ผ่าชีวิตต้องสู้ “หยู เหยา ปุย” สาวแกร่งใจเกินร้อยที่สร้างชื่อใน ONE ลุมพินี
“หยู เหยา ปุย” เสียทั้งหยาดเหงื่อและน้ำตากว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นนักสู้หญิงแถวหน้า ขอบู๊ล้างผลาญคว่ำ “เซเลสต์” สร้างสถิติเก็บชัย 4 ไฟต์ติดต่อกันในศึก ONE ลุมพินี
“หยู เหยา ปุย” สาวบู๊เดือดวัย 30 ปี จากเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากมายกว่าจะได้เป็นนักสู้หญิงขวัญใจมหาชน พร้อมเดินหน้าล่าชัยชนะต่อเนื่องเป็นไฟต์ที่ 4 ติดต่อกันเจอกับ “เซเลสต์ ฮันเซน” หญิงแกร่งวัย 29 ปี จากออสเตรเลีย ดีกรีแชมป์ Road To ONE ในกติกามวยไทย รุ่นอะตอมเวต (105 – 115 ป.) ของศึก ONE ลุมพินี 29 ในวันศุกร์ที่ 18 ส.ค.นี้
ในวัยเด็ก “หยู” ต้องแบกรับความกดดันจากพ่อแม่และสังคมที่แปะป้ายความสำเร็จว่าต้องเรียนจบและหาเงินให้ได้เยอะเท่านั้น ตอนอยู่ชั้นมัธยม เธอรู้สึกท้อแท้กับชีวิตถึงขั้นลาออกจากโรงเรียน ก่อนเริ่มลองเรียนมวยไทยครั้งแรกเพราะอยากเล่นเอาไว้รักษาหุ่นให้ดี แต่ยิ่งได้ลองลงนวมยิ่งหลงรัก จึงหันมาเริ่มฝึกและแข่งขันอย่างจริงจัง พร้อมตั้งเป้าพิสูจน์ตัวให้ครอบครัวเห็นว่าเป็นนักกีฬามวยไทยก็ประสบความสำเร็จได้
โดยกว่าจะสร้างชื่อขึ้นมาได้อย่างในทุกวันนี้ “หยู” ต้องต่อสู้อย่างหนักทั้งในและนอกสังเวียน โดยเฉพาะที่ฮ่องกง นักกีฬาไม่ได้รับการสนับสนุนมากนัก เธอจึงต้องคอยรักษาสมดุลระหว่างชีวิตส่วนตัวและชีวิตนักกีฬา เพราะอาชีพนักสู้หาเงินได้ไม่มาก ดังนั้น ถ้าอยากเดินหน้าลุยชกมวยต่อไปต้องหาลู่ทางเลี้ยงตัวเอง หรือดูแลครอบครัวให้ได้ด้วย ซึ่งถือเป็นงานค่อนข้างยากสำหรับเธอที่จะประคับประคองให้มาถึงทุกวันนี้
จุดเริ่มต้นอยากชกมวยไทยของ “หยู” อาจเกิดจากเรื่องอยากรักสวยรักงาม แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไปเธอก็หลงรักศิลปะการต่อสู้นี้อย่างเข้าเส้น ยอมลงทุนฝึกซ้อมอย่างหนัก ก่อนได้ก้าวขึ้นมาเป็นดาวเด่นของศึก ONE ลุมพินี ด้วยผลงานร้อนแรงไม่แพ้ใคร 3 ไฟต์ติดต่อกัน
