จากใจ มิชา เทต: การรีแมตช์ระหว่าง “ซง จิง หนาน” กับ “แองเจลา ลี” ใน ONE: CENTURY
มันเป็นเรื่องง่ายมากถ้าจะให้เลือกการแข่งขันการต่อสู้ประเภทหญิงที่น่าสนใจที่สุดแห่งปี
การพบกันระหว่าง “Unstoppable” แองเจลา ลี กับ “The Panda” ซง จิง หนาน ในศึก ONE: A NEW ERA ในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น นั่นคือคำตอบ
ถ้าหากการต่อสู้ครั้งแรกของพวกเธอไม่น่าตื่นเต้นเท่าไหร่นัก ฉันคงจะไม่อดใจรอนัดล้างตาครั้งที่สอง ซึ่งกำลังจะเกิดขึ้นในศึก ONE: CENTURY PART I ในสถานที่เดียวกันอีกครั้ง
ลี ขยับรุ่นน้ำหนักขึ้นมา เพื่อท้าชิงตำแหน่งแชมป์โลก ONE รุ่นสตรอว์เวตหญิง กับ ซง เมื่อเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา แม้เธอจะเป็นฝ่ายแพ้ในครั้งนั้น แต่เธอได้แสดงให้เห็นถึงหัวจิตหัวใจที่กล้าหาญตลอดแข่งขันทั้งห้ายก อีกทั้งยังแสดงให้เห็นว่าเธอมีความสามารถมากมาย ซึ่งฉันเชื่อว่าการต่อสู้ที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้จะส่งผลดีต่อเจ้าของแชมป์โลก ONE รุ่นอะตอมเวตหญิงอย่าง ลี ด้วยเช่นเดียวกัน
ฉันสัมผัสได้ว่า ลี รู้สึกร้อนรุ่มอยู่ภายใน มันเป็นโอกาสที่เธอจะได้กู้ชื่อเสียงกลับคืนมาในรุ่นของตัวเอง ซึ่งเธอยังคงสถิติไร้พ่ายอย่างไร้ที่ติ
ขณะเดียวกัน ซง ระลึกอยู่เสมอว่า เธอยังมีบางสิ่งที่ต้องพิสูจน์ ซึ่งมันเป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อ ทั้งที่เธอคือหนึ่งในนักสู้ที่ดีที่สุดในโลกแล้ว
ซง เป็นหนึ่งในผู้มีอิทธิพลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในกีฬาศิลปะการต่อสู้ของจีน แม้ว่าการเป็นแชมป์โลกจะทำให้เธอไร้เทียมทาน แต่ฉันกลับชื่นชอบที่จะได้เห็นแรงผลักดันหรือความมุ่งมั่นของคนที่ประสบความสำเร็จในอาชีพแล้ว
ผู้คนส่วนใหญ่นั้นเลือกที่จะอยู่ในคอมฟอร์ทโซน หรือในรุ่นน้ำหนักของตัวเอง แต่ไม่ใช่กับ ซง เพราะเธอต้องการที่พิสูจน์ว่าเธอเป็นนักกีฬาที่ขึ้นได้ ความสามารถของเธอมีความยืดหยุ่น ปรับเปลี่ยน และแข่งขันกับนักสู้ที่เก่งที่สุดที่เคยเจอมา
ซง ไม่ได้ทำการแข่งขันเลยนับตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา ในขณะที่ ลี เผชิญหน้ากับคู่แข่งขันในรุ่นสตรอว์เวตเพื่อทดสอบตัวเองกับ “มิเชลล์ นิโคลินี” ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อเดือนกรกฎาคม
