จากใจ มิชา เทต: ถึงไฟต์ที่เธอรอชมในศึก ONE: DREAMS OF GOLD
สำหรับศึก ONE: DREAMS OF GOLD ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี ในวันศุกร์ที่ 16 สิงหาคมนี้ มีการประกบคู่ที่น่าดูชมไว้มากมาย แต่สำหรับ “มิชา เทต” คู่ที่เธอต้องตารอคอยเป็นพิเศษ ต้องยกให้การแข่งขันศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน ระหว่าง “แสตมป์ แฟร์เท็กซ์” กับ “อาชา โรกา”
มิชา เทต: เส้นทางของ แสตมป์ จากนักกีฬาที่ไม่มีใครรู้จักสู่แชมป์โลก ONE สองประเภทกีฬา ในกติกามวยไทยและคิกบ็อกซิ่ง รุ่นอะตอมเวต โดยใช้เวลาอันรวดเร็ว ทำให้ฉันทึ่งมาก จากเรื่องราวที่เธอต้องหาเงินแบ่งเบาภาระครอบครัวตั้งแต่วัย 8 ขวบ ซึ่งมันสามารถบอกได้ว่าศิลปะการต่อสู้สามารถเปลี่ยนชีวิตเธอได้ขนาดไหน
แทบไม่น่าเชื่อว่าเธอเพิ่งอายุแค่ 21 ปี เพราะเธอประสบความสำเร็จมากมายด้วยวัยที่นักกีฬาหลายคนอาจเพิ่งเริ่มต้น การเดินทางของเธอคือบทพิสูจน์ถึงความสามารถและความมุ่งมั่นได้ดีทีเดียว
ในศึกครั้งนี้ที่ประเทศไทยอันเป็นถิ่นกำเนิดของเธอ เธอจะเริ่มต้นเส้นทางเดินใหม่เพื่อก้าวไปเป็นแชมป์โลก 3 ประเภทกีฬาคนแรกของ วัน แชมเปียนชิพ ซึ่งแน่นอนมันจะเป็นเรื่องที่สุดยอดมากหากเธอไปถึงเป้าหมาย แต่ก่อนอื่นเธอจะต้องฝ่าด่านนักสู้ไร้พ่ายที่ต้องการสร้างชื่อให้ตัวเองเช่นกันเสียก่อน
โรกา และ แสตมป์ คือสองดาวรุ่งสาวที่มีทักษะสุดยอดในเกมยืน ความสามารถของแสตมป์ทุกคนคงเห็นแล้ว แต่โรกาซึ่งอายุแค่ 20 ปีก็มีปูมหลังมวยสากลที่เยี่ยมยอด ฉันเชื่อว่าน่าจะเป็นเกมที่เดือดน่าดูสำหรับสองนักสู้หญิงที่ถนัดเกมยืนเหมือนกัน แต่จะต้องแข่งขันกันในกติกาศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน
ถึงแม้ว่าการต่อสู้ในครั้งนี้อาจจะเป็นการยืนประจันหน้ากันตามที่คาดไว้ แต่ฉันมีความรู้สึกว่าจุดอันตรายน่าจะจะอยู่ในเกมภาคพื้นมากกว่า ทำไมฉันถึงพูดเช่นนั้น เพราะฉันรู้ดีว่าพวกเธอต้องการที่จะแสดงให้เห็นว่าเธอมีทักษะที่ยอดเยี่ยมเหนือกว่าอีกฝ่ายอย่างไร
ฉันมีความรู้สึกว่าเกมนี้จะจบลงในบนพื้น ทั้งคู่รู้ว่าพวกเธอจำเป็นต้องพัฒนาทักษะการต่อสู้ให้มากขึ้น หากต้องการที่จะเดินหน้าสู่ระดับที่สูงขึ้นไป ฉันคิดว่าพวกเธอทำได้ โดยเฉพาะแสตมป์
ฉันไม่รู้ว่าจะคาดหวังอะไรจากการต่อสู้บนภาคพื้นของเธอ รวมถึงหลายๆ คำถามที่จะได้คำตอบเมื่อการแข่งขันเริ่มขึ้น นักสู้สาวจากค่ายแฟร์เท็กซ์อาจทำซับมิชชันได้ดีกว่า แต่ฉันไม่รู้ว่า ไว้เรามาหาคำตอบกันในวันศุกร์นี้ที่ประเทศไทย
ทั้งสองคนมีไหวพริบ และพวกเธอจะเตรียมแผนการอย่างดีก่อนที่จะปะทะกันบนสังเวียนที่ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี ฉันไม่รู้ว่า โรกา หรือ แสตมป์ จะเป็นผู้ชนะ แต่ฉันจะไม่ละสายตาออกจากการแข่งขันอย่างเด็ดขาดจนกว่าจะมีผลแพ้-ชนะ