“เป็นเรื่องปกติของฮ่องกงที่ผู้หญิงจะเรียนมวยไทยเพื่อรักษาหุ่นของตัวเองให้ดี ซึ่งตอนที่ฉันเริ่มอาชีพนักกีฬาต่อสู้ ยังไม่ค่อยมีใครอยากหันมาเป็นนักสู้เต็มตัวมากนัก แต่หลังจากนั้นยิ่งเวลาผ่านไป สภาพแวดล้อมก็เปลี่ยน อะไร ๆ ก็เปลี่ยนและนักสู้หญิงก็เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้น ซึ่งฉันต้องทุ่มเทฝึกซ้อมอย่างหนัก เสียทั้งหยาดเหงื่อและน้ำตากว่าจะมีวันนี้ได้”
ภาพจำของ “หยู” ยามเมื่ออยู่บนสังเวียนผ้าใบคือนักสู้สาวสายบู๊ดุดันไม่ยอมถอดใจง่าย ๆ ซึ่งคู่ควรกับการได้โบนัส 3.5 แสนบาทจากสองไฟต์แรกที่คว่ำน็อกยกสอง “เดอะสตาร์ ศิษย์ ช.” และอัดน็อกยกสาม “เดวีนา มาร์ติน” ส่วนล่าสุดในศึก ONE ลุมพินี 23 ยังเอาชนะคะแนน “มารี รูเมต” ได้อีก แม้จะไม่ใช่ฟอร์มที่ดีตามที่เจ้าตัวหวังไว้ก็ตาม
“ฉันไม่โอเคกับผลงานของตัวเองในเกมล่าสุดที่เจอกับ มารี ที่จริงแล้วฉันค่อนข้างผิดหวังด้วย เพราะมัวแต่ไปโฟกัสกับพลังการออกหมัดมากเกินไป และใช้อาวุธอื่นน้อยไปหน่อย แทบไม่ได้ออกอาวุธอย่างอื่นในไฟต์นั้นเลย ซึ่งทำให้ฉันยังรู้สึกผิดหวังในตัวเองค่ะ”
“สำหรับไฟต์นี้ ฉันรู้มาว่า เซเลสต์ มีสไตล์การชกคล้าย ๆ กับฉัน เธอไม่เคยหยุดเดินลุย เธอเอาแต่เดินเข้าหาและกดดันคู่ชกอย่างหนักตลอดเกม มันจึงค่อนข้างท้าทายสำหรับฉันและฉันคิดว่ามันน่าสนใจดีว่าจะหาวิธีรับมือกับความกดดันอย่างหนักนั้นได้ยังไง”
การได้โคจรมาเจอกับ “เซเลสต์” อย่างถูกที่ถูกเวลา เรียกเสียงฮือฮาจากแฟนมวยได้ไม่น้อย ซึ่งก่อนเกม “หยู” ได้ออกปากชมคู่ชกด้วยว่าแกร่งทั้งร่างกายและจิตใจ งานนี้ขอทำหน้าที่ให้ออกมาดีที่สุดเหมือนในทุกครั้ง แฟนมวยจะได้ชมเกมแบบสุดมันบนเวทีแน่นอน
“ฉันคิดว่า เซเลสต์ แข็งแกร่งมากจริง ๆ ไม่ใช่แค่ฝีมือหรือแรงเยอะ แต่เธอยังมีความแข็งแกร่งจากภายในด้วยค่ะ เธอมีจิตใจเด็ดเดี่ยว ฉันคิดว่านี่แหละคือจุดแข็งของเธอ เป็นสิ่งที่ทรงพลังที่สุดของเธอ และสำหรับฉัน ไม่มีแผนชกที่ต้องทำตาม ฉันแค่ทำให้ดีที่สุดทุกครั้ง เพราะทุกอย่างเกิดขึ้นได้บนเวที และในฐานะที่เป็นมวยบู๊เหมือนกัน ไฟต์นี้จะเป็นสงครามแบบบู๊ล้างผลาญแน่นอนค่ะ”
สำหรับศึก ONE ลุมพินี 29 วันศุกร์ที่ 18 ส.ค.นี้ แฟนกีฬาชาวไทยสามารถจองบัตรเข้าชมในสนามผ่านทาง THAI TICKET MAJOR คู่แรกเริ่มเวลา 19.30 น. รับชมทาง
- ช่อง 7HD กด 35 (ภาษาไทย) เริ่ม 20.30 น.
- Facebook ทุกคู่ (บางประเทศ)
- YouTube ONE ทุกคู่ (บางประเทศ)
- Watch.ONEFC.com ทุกคู่ (บางประเทศ)