เป็นอีกครั้งที่มันไม่ใช่ผลลัพธ์ที่เธอคาดหวังเมื่อต้องดวลฝีมือกับแชมป์โลก บราซิลเลียน ยิวยิตสู แปดสมัย แต่ฉันมั่นใจว่า มันจะเป็นแรงขับเคลื่อนครั้งใหม่ หลังจากที่ ลี กลับสู่รุ่นน้ำหนักของตัวเองที่ซึ่งเธอยังคงไร้เทียมทาน
ลี ได้บทเรียนหลายอย่างจากการเผชิญหน้า นิโคลินี และถือเป็นงานหินสำหรับเธอกับการที่ต้องพยายามแก้เกมปล้ำรัดเป็นครั้งแรกบนเส้นทางอาชีพ นั่นเป็นสิ่งที่ฉันสามารถบอกได้อย่างตรงไปตรงมา ซึ่งครั้งนั้น นิโคลินี เดินเกมได้อย่างดีเยี่ยม
โชคดีที่ฉันมีโอกาสแข่งขันกับทั้งคู่ ก่อนที่จะเข้ามาอยู่กับ วัน แชมเปียนชิพ เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา สิ่งที่ฉันสามารถสรุปได้ก็คือพวกเธอมีสไตล์ปล้ำจับล็อกที่แตกต่างกัน ซึ่งต่างก็เป็นเทคนิคที่มีประสิทธิภาพมาก
ฉันรู้สึกประทับใจกับกลยุทธ์ของ นิโคลินี ในการหลบหลีกการโจมตีบนพื้น แต่สไตล์แบบนั้นค่อนข้างท้าทายสำหรับ ลี อย่างไรก็ตามฉันมั่นใจว่า ลี ได้รู้แล้วว่าสิ่งไหนที่เป็นข้อบกพร่องของตัวเอง
เธอมีครอบครัวที่ช่วยสนับสนุนเรื่องการฝึกฝนให้ พวกเขาคลุกคลีอยู่กับวงการนี้มานาน และฉันมั่นใจว่าพวกเขาได้ศึกษาสิ่งที่เกิดขึ้นในการแข่งขัน และชำแหละมันออกมาพิจารณา ลี จะได้เรียนรู้เป็นกรณีศึกษา และเชื่อฉันเถอะว่านี่จะเป็นหนึ่งในการพัฒนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเธอ
ฉันคิดว่า ลี ยังไม่เคยเห็นผังการเติบโตของตัวเองเพราะเธอไม่จำเป็นต้องทำมันก่อนหน้านี้ ฉันสามารถเล่าเรื่องของตัวเองได้ในตอนที่เจอกับ รอนดา รูเซย์ ในอดีตฉันผ่านเส้นทางการต่อสู้ได้สบาย แต่กับ รูเซย์ ฉันต้องเปลี่ยนสไตล์อย่างสิ้นเชิง และฉันคิดว่าสถานการณ์นั้นเหมือนกับ ลี ในตอนนี้
ฉันมั่นใจว่าเธอจะเติบโตขึ้นจากการเจอกับ นิโคลินี มากกว่าที่จะเจอกับ ซง จิง หนาน เธอไม่ได้ทำอะไรผิดเลยในการต่อสู้คราวนั้น และมีหลายครั้งที่เธอทำให้ ซง เจอกับปัญหา เธอมีท่าซับมิชชันที่เหนียวแน่นสุดๆ และทุกคนคิดว่าการต่อสู้กำลังจะจบลง
สิ่งนั้นทำให้ฉันมาสู่ส่วนสุดท้ายของงานในสัปดาห์นี้ คือเรื่องความอึดและความกล้าหาญของ ซง
ซง มีความอึดทนโดยเนื้อแท้ เธอแข็งแกร่งเหมือนเหล็กกล้า มีความมุ่งมั่นและเป็นแบบอย่างในสิ่งที่แชมป์โลกควรจะเป็น
การเข้าสู่ยกสุดท้ายของการต่อสู้กับ ลี หลังจากที่เกือบจะต้องยอมแพ้ แสดงให้เห็นถึงภาวะจิตใจอันเข้มแข็งด้วยศักดิ์ศรีแชมป์โลกที่ค้ำคออยู่ซึ่งมากกว่าครั้งไหนๆ ที่ผ่านมา เธอใช้พลังเฮือกสุดท้ายเข้าต่อกรกับ ลี ก่อนที่จะได้จุดพลุฉลองชัยอย่างเหลือเชื่อ หัวจิตหัวใจที่แข็งแกร่งนำเธอไปสู่การเป็นแชมป์โลกที่สุดยอดมาก
ฉันไม่รู้ว่าเธอเหลือแรงที่จะน็อกเอาต์ในยกสุดท้ายได้อย่างไร เพราะมันเป็นยกที่ยากที่สุดในการมีแรงเหลืออยู่ แต่นั่นก็แสดงให้เห็นว่าเธอฝึกซ้อมมาดีแค่ไหน
ซง ฝึกซ้อมอย่างหนัก เธอเตรียมพร้อมมาแล้ว เธอก็รู้ว่า ลี มีจิตใจที่แข็งแกร่งไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ลี ไม่เคยถอย เธอพร้อมเดินเข้าหาในทุกๆ ยก แต่ ซง เองก็เตรียมที่จะส่งให้เธอไปถึงขีดจำกัดทั้งร่างกายและจิตใจ
มีคำถามมากมายเกี่ยวกับการรีแมตช์ในศึก ONE: CENTURY PART I เช่น ใครจะเป็นฝ่ายทำได้ดีกว่าเมื่อโอกาสมาถึง ซง จะคงยืนหนึ่งได้หรือไม่ หรือ ลี จะปราบราชินีแห่งรุ่นสตรอว์เวตลงไปนอนกับพื้น
ในไฟต์แรกดูเหมือนว่า ลี จะแบกรุ่นน้ำหนักมากเกินไป แต่ตอนนี้ความน่าสนใจทั้งหมดอยู่ที่ฝั่ง ซง ว่าเธอจะปรับตัวอย่างไรเมื่อต้องลงมาสู้ในรุ่นอะตอมเวต
ฉันแทบจะทนรอไม่ไหว และรู้สึกตื่นเต้นมากๆ สำหรับการรีแมตช์ครั้งนี้ ซึ่งมีความเป็นได้ว่าถ้า ลี ชนะ พวกเราคงต้องจับตามองว่าจะมีใครปรากฏตัวออกมาเพื่อเป็นผู้ท้าชิงคนต่อไป
ฉันไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อทั้งคู่ต่อสู้กัน แต่ไม่ว่าจะด้วยรุ่นน้ำหนักใดก็ตาม มีสิ่งหนึ่งที่สามารถการันตีได้ก็คือ ฉันจะอยู่ที่นั่นและลุ้นจนตัวโก่งอย่างแน่นอน
“มิชา เทต” รองประธานของ วัน แชมเปียนชิพ เธอเคยเป็นแชมป์โลกศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสานหลายสมัย รวมถึงเป็นผู้บุกเบิกศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสานสำหรับสตรีอีกด้วย สามารถติดตามอ่านบทความของเธอได้จากคอลัมน์ “จากใจ มิชา เทต” ได้ทุกสัปดาห์
โตเกียว | 13 ตุลาคม | ONE: CENTURY | ทีวี: ตรวจสอบวัน-เวลาออกอากาศจากสถานีโทรทัศน์ในประเทศ | บัตรเข้าชม:http://bit.ly/onecentury19
ONE: CENTURY คือศึกชิงแชมป์โลกศิลปะการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ซึ่งมีแชมป์โลก 28 คนจากหลากหลายศิลปะการต่อสู้ขึ้นเวที ไม่มีองค์กรใดที่เคยจัดอีเวนต์ชิงแชมป์โลกแบบเต็มสเกลถึง 2 ศึกในวันเดียวกันมาก่อนในประวัติศาสตร์
วัน แชมเปียนชิพ เตรียมสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ด้วยการชิงแชมป์โลกมากมาย รอบชิงชนะเลิศทัวร์นาเมนต์ เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 3 คู่ และแชมป์โลกปะทะแชมป์โลกอีกมากมาย ในสังเวียน เรียวโงกุ โกกุงิกัง กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น วันที่ 13 ตุลาคมนี้