ทิศทาง 4 แชมป์โลกชาวไทยบนสังเวียน ONE ปี 2563
ผลงานของเหล่านักสู้จากแดนสยามในปี 2562 ที่พาเหรดกันคว้าชัยชนะอย่างเป็นกอบเป็นกำ โดยเฉพาะผลงานการคว้าแชมป์โลกได้ถึง 5 เส้น ทำสถิติเป็น ชาติที่คว้าแชมป์โลก ONE มากที่สุด ในปีนี้ นับว่าเป็นผลงานอันยอดเยี่ยมสมแล้วที่เป็นประเทศต้นกำเนิดของ “ศาสตร์แห่งอาวุธทั้ง 8” อย่าง “มวยไทย”
ในปี 2563 ที่กำลังจะมาถึง แชมป์โลก ONE ทั้ง 4 คนผู้ครองเข็มขัดแชมป์โลก ONE 5 เส้น จะต้องเจอภารกิจที่ยากขึ้นไปอีกขั้น นั่นคือการรักษาแชมป์โลกไว้ให้นานที่สุดเท่าที่พวกเขาจะทำได้ และนี่คือทิศทางบนสังเวียน วัน แชมเปียนชิพ ที่อาจจะเกิดขึ้นกับพวกเขาในปี 2563
แสตมป์ กับความหวังสร้างประวัติศาสตร์แชมป์โลก 3 ประเภทกีฬาต่อสู้
หลังจากสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักสู้หญิงคนแรกที่คว้าแชมป์โลก ONE มวยไทย และ คิกบ็อกซิ่ง มาครองได้ทั้งสองเส้นในเวลาเดียวกัน ตอนนี้ “แสตมป์ แฟร์เท็กซ์” มีเป้าหมายต่อไปคือการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ในการรวบแชมป์โลก ONE อีกเส้นในกีฬาศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA)
ปีนี้เธอลงแข่งขันในกติกานี้ และสามารถคว้าชัยมาได้สองไฟต์ จากชัยชนะอันสวยหรูเหนือ “อาชา โรกา” ดาวรุ่งสาวจากอินเดีย และ “บิ เหงียน” ฮีโร่สาวจากเวียดนาม
"แสตมป์ แฟร์เท็กซ์" เตรียมขึ้นสังเวียนรับปีใหม่ 10 มกราคมนี้ ที่อิมแพ็ค อารีน่า
เรารู้ว่าคุณคิดถึงเธอ!…"แสตมป์ แฟร์เท็กซ์" เตรียมขึ้นสังเวียนรับปีใหม่ 10 มกราคมนี้ ที่อิมแพ็ค อารีน่า…ไปเชียร์เธอด้วยกันนะคะ………………………………………………..🗓 ONE: A NEW TOMORROW🕓 10 มกราคม | 17.00 น. | อิมแพ็ค อารีน่า📱 จองบัตรเข้าชม 👉 http://bit.ly/ONEANTtickets
Posted by ONE Championship Thailand on Friday, December 13, 2019
ในปี 2563 จึงมีแนวโน้มว่า แสตมป์ จะพุ่งเป้าไปที่การต่อสู้ในรูปแบบผสมผสานซะเป็นส่วนใหญ่ โดยโปรแกรมแรกของศักราชใหม่ เธอก็มีคิวขึ้นเวทีในกติกานี้กับ “พูจา โทมาร์” ซึ่งหากเธอสามารถคว้าชัยได้อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี เธออาจมีโอกาสได้ชิงแชมป์โลกในช่วงปลายปีนี้ หรือต้นปีหน้า
ขณะเดียวกัน หน้าที่ของแชมป์โลก ONE มวยไทย และ คิกบ็อกซิ่ง เธอก็ยังคงต้องป้องกันแชมป์เมื่อมีผู้ที่เหมาะสมก้าวขึ้นมาท้าทาย ไม่มีทางที่จะหลีกเลี่ยงได้ ดังที่เจ้าตัวเคยพูดไว้ว่า ยากกว่าการชิงเข็มขัดเส้นที่ 2 ก็คือการไล่ล่าเข็มขัดเส้นที่ 3 และยังต้องรักษาเข็มขัดทั้งสองเส้นเอาไว้ให้ได้นั่นเอง
เส้นทางสุดหินของแชมป์โลกจอมบู๊จากแดนสยาม