พวกเธอเก่งเรื่องการน็อกคู่ต่อสู้ และการป้องกันตัว แต่เกมนี้มันอาจขึ้นอยู่กับเกมภาคพื้นซึ่งคนอยู่ด้านบนมักจะได้เปรียบ และสามารถเล่นงานคู่ต่อสู้ได้ บทสรุปสำหรับคู่นี้อาจจะออกได้หลายทางตลอดการแข่งขันทั้ง 3 ยก
นอกจากนี้ ยังมีการแข่งขัน ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นเฟเธอร์เวต รอบรองชนะเลิศ ซึ่งฉันจะจับตาดูการห้ำหั่นระหว่างคู่ของ “AK47” เซมี ซานา กับ “Genghis Khan” จาบาร์ แอสเครอฟ
ฉันเคยดูทั้งคู่ขึ้นสังเวียนตั้งแต่รอบก่อนรองชนะเลิศ ในศึก ONE: ENTER THE DRAGON เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และคุณสามารถพูดได้ว่าพวกเขาจะไม่ยอมแพ้จนกว่าจะไปถึงเป้าหมายในการแข่งขันทัวร์นาเมนต์นี้
ซานา ทำให้ทั่วโลกต้องตะลึงหลังจากจากสยบนักชกที่เก่งกาจที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์อย่าง “ยอดแสนไกล ไอเว แฟร์เท็กซ์” การต่อสู้ของทั้งคู่เปรียบเสมือนการเผชิญหน้ากับไฟที่ยากเกินจะคาดเดาได้ ฉันคิดว่าเขาจะใช้ความได้เปรียบเรื่องช่วงยาวเพราะเขาสูงกว่ามาก แต่เขากลับแสดงให้เห็นว่าเขาโจมตีในระยะประชิดได้เช่นกัน
ฉันจำได้ว่าเขาตีเข่าหลายครั้งในระหว่างการต่อสู้ และมันดูเหมือนเป็นการเตะ เขาใช้เข่าได้อย่างมีประสิทธิภาพในขณะที่การโจมตีในระยะไกลถูกยอดแสนไกลดักไว้ได้ ซึ่งมันน่าสนใจที่จะได้เห็นเขาแก้ไขสถานการณ์ มันแสดงให้เห็นว่าเขาสามารถประยุกต์แผนการต่อสู้ไปตามคู่ชกของเขาได้
อย่างไรก็ตาม ฉันคิดว่าเขาจะใช้ความได้เปรียบของช่วงยาวให้เป็นประโยชน์ เนื่องจาก แอสเครอฟ คลุกวงในได้อย่างหนักหน่วงนั่นเอง
นักชกชาวรัสเซีย แอสเครอฟ ต่อสู้ด้วยหัวจิตหัวใจในการเผชิญหน้ากับ “เอ็นริโก เคห์ล” แม้ว่าคู่แข่งจะมีข้อได้เปรียบเรื่องช่วงยาว แต่ผลการแข่งขันอาจจะออกมาเหมือนก้นในวันศุกร์นี้
ข้อได้เปรียบสูงสุดของ แอสเครอฟ คือความแข็งแกร่งอันน่าเหลือเชื่อ และวิธีการปล่อยหมัดอันทรงพลัง ซึ่งคุณอาจจะไม่ค่อยเห็นบ่อยนักในกติกาคิกบ็อกซิ่ง เขาตัวเตี้ยกว่าคู่แข่งขันส่วนใหญ่ แต่เขารู้วิธีการใช้หมัดอย่างมีประสิทธิภาพเมื่ออยู่ในช่วงเปลี่ยนท่า
เขาสามารถออกหมัดได้ทั้งซ้ายและขวา อีกทั้งยังโจมตีแบบหมุนตัวได้ดีอีกด้วย เขาสามารถใช้ท่า Rolling Thunder ตามที่ ไมเคิล เชียเวลโล ตั้งให้ เขาเป็นมวยที่ไม่ถนัดขวาในการโจมตี สิ่งที่เสียเปรียบคือเรื่องระยะ แต่เขาจะใช้พลังและสิ่งที่คาดเดาไม่ได้มาทดแทน
ทุกคนจะเห็นได้ว่าใครมีกลยุทธ์ดีกว่าในการต่อสู้ของทั้ง 2 คู่นี้ ศิลปะการต่อสู้เป็นกีฬาที่ต้องคิด ทุกคนสามารถต่อสู้ได้ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะนำเอาทักษะมาใช้ได้อย่างเหมาะเจาะในการแข่งขัน ซึ่งนั่นทำให้กลยุทธ์มีส่วนสำคัญอย่างมาก
สำหรับนักสู้ทั้ง 4 คนนี้ถือเป็นนักวางแผนระดับโลก และฉันคาดหวังว่านักกีฬาทุกคนที่ร่วมชิงชัยในศึก ONE: DREAMS OF GOLD จะแสดงผลงานได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ
กรุงเทพฯ