“น้องโอ๋ – เปโตรเซียน” แค่คิดก็มันแล้ว
ไม่มีข้อกังขาใดๆ หากจะกล่าวว่า “น้องโอ๋ ไก่ย่างห้าดาว” เจ้าตำนานที่ประสบความสำเร็จอย่างมากมายในวงการมวยไทย กับ “จอร์จิโอ เปโตรเซียน” นักชกคิกบ็อกซิ่งตัวพ่อระดับโลกที่ได้รับการยกย่องว่าเก่งกาจที่สุดแห่งยุค สองคน สองกติกา สองสไตล์ ที่ต่างสร้างปรากฏการณ์มากมายบนสังเวียนผืนผ้าใบให้ประจักษ์ในวงการต่อสู้ ซึ่งปัจจุบันต่างก็เป็นกำปั้นตัวท็อปในสังกัด วัน ซูเปอร์ ซีรีส์ ของ วัน แชมเปียนชิพ ซึ่งอาจมีโอกาสทำให้เส้นทางมวยของทั้งคู่โคจรมาพบกันได้
“น้องโอ๋” เพิ่งคว้าชัยชนะครั้งสำคัญกับการป้องกันตำแหน่งแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต ด้วยการน็อกรุ่นน้องร่วมชาติ “เสมาเพชร แฟร์เท็กซ์” นักชกหนุ่มฟอร์มสดไฟแรงที่แซงโค้งก้าวขึ้นมาท้าชิง หมายกระชากเข็มขัดแชมป์โลก ได้ในยกที่ 4 ของศึก ONE: EDGE OF GREATNESS เมื่อวันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ณ สิงคโปร์ อินดอร์ สเตเดียม
ปีนี้ถือเป็นปีทองของ น้องโอ๋ เพราะเริ่มตั้งแต่การเถลิงบัลลังก์แชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต จากการเอาชนะนักมวยหนุ่มฟอร์มเฉียบจากแดนมังกร “หาน ซือ หาว” ในศึก ONE: CLASH OF LEGENDS เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เขาก็ป้องกันตำแหน่งได้ถึง 3 ครั้งในปีเดียว ตอกย้ำความเป็นเจ้าตำนานมวยไทย แม้จะถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องวัยที่เดินทางมาถึง 33 ปี
ขณะเดียวกันด้าน เปโตรเซียน นักชกหนุ่มชาวอิตาลี เชื้อสายอาร์เมเนีย ที่ขึ้นสังเวียน 5 ไฟต์ในปีนี้ ก็เก็บชัยชนะอย่างสวยงามเช่นเดียวกัน แม้ไฟต์ที่ชกกับ “เพชรมรกต เพชรยินดีอะคาเดมี” ซึ่งได้ชื่อว่าเคยชนะคะแนนเขาได้ แต่สุดท้ายก็มีการยกเลิกคำตัดสิน และจัดให้มีการรีแมตช์ขึ้น โดย เปโตรเซียน เป็นฝ่ายคว้าชัยชนะอย่างเป็นเอกฉันท์ในที่สุด ก่อนที่จะทะลุเข้าไปปิดจ๊อบ “Smokin” โจ ณัฐวุฒิ และ “เซมี ซานา” คว้าตำแหน่งแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง เวิลด์ กรังปรีด์ รุ่นเฟเธอร์เวต ไปครอบครอง พร้อมเงินรางวัล 1 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 31 ล้านบาทไปอีกด้วย
ทำให้ตั้งแต่ปี 2558 เป็นต้นมา เปโตรเซียน เป็นนักชกไร้พ่ายที่ยังไม่เคยแพ้ใครในปฐพี
จากฟอร์มที่ร้อนแรงตลอดปีนี้ ส่งผลให้ทั้งคู่กลายเป็นที่จับตามองของทั่วโลก และด้วยอายุอานาม 33 ปีเท่ากัน แถมดีกรีความสำเร็จก็ไม่มีใครน้อยหน้าใคร จึงทำให้หลายคนคิดไปไกลว่า ถ้า “น้องโอ๋” จะดวลเดือดกับ “เปโตรเซียน” ก็น่าสนใจมากทีเดียว
ติดอยู่ที่ว่า คนหนึ่งถนัดกติกามวยไทย อีกคนถนัดคิกบ็อกซิ่ง ซึ่งมีข้อแตกต่างกันอยู่พอสมควร บวกกับน้ำหนักที่ น้องโอ๋ เคยชกอยู่ในรุ่นแบนตัมเวต (65.8 กิโลกรัม) ขณะที่ เปโตรเซียน ชกอยู่ในรุ่นเฟเธอร์เวต (70.3 กิโลกรัม) ความลงตัวมันจะอยู่ที่ตรงไหน ใครจะยอมเสียเปรียบ-ได้เปรียบ
แม้ตอนนี้จะยังไม่มีคำยืนยันใดๆ จากนักชกทั้งคู่ และจาก วัน แชมเปียนชิพ ซึ่งเป็นต้นสังกัด แต่เชื่อว่ามวยคู่นี้จะเป็นอีกหนึ่ง “คู่มวยหยุดโลก” ของประวัติศาสตร์วงการต่อสู้อย่างแน่นอน
แค่คิดก็มันแล้ว!!