นี่คือนักชกไทยที่ขึ้นสังเวียนมากที่สุดในปี 2561 ของ วัน แชมเปียนชิพ สำหรับ “รถถัง จิตรเมืองนนท์” แชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวต หลังจากคว้าชัยชนะรวดถึง 5 ไฟต์ติดต่อกันในปีนี้ โดยเฉพาะ 2 ไฟต์ล่าสุดสามารถโค่น “โจนาธาน แฮ็กเกอร์ตี” และคว้าแชมป์โลกมาครองได้สำเร็จ ก่อนจะปราบผู้ท้าชิง “วอลเตอร์ กอนซาลเวส” และป้องกันแชมป์โลกครั้งแรกไว้ได้ เป็นการส่งท้ายปี 2562 อย่างสมบูรณ์แบบ
ทว่าในปี 2563 อาจจะเป็นอีกหนึ่งปีหฤโหดของนักชกจากพัทลุงรายนี้ที่จะต้องพิสูจน์ตัวเอง เพราะเพียงแค่เริ่มต้นปี เจ้าตัวก็ต้องพบกับศึกหนักในการรีแมตช์กับคู่ปรับเก่าเจ้าของเข็มขัดแชมป์โลกคนเดิมที่ตามมาทวงของรักของหวง อย่าง “โจนาธาน แฮ็กเกอร์ตี”
นี่ยังไม่นับ “อีเลียส มาห์มูดี” ที่เพิ่งพิชิตชัยเหนือ “เลิศศิลา ภูเก็ตท็อปทีม” เมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ว่ากันว่าดาวรุ่งหนุ่มจากแอลจีเรียรายนี้อาจได้สิทธิ์ขึ้นชิงเข็มขัดเส้นนี้ด้วยเช่นกัน
หลังปีใหม่มามันกัน 10 มกราคม อิมแพ็ค อารีน่า "รถถัง vs แฮ็กเกอร์ตี"
หลังปีใหม่มามันกัน 10 มกราคม อิมแพ็ค อารีน่า "รถถัง vs แฮ็กเกอร์ตี" ศึกแรกรับศักราชใหม่ ของ วัน แชมเปียนชิพ เดือดตั้งแต่ต้นปี 🔥🔥🔥………………………………………………..🗓 ONE: A NEW TOMORROW🕓 10 มกราคม | 17.00 น. | อิมแพ็ค อารีน่า📱 จองบัตรเข้าชม 👉 http://bit.ly/ONEANTtickets
Posted by ONE Championship Thailand on Friday, December 13, 2019
อย่างไรก็ตามในรุ่นฟลายเวตถือเป็นรุ่นพิมพ์นิยมที่เต็มไปด้วยนักสู้ระดับชั้นแนวหน้าทั้งในไทยและนานาชาติ บัลลังก์แชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวต จึงเนื้อหอมและเป็นที่หมายปองของผู้ท้าชิง จึงเป็นงานหนักของแชมป์โลกรุ่นนี้ที่จะรักษาสมบัติของตัวเองไว้ให้เหนียวแน่น
สำหรับ รถถัง จะยังไม่หยุดอยู่เพียงเท่านี้ หากเขาได้กอดเข็มขัดเส้นนี้ต่อไปหลังจบนัดล้างตากับ โจนาธาน ในวันที่ 10 มกราคม 2563 เจ้าตัวก็อยากจะท้าทายในกติกาคิกบ็อกซิ่งดูบ้าง ซึ่งงานนี้ก็ต้องรับประทานของหนักอีกรอบ เพราะเจ้าของแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นฟลายเวตคนปัจจุบันอย่าง “อิเลียส เอ็นนาฮาชิ” นั้นถือว่าเป็นอีกหนึ่งงานยากทีเดียว
ว่าที่แชมป์โลกไร้เทียมทานที่สุดแห่งปี 2563
กลายเป็นยอดมวยที่หาตัวจับยากไปโดยปริยาย สำหรับ “น้องโอ๋ ไก่ย่างห้าดาว” แชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต ที่ยิ่งแก่ยิ่งเก๋า เหมือนขิงยิ่งแก่ยิ่งเผ็ด ซึ่งผลงานในปี 2562 ที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่าไร้เทียมทานจริงๆ ชัยชนะเหนือผู้ท้าชิงระดับกระดูกขัดมันตลอดทั้ง 3 ไฟต์ที่ผ่านมาเป็นเครื่องการันตีว่า ยอดมวยวัย 32 ปีจากสกลนครรายนี้ยากที่จะหาผู้ท้าชิงมาโค่นบัลลังก์ของเขาได้
น้องโอ๋ ป้องกันตำแหน่งครั้งแรกด้วยการชนะคะแนนเหนือ “ฮิโรอากิ ซูซูกิ” นักชกจอมแกร่งจากแดนปลาดิบ ตามมาด้วยชัยชนะเหนือ “บริซ เดลวัล” นักชกก้านยาวที่ น้องโอ๋ ยกให้เป็นคู่แข่งอันตรายที่สุดไปแบบสูสี ก่อนที่จะตอกย้ำความเป็นเบอร์หนึ่งในกติกามวยไทย รุ่นแบนตัมเวต ด้วยการน็อก “เสมาเพชร แฟร์เท็กซ์” เป็นการปิดท้ายปี 2562 อย่างสวยสดงดงาม
หลังจากที่ได้เห็นฟอร์มการชกไฟต์ล่าสุดของ น้องโอ๋ ทำให้เห็นภาพว่า นี่อาจจะเป็นว่าที่แชมป์โลกไร้เทียมทานแห่งปี 2563 เพราะหากไล่เรียงบรรดานักชกของรุ่นนี้ เห็นจะมีเพียง “อลาเวอร์ดี รามาซานอฟ” แชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นเดียวกันที่มีชื่อชั้นพอจะวัดฝีมือกับยอดมวยจากแดนสยามได้อย่างสนุก เผลอๆ คู่นี้อาจได้มีโอกาสเดิมพันเข็มขัดกันก็ได้ใครจะรู้
ขณะเดียวกันก็มีกระแสอยากเห็น น้องโอ๋ เป็นตัวแทนประเทศไทยไปต่อกรกับยอดมวยคิกบ็อกซิ่งระดับโลก “จอร์จิโอ เปโตรเซียน” เพราะหลังจากที่ตัวเก็งอย่าง “ยอดแสนไกล ไอเว แฟร์เท็กซ์” ทำภารกิจนี้ไม่สำเร็จในการแข่งขันคิกบ็อกซิ่งทัวร์นาเมนต์ น้องโอ๋ จึงกลายเป็นนักชกความหวังใหม่ที่อาจได้ทำศึกนี้
การเดินทางครั้งใหม่ในพิกัดสตรอว์เวตของแชมป์โลก 2 รุ่น 2 ประเภทกีฬา
ถือว่ากลับมาทวงความยิ่งใหญ่ได้อย่างสมบูรณ์แบบสำหรับ “สามเอ ไก่ย่างห้าดาว” หลังจากคว้าแชมป์โลก ONE คิกบอกซิ่ง รุ่นสตรอว์เวต ให้กับตัวเอง และถือเป็นนักชกผู้เคยครองเข็มขัดสองรุ่นจากสองประเภทกีฬาการต่อสู้ ส่งท้ายปี 2562 ด้วยการใช้ประสบการณ์บนสังเวียนดักต่อยสอนเชิง เอาชนะคะแนน “หวัง จึงกวง” นักชกจอมบู๊จากแดนมังกร ไปได้อย่างประทับใจ
เวลานี้ สามเอ ยังคงเก็บตัวซ้อมอย่างขะมักเขม้นเพื่อรอเวลาขึ้นป้องกันแชมป์โลกในอนาคต ซึ่งยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าใครจะก้าวขึ้นมาเป็นผู้ท้าชิงในไฟต์ถัดไป
แม้อายุอานามจะเข้าเลข 36 แล้ว แต่ก็ไม่ถือว่าเป็นอุปสรรคสำหรับนักชกจากบุรีรัมย์รายนี้ ยิ่งไปกว่านั้นการได้ชกในพิกัดที่ไม่เสียเปรียบคู่ชกอย่างรุ่นสตรอว์เวต จะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้เขายิ่งกว่าครั้งที่ชกในรุ่นฟลายเวตมากทีเดียว
ต้องมาลุ้นกันว่าผู้ท้าชิงคนแรกที่อาสามาเขย่าบัลลังก์ สามเอ ในปี 2563 จะเป็นใคร แต่ที่แน่ๆ สามเอ ลั่นวาจาไว้ว่าจะรักษาเข็มขัดแชมป์โลกเส้นนี้ไว้ให้นานที่สุด