มองทะลุ “ยูริก ดาฟเทียน” ตัวอันตรายที่ “โจ ณัฐวุฒิ” จะประมาทไม่ได้
“หมีขาวจอมโหด” ยูริก ดาฟเทียน ชาวอาร์เมเนีย-รัสเซีย วัย 28 ปี เป็นนักชกต่างชาติที่ถือว่ามีฝีไม้ลายมือจัดจ้านและเจนสนามคนหนึ่งในทัพนักกีฬาชุด วัน ซูเปอร์ ซีรีส์ โดยเปิดตัวครั้งแรกอย่างงดงามด้วยการน็อก “บางพลีน้อย เพชรยินดีอะคาเดมี” ในกติกามวยไทยเมื่อเดือนกันยายน 2563
ยูริก กำลังจะกลับมาอีกครั้งในสังเวียนคิกบ็อกซิ่งเพื่อเจอกับ “สโมกกิน โจ” ณัฐวุฒิ โดยเป็นการชิงตำแหน่งนักกีฬาสำรองสำหรับการแข่งขัน คิกบ็อกซิ่ง เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รุ่นเฟเธอร์เวต ปี 2564 ที่จะมีขึ้นในศึก ONE: NEXTGEN II ซึ่งจะออกอากาศเทปการแข่งขันในวันศุกร์ที่ 12 พฤศจิกายนนี้
ก่อนที่เขาจะลงดวลเดือดกับนักชกสายโหดชาวไทย เราจะพาไปทำความรู้จักเจ้าของฉายา “หมีขาวจอมโหด” ให้ดียิ่งขึ้น
ผ่านตัวท็อปของไทยมาแล้ว
ก่อนเข้าร่วมเป็นนักกีฬา ONE ยูริก เคยลงแข่งขันในรายการไทยไฟต์ และ พัทยา แมกซ์มวยไทย อยู่หลายปี และเคยประมือกับนักมวยแถวหน้าของไทยมาแล้วไม่ต่ำกว่าสิบครั้งในประเทศไทย โดยได้รับการยอมรับว่าเป็นนักมวยไทยชาวต่างชาติที่มีฝีมือและเป็นนักชกเก๋าเกมที่เอาชนะยากคนหนึ่งเลยทีเดียว
ยูริก พิสูจน์ฝีมือให้แฟนกีฬา ONE ได้เห็นอย่างชัดเจนเมื่อเขาสามารถยัดเยียดความปราชัยแรกให้กับนักมวยดาวรุ่ง “บางพลีน้อย เพชรยินดีอะคาเดมี” ผู้ครองสถิติ 2 ไฟต์ไร้พ่ายในขณะนั้น โดย ยูริก ทำให้คนดูช็อกกันทั้งแถบเมื่อเขาใช้หมัดซัดน็อกนักชกไทยลงไปกองในยกที่สอง ประเดิมชัยแรกบนเวที ONE ได้อย่างงดงาม
ครั้งนี้ ยูริก จึงมุ่งมั่นเต็มที่ในการสานต่อชัยชนะเป็นครั้งที่สองบนเวทีระดับโลก และยังมีโอกาสได้ลุ้นสิทธิ์ลงแข่งในศึกคิกบ็อกซิ่ง เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ หากนักกีฬาตัวจริงมีเหตุที่ไม่สามารถลงแข่งได้อีกด้วย
มวยรองจอมหักปากกาเซียน
ปฏิเสธไม่ได้ว่านักชกต่างชาติที่มีประสบการณ์การชกมวยไทยน้อยกว่าจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบนักมวยไทยเจ้าตำรับที่ฝึกมวยกันมาตั้งแต่เด็กและผ่านการชกมาเป็นร้อยไฟต์ ยูริก เองที่เข้ามาชกมวยไทยก็มักถูกมองเป็นมวยรองทุกครั้งไป เช่นเดียวกับครั้งนี้เมื่อเขาต้องเผชิญหน้ากับนักชกสายโหดอย่าง โจ ณัฐวุฒิ
ยูริก ผ่านการชกทั้งมวยไทยและคิกบ็อกซิ่งรวม 55 ไฟต์ ชนะ 40 และแพ้ 15 ครั้ง ขณะที่ โจ กรำศึกมาแล้ว 80 ไฟต์ ชนะ 70 แพ้ 8 หากเทียบการผ่านมวย ยูริก ย่อมเป็นรองอย่างเห็นได้ชัด
แต่อย่าลืมว่า ยูริก ก็มีดีกรีไม่ธรรมดาเพราะเขาเป็นเจ้าของตำแหน่งแชมป์ยุโรป 3 สมัย ทั้งยังคุ้นเคยการชกกับนักมวยไทยมากหน้าหลายหลายตา ที่สำคัญ เขาเคยหักปากกาเซียนมาแล้วในครั้งที่น็อก บางพลีน้อย ที่ได้เปรียบทั้งชื่อ ชั้น และกระดูกมวย ดังนั้น ครั้งนี้ ยูริก จึงไม่ควรถูกด้อยค่าด้วยตัวเลขทางสถิติเพียงอย่างเดียว เพราะบนเวทีอะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น
หัวใจนักสู้สมฉายา “หมีขาวจอมโหด”
ฉายา “หมีขาวจอมโหด” ไม่ใช่ได้มาเพราะโชคช่วย เช่นเดียวกับนักสู้ชาวรัสเซียหลาย ๆ คน ที่ขึ้นเรื่องความอึด ถึก ทน ยูริก เองก็ขึ้นชื่อว่าเป็นนักสู้สุดแกร่งที่เปี่ยมด้วยจิตวิญญาณนักสู้
ตลอดเส้นทางอาชีพ ยูริก เป็นที่รู้จักในฐานะนักสู้บู๊แหลก แจกอาวุธไม่ยั้ง ในขณะเดียวกัน เขารับการโจมตีได้เก่งพอ ๆ กันโดยเป็นที่เล่าลือว่าเขามีคางอันแข็งแกร่งที่สามารถรับหมัดอย่างไม่สะดุ้งสะเทือน ซึ่งอาจเป็นประโยชน์สำหรับเขาที่จะใช้รับมือกับหมัดอันทรงพลังของ โจ ณัฐวุฒิ ในไฟต์นี้
คงต้องรอลุ้นกันว่า หัวใจเต็มร้อยที่ ยูริก พกมาขึ้นสังเวียนด้วยจะทำให้เขาชิงเก้าอี้ตัวสำรองของการแข่งขันคิกบ็อกซิ่ง กรังด์ปรีซ์ ครั้งนี้ได้หรือไม่ แต่หากเขาเอาชนะนักชกคิกบ็อกซิ่งแถวหน้าอย่าง โจ ได้ อย่างน้อยสปอต์ไลต์ทุกดวงก็ต้องสาดส่องมาที่เขาแน่นอน
ติดตามการปะทะกันระหว่าง “ยูริก-โจ” ศึก ONE: NEXTGEN II ออกอากาศเทปการแข่งขัน ศุกร์ที่ 12 พ.ย. เวลา 19.30 น. รับชมทาง
- แอปมือถือ ONE Super App
- ยูทูบ ONE Championship
- AIS Play (เฉพาะลูกค้า AIS)
- ไทยรัฐทีวี ช่อง 32 เวลา 22.40 น.
อ่านเพิ่มเติม: