หวัง
คู่เปิดรายการเป็นการเผชิญหน้าของนักสู้ดาวรุ่งอายุน้อยที่สุดขององค์กร “The Prodigy” วิกตอเรีย ลี วัย 17 ปี ที่หวังสานต่อชัยชนะเป็นครั้งที่สองหลังเปิดตัวอย่างงดงามด้วยการเอาชนะ “Thunderstorm” สุนิษา ศรีแสน เมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา รวมทั้งพิสูจน์ว่าเธอคือนักสู้มืออาชีพสมเป็นขุนศึกตระกูลลีหมายเลข 3 ที่พร้อมเจริญรอยตามความสำเร็จของพี่ ๆ ร่วมสายเลือด
ส่วน “Little Sprouts” หวัง ลู ปิง ถือเป็นนักสู้เจนสนามที่กำสถิติชนะ 3 ครั้งต่อเนื่อง โดยเธอหวังใช้ความเก๋าสอนมวยรุ่นน้องอย่าง วิกตอเรีย เพื่อแจ้งเกิดบนเวทีระดับโลก
อ่านเพิ่มเติม: